“เจ๊ ด.”จุ้นทุกเรื่อง ล้วงลูกตั้งบิ๊กขรก.

ปัญหาความขัดแย้งในการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่ระหว่าง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมกับพลเอกเสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นได้เป็นอย่างดีถึงปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงที่เกิดขึ้นในรัฐบาลเพื่อไทย

ซึ่งเชื่อได้ว่าแทบทุกกระทรวงและหลายกรมมีปัญหา เพียงแต่หลายหน่วยงาน ไม่ปรากฏข่าวปัญหาออกมาให้สังคมได้ยินเหมือนกลาโหม นั่นเพราะสาเหตุต่างๆ

เช่น ข้าราชการประจำเองผู้มีอำนาจตัดสินใจในการเสนอรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ไม่กล้าต่อกรกับฝ่ายการเมืองเพราะเกรงกลัวจะถูกกลั่นแกล้ง จึงต้องทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายลูกน้องในสังกัดตาม “ใบสั่ง”ที่ได้รับ

หรือไม่ก็คนซึ่งควรจะได้รับตำแหน่งที่ดีขึ้นเพราะมีความอาวุโส มีผลงาน แต่กลับถูกมองข้าม เนื่องจากไม่เคยวิ่งเข้าหานักการเมือง หรือทำงานรับใช้นักการเมือง แต่คนกลุ่มนี้ก็ไม่คิดจะต่อสู้เพื่อเรียกร้องความถูกต้อง เข้าลักษณะเพลย์เซฟตัวเองไปเรื่อยๆ

ขณะที่บางคนที่ถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่งเดิมไปอยู่ในตำแหน่งที่แย่กว่าเดิมมากเสมือนกับเป็นการลงโทษ ทั้งที่ไม่ได้มีความผิดหรือทำงานบกพร่องอะไร แต่โดนย้ายออกเพื่อเปิดทางเอาเก้าอี้ไปให้คนของพวกนักการเมือง ก็ปรากฏว่าคนที่ถูกย้าย ก็ไม่กล้าทวงถามเหตุผลจากฝ่ายการเมืองได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรมไป

ยิ่งตอนนี้เข้าสู่เดือนกันยายนอันเป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณที่ก็คือช่วงฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประจำปี ทำให้เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการหลายหน่วยงานถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ ว่า

จะมีการเมืองเข้าไปสั่งการ แทรกแซงแบบน่าเกลียดเกินความพอดีเกิดขึ้นหรือไม่

อย่างเวลานี้ที่ “ทีมข่าวการเมือง”ได้ยินมา และในแวดวงการเมืองเริ่มพูดกันมากก็คือ นักการเมืองบางรายที่เป็นระดับ”บิ๊กเนม”เล่นเดินสายแทรกแซงการทำงานของรัฐมนตรีในพรรคตัวเองแทบทุกกระทรวง

มีทั้งเรียกดูโปรเจคต์ สารพัดโครงการที่อยู่ในงบฯปี 56 ในแต่ละกระทรวงมาดู สงสัยคงเพื่อจะได้หาช่องทางเข้าไปหาประโยชน์ มิหน้ำซ้ำเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปได้โดยสะดวก ไม่มีหนอนบ่อนไส้เอาข้อมูลไปบอกฝ่ายตรงข้าม หรือมีใครมาขวางหูขวางตา ก็เลยต้องย้ายคนที่ไม่ไว้ใจออกจากตำแหน่ง แล้วเอาคนของตัวเองมาทำงานแทน

จนกลายเป็นที่พูดถึงในแวดวงการเมืองเวลานี้ แต่คนๆนั้นจะใช่ “เจ๊ ด.”ที่ตกเป็นข่าวมาหลายสัปดาห์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการใหญ่ๆของรัฐบาลและยังมีส่วนสำคัญในการเป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหาการกระทบกระทั่งกันระหว่างพลเอกเสถียรกับพล.อ.อ.สุกำพล อย่างที่องอาจ คล้ามไพบูลย์ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ออกมาปูดชื่อ “เจ๊ ด.”หรือไม่

เราไม่สามารถเฉลยได้ ต้องให้ผู้สนใจไปต่อจิ๊กซอว์หาความเชื่อมโยงกันเอง แต่ในแวดวงการเมืองแล้ว ไม่ต้องเอ่ยชื่อย่อหรืออักษรย่ออะไร ก็รู้กันไปทั่วแล้วว่า บิ๊กเนมนักการเมืองคนดังกล่าวคือใคร

ล่าสุดมีข่าวลับๆ รายงานมาว่า นักการเมืองคนดังกล่าว เข้าไปเปลี่ยนชื่อ ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นข้าราชการซี 11 คนหนึ่งในกระทรวงใหญ่ที่มีงบประมาณจำนวนมาก ทั้งที่รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงคิดจะผลักดันอีกคนหนึ่งให้รับตำแหน่ง โผที่ว่านิ่งมาตลอดหลายเดือน ก็ยังต้องแก้ไข เอาอีกคนหนึ่งที่ชื่อมาแรงกว่าในช่วงปลายเข้ารับตำแหน่งแทน

เรื่องทำนองแบบนี้”ทีมข่าวการเมือง”ขอเตือนไปยังยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐมนตรีทุกคนในรัฐบาลให้ระวังกันให้มาก อย่าคิดว่ามีอำนาจแล้วจะใช้อำนาจแบบไม่คำนึงถึงหลักการความถูกต้อง เพราะอะไรที่ทำไม่ดีเอาไว้อย่าคิดว่าไม่มีใครรู้ ความไม่พอใจของคนที่ถูกกลั่นแกล้ง-รังแกในแต่ละหน่วยงานอาจถึงจุดแตกหักได้

อย่าคิดว่า กรณีคลิปลับเสียงพูดระหว่าง ฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ที่พูดจากดดันนายเจริญ ใจชอบ อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรีเพราะต้องการให้เปิดทางให้ได้ที่ดินอุทยานฯ 70 ไร่เพื่อปลูกยางพารา ที่ทำให้สังคมได้รับรู้ว่าขนาดข้าราชการตัวเล็กๆก็ยังไม่เว้นจะโดนฝ่ายการเมืองกดหัวจะไม่เกิดขึ้นอีก อย่าคิดว่าวงการข้าราชการจะไม่มีคนอย่างถวิล เปลี่ยนศรี ขึ้นมาอีกหากโดนการเมืองกลั่นแกล้งรังแก

ขอให้เชื่อเถอะว่ามันต้องมีกรณีแบบถวิล เปลี่ยนศรีหรือพลเอกเสถียร เพิ่มทองอินทร์และคลิปเสียงฉลอง เรี่ยวแรงเกิดขึ้นอีกแน่ หากวงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการของเรายังคงอุบาทว์ซ้ำซากเช่นนี้ มันก็ต้องมีขบวนการลุกขึ้นสู้เกิดขึ้นแน่นอน เมื่อคนคิดจะบอกให้สังคมรู้ว่ามีความไม่ถูกต้องอะไรเกิดขึ้นกับประเทศนี้

สำหรับเวลานี้ หลายกระทรวงก็มีการตั้งในระดับ ซี 11 หรือปลัดกระทรวงอะไรไปมากแล้ว เช่น กระทรวงพาณิชย์ ที่ตั้ง นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายในมาเป็นปลัดฯพาณิชย์คนใหม่ -กระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงคนใหม่ก็คือ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต

เช่นเดียวกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ นายชวลิต ชูขจร รองปลัดกระทรวงเกษตรฯมาเป็นปลัดกระทรวงคนใหม่ หรือ นายวีระพงศ์ แพสุวรรณ รองปลัดกระทรวง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ครม.เห็นชอบเมื่อ 28 ส.ค.ที่ผ่านมาให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง วิทยาศาสตร์ฯ เป็นต้น

ขณะที่ระดับ 10 หลายกระทรวงก็เริ่มทยอยแต่งตั้งโยกย้ายกันแล้ว ที่น่าสนใจก็เช่นกรณีการโยกสลับในกระทรวงการคลังคือให้นางเบญจา หลุยเจริญ จากอธิบดีกรมสรรพาสามิตไปเป็นอธิบดีกรมศุลกากร ที่เป็นกรมใหญ่เกรดเอของกระทรวงการคลัง แล้วก็โยกสมชาย พูลสวัสดิ์ จากอธิบดีกรมศุลกากรมาเป็นอธิบดีกรมสรรพสามิตแทนนางเบญจา ที่รู้กันว่าเป็นคนที่แกนนำเพื่อไทยระดับสายจันทร์ส่องหล้าให้การสนับสนุนมาตลอด

ขณะที่อีกหลายกระทรวงผู้คนก็จับตามองกันอยู่ ทั้งในระดับซี 11 และระดับ 10 พวกอธิบดีกรมต่างๆ

เช่น อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่คนก็สนใจอยู่ว่าจะเป็นใครที่จะมาแทน ดำรงค์ พิเดช อธิบดีคนดังในเวลานี้

แต่ที่มีคำยืนยันออกมาแล้วก็คือ การประชุมครม.วันที่ 4 กันยายนนี้ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทยจะนำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยทั้งระดับซี 11 และระดับ 10 ที่เป็นโผล็อตแรกก่อนในตำแหน่งหลักเช่น รองปลัดกระทรวง-อธิบดี เข้าสู่การเห็นชอบของที่ประชุมครม.แน่นอน

หลังยื้อกันมานานจากปัญหาความไม่ลงตัวในหลายตำแหน่งสำคัญที่ฝ่ายการเมืองในพรรคเพื่อไทย พยายามผลักดันคนของตัวเองให้เข้ารับตำแหน่งใหญ่ๆ เช่นปลัดกระทรวงมหาดไทย-อธิบดีกรมการปกครอง-อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น -ผู้ว่าราชการจังหวัดสำคัญๆ เช่น เชียงใหม่ -ภูเก็ต-นครราชสีมา-ชลบุรี เป็นต้น

จนทำให้การทำโผมหาดไทยในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีความปั่นป่วนพอสมควร หลายตำแหน่งที่ชื่อนิ่งแล้วก็ต้องมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกันหลายระลอก

แถมมีข่าวว่าพวกแกนนำเสื้อแดง-ส.ส.เสื้อแดงในเพื่อไทย ก็ร่วมวงด้วย จะเอาพวกผู้ว่าฯในจังหวัดของตัวเองขึ้นเป็นอธิบดีกรมใหญ่ หรือไม่ก็ให้พวกรองผู้ว่าฯในจังหวัดของตัวเองได้ขึ้นเป็นผู้ว่าฯเป็นซี10ให้ได้ จนมีการเสนอชื่อไปให้ฝ่ายการเมืองในพรรคพิจารณาด้วย

โผมหาดไทยเลยมาจากทุกสายทั้งสายการเมือง-สายข้าราชการ จนมีข่าวว่าบางตำแหน่งทักษิณและยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องเข้ามาตรวจสอบรายชื่อและอนุมัติเองในชั้นสุดท้าย ซึ่งกว่าทุกอย่างจะลงตัวก็ทำเอาบรรดาพวกรอลุ้นทั้งหลายในมหาดไทย เหนื่อยไม่ใช่เล่น

สำหรับเก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยที่แกว่งไปมาหลายรอบ จากเดิม ประชา เตรัตน์ รองปลัดมท.เป็นตัวเต็งมาตลอด แต่ชื่อเริ่มหลุดในช่วงปลาย ตอนนี้ ข่าวว่า ชื่อวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) น่าจะชัดแล้ว แต่ก็ไม่แน่ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อีกชนิดพลิกโผนาทีสุดท้ายตอนนำเอกสารแต่งตั้งเข้าที่ประชุมครม.

สำหรับรองปลัดกระทรวงมหาดไทยที่จะมีการแต่งตั้งโยกย้ายกันรอบนี้ มีชื่อของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผวจ. เชียงใหม่ -นายประพาส บุญยินดี อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนผิดโผด้วย

ส่วนขวัญชัย วงศ์นิติกร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย จะย้ายออกไปเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนแทนนายประพาส สำหรับอธิบดีกรมการปกครอง ข่าวว่าแกนนำเสื้อแดงภาคอีสานหลายคนรวมถึงส.ส.อุดรธานี เพื่อไทยทั้งจังหวัดหนุนหลัง นายแก่นเพชร ช่วงรังสี ผวจ.อุดรธานี ให้เข้ามาเป็นอธิบดีกรมการปกครองคนใหม่

ส่วนคนที่จะมาเป็นผู้ว่าฯเชียงใหม่ บ้านเกิดยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชื่อของธานินทร์ สุภาแสน ผวจ.เชียงราย สายตรงนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น่าจะมีสิทธิ์ลุ้น

ขณะที่อธิบดีกรมป้องกันฯ เก็งว่าน่าจะเป็น ฉัตรชัย พรหมเลิศ ผวจ.ลพบุรี อดีตรองอธิบดีปภ.มาก่อน ส่วนอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น อีกกรมใหญ่ของมหาดไทย ก็เก็งกันไว้ว่าชื่อของนายชวน ศิรินันท์พร ผวจ.นครราชสีมามาแรง และอีกหนึ่งกรมที่มีข่าวมาก็คือ มณฑล สุดประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย อาจได้ออกจากกรุไปเป็นอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง

4 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายนนี้ จึงเป็นช่วงของการลุ้นเก้าอี้ของพวกบิ๊กข้าราชการทั้งหลาย ส่วนคนไหนจะสมหวังหรือผิดหวัง คงต้องทำใจกันไว้บ้าง