โฆษกประชาธิปัตย์ ซัด “กิตติรัตน์” ทำความเชื่อมั่นเศรษฐกิจรัฐลด สับโกหกเป็นนิสัย โยนบาปข้าราชการ ไม่เหมาะสมตำแหน่งแล้ว จวกพาณิชย์โป้ปดแถลงเงินเฟ้อ ท้า “ยรรยง” โชว์หลักฐาน เตือน “ณัฐวุฒิ” คุยอินโดฯ-มาเลย์เบรกส่งออกยาง หากคู่ค้าไม่ทำตามไทยเสียเปรียบ ฉะรัฐขายข้าวขาว 5% ต่ำกว่าทุน ทำเอกชนได้ประโยชน์
วันนี้ (4 ก.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความเชื่อมั่นต่อทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลขณะนี้ลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง หลังจากออกมายอมรับโกหกสีขาวเรื่องเป้าการส่งออก ซ้ำร้ายกว่านั้นยังออกมากล่าวโทษข้าราชการว่าเป็นผู้ให้ตัวเลขเหล่านั้นกับตนเอง และกล้าพูดแม้กระทั่งว่าไม่เห็นด้วยต่อเป้าหมายการส่งออกดังกล่าว แต่ไม่กล้าคัดค้านตัวเลขจากฝั่งราชการจึงจำเป็นต้องเห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม สิ่งหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่านอกจากนายกิตติรัตน์จะโกหกจนเป็นนิสัย แล้วยังพยายามโยนบาปให้ความความผิดผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่มีความเหมาะสมดำรงตำแหน่งรองนายกฯ หรือ รมว.คลัง หรือแม้แต่ตำแหน่งใดๆ ที่ใช้ความรับผิดชอบกล้ายอมรับความจริงและยอมรับผิด ถ้านายกิตติรัตน์อ้างว่าไม่ห็นด้วยกับการเป้าการส่งออกตั้งแต่ต้นทำไมถึงไม่มีการสั่งการให้ปรับตัวเลขให้เป็นไปตามตัวเลขข้อเท็จจริง ทั้งที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ถ้าจะอ้างว่าต้องโอนอ่อนผ่อนตามตัวเลขจากฝั่งข้าราชการ นายกิตติรัตน์ก็ไม่จำเป็นต้องนั่งเป็น รมว.คลัง
นายชวนนนท์กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่านายกิตติรัตน์ขาดคุณสมบัติในการทำงานเพื่อประชาชน ขาดคุณสมบัติรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจประเทศ ซ้ำร้ายที่สุดรัฐบาลชุดนี้ยังรวมหัวโกหกประชาชน ทั้งกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งขณะนี้ออกมายอมรับว่าการส่งออกขยายตัวเต็มที่ก็เพียง 5% หรือดีสุดไม่เกิน 7% ตัวเลขเหล่านี้ อยู่ในใจผู้ปฏิบัติงานตั้งแต่ต้น แต่เพิ่งออกมายอมรับเมื่อนายกิตติรัตน์พูดออกมาว่าตัวเลขเป็นการโกหกประชาชน นอกจากนี้ จากการแถลงเงินเฟ้อเดือน ส.ค. เทียบกับ เดือน ก.ค. เพิ่มสูงขึ้นเพียง 0.40% นั้นไม่รู้ว่าเป็นโกหกสีอะไรของกระทรวงพาณิชย์ เพราะขัดแย้งกับข้อเท็จริงภาวะสินค้าของแพงเพิ่มสูงขึ้นปรับราคาแอลพีจีภาคอุตสาหกรม มีแนวโน้มแก๊สหุงต้มภาคขนส่งต่อเนื่อง
“ขอท้านายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ให้นำหลักฐานการคำนวณเงินเฟ้อมาแสดงต่อสาธารณะหรือนำเสนอส่งให้หน่วยงานกลางเป็นผู้ตรวจสอบเพราะเครดิตความน่าเชื่อถือกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ ใต้การบริหารงานของ รมว.สองคนนั้น หมดไปสิ้นเชิงแล้วในสายตาของประชาชน เช่นเดียวกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งไปเจรจากับมาเลเซีย อินโดนีเซีย เพื่อให้ชะลอการส่งออกดึงราคาตลาดโลก เรื่องนี้ต้องระมัดระวังเพราะหากประเทศใดประเทศหนึ่งไม่ปฏิบัติตามที่ตกลงกันไว้หรือส่งสัญญาณ เอายางออกมาขายจะทำให้ไทยเสียโอกาสส่งออกยาง ซ้ำร้ายราคายางตลาดโลกตกต่อเนื่อง ตลาดไม่มีขาย หมดหนทางแก้ไข” นายชวนนท์กล่าว
นายชวนนท์ยังกล่าวถึงการประมูลข้าวขาวกว่า 2 แสนตันให้ 4 บริษัทว่า ชัดเจนว่ารัฐบาลขายขาดทุน คำนวณคร่าวๆ ขาดทุนตันละ 6,000-7,000 บาท คูณกับ 2.1 แสนตัน ที่ประมูลออกไปตก 1,300-1,500 ล้านบาท แต่ตัวเลขที่แท้จริงที่รัฐบาลจะมีการขายให้เอกชนจะต่ำกว่านี้ เพราะกระทรวงพาณิชย์อ้างว่าจะต้องเรียกเอกชนผู้ได้รับประเมินรอบแรกมาแจรจาต่อรองเพิ่มเติม ที่สำคัญราคาที่เอกชนประมูลได้นั้นก็ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์พูดมาโดยตลอดว่าจะต้องไม่ต่ำกว่าราคาตลาด
นายชวนนท์กล่าวว่า ราคาประมูลข้าวขาว 5% ที่ประมูลต่ำกว่าราคาตลาดพอสมควร แสดงให้เห็นว่าเอกชนจะได้ประโยชน์จากการเข้ามาช้อนซื้อข้าวในสต๊อกของรัฐบาลที่ราคาต่ำกว่าตลาดเพราะรัฐบาลต้องเร่งรีบในการนำข้าวออกมาขายเพราะต้องการเปิดที่วางให้โรงสีสต๊อกข้าวในฤดูกาลผลิตใหม่ที่ขออนุมัติ ครม. แสนล้านบาทมาถลุงในปีถัด ไปจึงอยากให้ประชาชนจับตาดู