xs
xsm
sm
md
lg

“แม่เกด” ขนแดงรุมซัก “อมรา” จี้ลาออก หลังรายงานสลายม็อบหลุด เจ้าตัวแจงของจริงยังไม่เสร็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางอมรา พงศาพิชญ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ภาพจากแฟ้ม)
“พะเยา” แม่อาสาพยาบาล ขนเสื้อแดงบุก กสม.ขอพบ “อมรา” ก่อนกรูล้อมกรอบซักอย่างโมโห อ้างรายงานผลสอบสลายม็อบราชประสงค์ไม่เป็นธรรม ซัดสองมาตรฐาน เข้าข้างอภิสิทธิ์ อคติเสื้อแดง จี้ลาออก ด้านเจ้าตัวยันของจริงยังไม่เสร็จ แจงล่าช้าเพราะซับซ้อน ส่วนที่มอบดอกไม้ก็ให้ทุกฝ่าย “วีระ-เหวง” ก็ไปเยี่ยม โอดเสื้อแดงรู้ข้อมูลด้านเดียว “หมอนิรันดร์” เชื่อ 1-2 เดือนรายงานเสร็จแน่


วันนี้ (29 ส.ค.) ผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง จำนวนกว่า 50 คน นำโดยนางพะเยา อัคฮาด หรือมารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 ได้เดินทางมาชุมนุมที่ด้านหน้าอาคารรัฐประศาสนศาสตร์ ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยต้องการขอพบนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เพื่อสอบถามกรณีที่มีการเผยแพร่รายงานผลการตรวจสอบการสลายการชุมนุม ปี 2553 ของ กสม.ทางสื่อมวลชน ที่มีเนื้อหาทำนองว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนผู้อื่น เป็นผู้ใช้ความรุนแรง ขณะที่การดำเนินการของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในขณะนั้นเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามสากล ภายใต้กฎหมาย ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิ เนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นธรรมต่อคนเสื้อแดง

ทั้งนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมาชุมนุมต่างแสดงอารมณ์โมโห ไม่พอใจต่อผลสรุปของรายงานที่อ้างว่าเป็นรายงานของ กสม. โดยมีการตะโกนต่อว่าการทำหน้าที่ของ กสม.อยู่ตลอดเวลา ขณะที่รถกระบะที่ติดเครื่องขยายเสียง ก็มีการติดป้ายผ้าที่เป็นภาพของนางอมรา และ กสม.ที่เคยนำดอกไม้ไปมอบให้นายอภิสิทธิ์เมื่อครั้งเป็นรัฐบาล เมื่อนางอมราลงมาพบกับผู้ชุมนุมพร้อมกับนางวิสา เบ็ญจะมโน, นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ผู้ชุมนุมก็กรูเข้าล้อมนางอมราและคณะ พร้อมกับตั้งคำถามผ่านไมโครโฟนที่พ่วงกับเครื่องขยายเสียง เพื่อที่จะให้ผู้ชุมนุมและประชาชนที่มาติดต่อราชการภายในอาคารศูนย์ราชการฯ ได้รับทราบ

โดยผู้ชุมนุมต่างก็สับเปลี่ยนกันตั้งคำถามกับนางอมราว่า หาก กสม.ระบุว่ารายงานที่มีการเผยแพร่ไม่ใช่ฉบับจริง ของจริงจะออกเมื่อใด และจากท่าทีของ กสม.ที่ผ่านมาต่อการปกป้องการละเมิดสิทธิ คนเสื้อแดงมองว่า กสม.ไม่ให้ความสำคัญกับการปกป้องสิทธิคนเสื้อแดง แต่ให้การปกป้องสิทธิคนเสื้อเหลืองมากกว่า เป็นลักษณะสองมาตรฐาน อีกทั้งภาพที่นางอมรานำดอกไม้ไปให้นายอภิสิทธิ์ เมื่อรวมกับรายงานที่มีการเผยแพร่สะท้อนว่า กสม.ชุดนี้โน้มเอียงเข้าข้างรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และอยากจะถามใจ กสม.การที่มีผลสรุปออกมาว่า ในเหตุการณ์ชุมนุมคนเสื้อแดงใช้ความรุนแรงและเป็นผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนผู้อื่นนั้น คนที่ตายในวัดปทุมวนารามฯ ถือว่าถูกละเมิดสิทธิหรือไม่ ซึ่งนางอมราก็ตอบทุกคำถามของผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง

โดยนางอมรากล่าวว่า ทาง กสม.ไม่ได้มีการบิดเบือนข้อมูล หลังมีรายงานของ กสม.หลุดออกมาก่อนหน้านี้ โดยยืนยันว่ารายงานการสลายชุมนุมปี 2553 ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ฉะนั้นรายงานที่หลุดออกมาไม่ใช่รายงานของ กสม.แต่อย่างใด เนื่องจากในรายงานดังกล่าวมีเนื้อหา รายละเอียดที่ซับซ้อน ดังนั้น กสม.ต้องใช้ความรอบคอบในการตรวจสอบเพื่อให้รายงานออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด ซึ่งการจะบอกว่าใครถูกละเมิดสิทธิ ก็ต้องพิจารณาเป็นรายไป เพราะแต่ละคนถูกละเมิดสิทธิโดยบุคคลที่แตกต่างกันไป จะไปเหมาไม่ได้ อย่างของ น.ส.กมนเกดก็โดนละเมิดสิทธิอย่างชัดเจน และยืนยันว่า กสม.ได้พยายามที่จะรักษาสิทธิของผู้ชุมนุมทุกครั้งที่มีการชุมนุม ก็จะออกแถลงการณ์ถึงทุกรัฐบาลให้คำนึงถึงการปกป้องสิทธิของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของคนเสื้อเหลือง และคนเสื้อแดง และ กสม.ก็ไม่ได้นำดอกไม้ไปให้นายอภิสิทธิ์เท่านั้น แต่ไปให้รัฐบาลนี้ ไปให้แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งเข้าใจว่าคนเสื้อแดง ได้ข้อมูลเพียงด้านเดียว จึงไม่เข้าใจการทำงานของ กสม.

“เราไม่เคยบอกว่ารัฐบาลไม่ผิด เพราะทุกอย่างต้องดูเป็นเรื่องๆ ไป การกล่าวหาในลักษณะนี้เท่ากับเป็นการปรักปรำ ก่อนหน้านี้เราไม่เคยทำงานสองมาตรฐาน เราเดินทางไปเยี่ยมนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ ที่เคยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ รวมทั้งยังเดินสายไปพบปะทุกฝ่าย ยืนยันว่าไม่เลือกปฏิบัติ” นางอมรากล่าว และว่า กสม.ทำงานอย่างตรงไปตรงมา เต็มความสามารถ แต่ที่รายงานดังกล่าวออกมาล่าช้า เพราะมีเนื้อหาที่ยากและซับซ้อน กสม.จะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ เป็นกลางและโปร่งใส พร้อมทั้งจะเร่งพิจารณารายงานดังกล่าวออกไปสู่สาธารณชนโดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม ผู้ชุมนุมได้พยายามที่จะชี้ให้เห็นว่านางอมราไม่เหมาะที่จะดำรงตำแหน่งประธาน กสม. เพราะมีอคติกับคนเสื้อแดงอยู่แล้ว เนื่องจากสมัยที่เป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยเป็นแกนนำล่ารายชื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และเมื่อมาเป็นประธาน กสม.ก็ล่าช้าในการตรวจสอบเรื่องต่างๆ โดยผู้ชุมนุมก็ต่างตะโกนว่า “อยู่จนหัวหงอกแล้วทำอะไรไม่ได้แล้วจะอยู่ทำไม ลาออกไป” ซึ่งนางอมราก็กล่าวว่า ขณะที่เป็นอาจารย์ไม่เคยเป็นแกนนำไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะนั้นที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ทำคือ มีจดหมายเปิดผนึกถึง พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น ส่วนเรื่องลาออกนั้น คณะกรรมการสิทธิฯ มีกรรมการรวม 7 คน ข้อเรียกร้องเรื่องนี้กรรมการทั้ง 7 คนต้องช่วยกันพิจารณา จะออกมาอย่างไรก็ไม่ทราบ

นางพะเยาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่ารายงานที่มีการเผยแพร่ขณะนี้ เป็นความตั้งใจของ กสม.ที่ให้มีการรั่วไหลออกมา เพื่อเป็นการชี้นำสังคม เพราะอีกไม่นาน คอป.จะมีการสรุปรายงานมาแล้ว ซึ่งหาก กสม.ยังยืนยันว่ารายงานฉบับจริงยังไม่แล้วเสร็จ ส่วนตัวในฐานะที่รอก็เห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเห็นรายงานฉบับนี้แล้ว เพราะตราบใดที่นางอมรา ยังคงทำหน้าที่เป็นประธาน กสม. เชื่อว่าคงไม่มีความเป็นธรรมและเป็นกลางให้แก่สิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ตนก็ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อรัฐบาล เพื่อให้กำชับไปยังกองทัพว่าอย่ามาชี้นำดีเอสไอ ในการทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีการชุมนุมคนเสื้อแดง

ส่วน นพ.นิรันดร์กล่าวว่า รายงานที่มีการเผยแพร่ไม่ใช่ของจริง และที่ กสม.ทำก็ไม่เคยมีการตั้งคณะอนุกรรมการ 9 ชุด อย่างที่ปรากฏเป็นข่าว และเนื้อหาก็ไม่ตรงกับฉบับจริง อีกทั้งการพิจารณาของ กสม.ก็ไม่จำเป็นต้องรอรายงานฉบับสุดท้ายของ คอป. เพราะไม่สามารถนำมาพิจารณาร่วมกันได้ ทั้งนี้ ในรายงานของ กสม.จะเป็นการสรุปผลในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิ รวมทั้งจะมีข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล เพื่อให้เยียวยาต่อไป ซึ่งเวลานี้ กสม.กำลังเร่งพิจารณา เชื่อว่าภายใน 1-2 เดือนนี้จะแล้วเสร็จ

หลังจากที่นางอมรา และกรรมการสิทธิฯ ได้ตอบข้อซักถามของกลุ่มคนเสื้อแดงเสร็จ กลุ่มคนเสื้อแดงก็ได้นำดอกไม้จันมามอบให้กับนางอมรา และกรรมการสิทธิฯ ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น