xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กโอ๋” เหนียมอุบดัน “ทนงศักดิ์” เสียบ อ้างเด้ง “เสถียร” แบความลับโผปลัด กห.-สั่งดูไฟใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุกำพล” ตะแบงย้ายปลัด กห. ยกก๊วนอ้างเป็นอำนาจ โอดถูกเป็นผู้ร้ายหาไปล้วงลูกโผ กห. ซัดไม่ควรหลุดไปข้างนอก รับเด้ง “เสถียร” เอาความลับมาพูด โวยไม่น่าถึงนายกฯ-กฤษฎีกา ปิดทางออกเสียงเลือกปลัด กห.ชัด ไม่พูดเตรียมดันผู้ช่วย ผบ.ทบ.เพื่อนซี้เข้าเสียบ อ้างไม่เคยพูดจะดันใคร ยันมีเสียงเดียวเหมือนเดิม ส่วนเด้ง ผบ.เหล่าทัพอ้างเคสบายเคส ล่าสุดมอบงานใหม่ “เสถียร” ดูไฟใต้ ด้าน “ชาตรี” ช่วยภัยพิบัติ


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต” ให้สัมภาษณ์  

วันนี้ (28 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เป็นประธานในการประชุมมอบแนวทางการปฏิบัติราชการกระทรวงกลาโหม โดย พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงกลาโหม ได้มอบนโยบายการปฏิบัติการให้กับหน่วยขึ้นตรงสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้น พล.อ.สุกำพลแถลงถึงสาเหตุการโยกย้าย พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์ เจ้ากรมเสมียนตราไปช่วยราชการสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมว่า ต้องเรียนว่าการย้ายไปช่วยราชการเป็นสิทธิและอำนาจของ รมว.กลาโหม ที่มีกฎหมายรองรับชัดเจน และตนทำไปด้วยความจำเป็นต้องทำ เพื่อให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการทำงานเริ่มมีอุปสรรคบ้าง เสมือนเป็นทีมฟุตบอล ตนเป็นผู้จัดการทีม ปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นโค้ช และมีผู้เล่น เมื่อผู้เล่นเล่นไม่ดีก็เปลี่ยนตัวไปพักก่อน เมื่อโค้ชไม่ดี แพ้บ่อยก็ต้องปรับตัวออกไปพักก่อน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของการบริหารงาน ตนทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อให้ประสิทธิภาพดีขึ้น ความจริงแล้วเรื่องนี้เหลือเพียง 1 เดือนยังไงก็ไม่น่าทำ

“เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมเป็นผู้ร้ายอยู่ 2 วัน เหมือนกับผมไปก้าวก่าย ต้องเรียนให้ทราบว่า การโยกย้ายของกระทรวงกลาโหม ผมไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะย้ายใครอย่างไร ผมจะปฏิเสธตลอด เพราะขั้นตอนยังไม่เสร็จสิ้น มีการประชุมไปเพียงครั้งเดียวที่ห้องทำงานผม และผมยังไม่เห็นบัญชีโยกย้าย จนถึงเวลานี้ก็ยังไม่เห็น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะคนที่เป็นบอร์ดคณะกรรมการในการปรับย้าย ไม่ควรจะหลุดไปข้างนอก หรือบอกให้ใครรู้ หรือไปร้องเรียนอะไร นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่ต้องรู้อยู่แล้ว เมื่อเราดำเนินการเสร็จในขั้นตอนของกระทรวงกลาโหม มันต้องพูดกันได้ เพราะเป็นพี่น้องกัน มีอะไรก็พูดกัน ผมเป็นคนพูดง่าย ไม่ได้พูดยาก ทำให้ต้องมีการตัดสินใจปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อให้ดีขึ้นและผมคิว่า กระทรวงกลาโหมคงเป็นปึกแผ่น เรื่องนี้ผมจะแถลงแค่ครั้งเดียว เพราะเป็นเรื่องที่น่าอายของกระทรวงกลาโหมที่ต้องแถลงเรื่องนี้ จะไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้นอีก ส่วนการจัดทำบัญชีโยกย้ายขณะนี้ขั้นตอนยังไม่เสร็จสิ้น คิดว่าคงเสร็จภายในสัปดาห์นี้ตามกติกา และการโยกย้ายที่จะทำต่อไปนั้น ต้องทำตามกติกาทุกอย่าง ผมมีเพียงเสียงเดียวในการประชุม วันนี้มีคณะกรรมการ 6 คน ทุกคนมีสิทธิ์” รมว.กลาโหมกล่าว

เมื่อถามว่า สาเหตุจริงๆ ในการโยกย้ายคือการนำความลับเกี่ยวกับบัญชีโยกย้ายไปแจ้งให้นายกฯ รับทราบใช่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เป็นสิ่งหนึ่ง เพราะยังอยู่ในขั้นตอนกระทรวงกลาโหม และเป็นขั้นตอนที่น่าจะรู้กันเฉพาะในบอร์ด ไม่ควรให้ใครรู้ แต่กลับหลุดไปหมด สื่อรู้ดีว่าอะไรคืออะไร สิ่งเหล่านี้ไม่ถูกต้อง เราคุยกันตรงนี้ก็พอ พี่น้องกันคุยกันได้ แต่ไม่ใช่ส่งหนังสือมา หรือไปสอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกา หรืออะไรบ้าง ไม่เอา เป็นสิ่งไม่ดี เราเป็นทหาร ในวงการนี้ต้องเด็ดขาด ถ้าปกครองไม่ได้ มันก็อยู่ไม่ได้ เราอยู่ในเรื่องของความมั่นคง ดังนั้นต้องเด็ดขาด

เมื่อถามว่า ท่านยังผลักดัน พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วย ผบ.ทบ.เป็นปลัดกระทรวงกลาโหมอยู่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า การพิจารณายังไม่เสร็จสิ้น คงจะพูดไม่ได้ ตนไม่เคยพูดว่า ตนผลักดันใคร ทั้งนี้ พล.อ.เสถียร ไม่มีสิทธิ์ที่จะร่วมประชุมบอร์ดคณะกรรมการปรับย้ายแล้ว โดยรักษาการปลัดกระทรวงกลาโหมจะมีหน้าที่เหมือนปลัดทุกอย่าง ทุกคนมีเสียงเดียว อย่าไปพูดว่าตนเอา พล.อ.เสถียร ออกไปแล้ว เท่ากับตนสบายขึ้นในการโยกย้าย ตนมีเสียงเดียวเหมือนเดิม พล.อ.วิทวัส ก็มีเสียงเดียวเหมือนกัน ส่วนของการทำงานสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมจะให้ พล.อ.วิทวัสดำเนินการต่อไป เดี๋ยวตนไปสั่งท่านก็จะโดนอีก อยู่ที่ท่านจะดำเนินการอย่างไร

เมื่อถามว่า เป็นมาตรฐานว่า หากใครมาปฏิบัติอย่างนี้จะต้องโดนโยกย้ายใช่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า การทำอะไรจะต้องรอบคอบ คิดว่า ที่ตนทำคราวนี้ ทหารที่เกษียณออกไปจำนวนมากโทรมาให้กำลังใจตน แต่ตนไม่ได้ดีใจ เพราะเป็นเรื่องน่าอายของกระทรวงกลาโหมที่เคยมีมา ที่คุยกันข้างในยังไม่พอ ต้องไปคุยกันข้างนอก ส่วนการดำเนินการต้องดูเป็นเคสบายเคสไป คิดว่าน้องๆ น่ารัก ตนไม่ได้เป็นคนที่โหดเหี้ยม แต่ทำด้วยเหตุผล

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ชาตรี เตรียมทำเรื่องฟ้องร้องเรียนขอความเป็นธรรม พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ก็ว่ามา ตนก็จะให้ความเป็นธรรม ถ้า พล.อ.ชาตรีเดินมาหาตน มาคุยกับตน ตนก็จะคุยด้วย ใครก็แล้วแต่ ตนคุยด้วยหมด ส่วนตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมจะต้องมาจากอัตราจอมพลหรือไม่นั้น ระเบียบว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น ระเบียบบอกไว้ชัดเจนว่าจะมาจากจอมพลก็ได้ หรือมาจากพลเอกก็ได้ เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.เสถียรระบุว่าอาจมีการย้าย ผบ.เหล่าทัพในลักษณะเดียวกับตนเอง พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ต้องดูเคสบายเคส เพราะ ผบ.เหล่าทัพไม่ได้ทำแบบนั้น และเขามีความรับผิดชอบที่ดี ตนอยู่ใกล้ชิดกับ พล.อ.เสถียร ไม่น่าจะมีเรื่องแบบนี้ แต่ ผบ.เหล่าทัพก็น่ารัก

“ผมเป็นทหารในคราบนักการเมือง คือเป็น รมว.กลาโหมที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของฝ่ายทหาร แต่ผมเป็นทหารตลอดชีวิต ผมสามารถพูดกับน้องๆ ได้รู้เรื่อง เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผมทำด้วยความที่ต้องทำ และด้วยความถูกต้อง ผมไม่ใช่คนที่จะไปทุบโต๊ะทำแบบนั้น ผมพูดตลอดเวลา น้องๆ ทุกคนเข้าใจดี และมาคุยกับผม ใครจะมาคุยกับผมก็ได้ รวมถึงทั้ง 3 คนที่ถูกโยกย้าย ไม่มีอะไร เป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม ส่วนเขาจะร้องเรียนอย่างไรต้องไปถามเขา ผมไม่สามารถตอบแทนได้ ซึ่งทั้ง 3 คน ผมมีงานให้ทำ โดยจะเสนอวันนี้ว่า ให้ไปทำอะไรบ้าง ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีทราบเรื่องดังกล่าวแล้วจากสื่อมวลชน ซึ่งผมได้รายงานให้ท่านทราบ โดยผมไม่ได้คุยอะไรกับนายกฯ ซึ่งการลงนามโยกย้าย เป็นการตัดสินใจของผมเอง และผมก็ทำเอง” รมว.กลาโหมกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ไม่เห็นด้วยกับการโยกย้ายครั้งนี้ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ตนไม่เคยได้ยินกระแสข่าว ไม่เช่นนั้นทั้งสองท่านคงโทรมาท้วงติงกับตนแล้ว เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่า ปัญหาจะไม่จบง่ายๆ และมีคลื่นใต้น้ำสร้างความขัดแย้งออกไปอีก พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ถ้าสื่อไม่ขายข่าวมากก็จบ เพราะทหารคือทหาร ต้องเข้าใจ การโยกย้ายก็ยังมีต่อไป ถ้าขายข่าวกันทุกวัน ถ้าตนสัมภาษณ์ทุกวันก็มีทุกวัน ดังนั้นตนจะสัมภาษณ์ครั้งนี้ครั้งเดียว ซึ่งต่อไปการโยกย้ายนายทหารก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะมีระเบียบกติกาชัดเจนว่า ต้องทำอย่างไรบ้าง ถ้าทุกคนทำตามนี้ก็จบไป ตนก็ดำเนินการตามนี้ บางทีขั้นตอนอาจจะไม่ต้อง 1-2-3 แต่เมื่อรวมแล้วต้องอย่างนี้ คือ ถ้าทุกคนเห็นรวมด้วยกันหมด หรือใครเสียงมาก เสียงน้อย ก็คงจะไม่มีอะไร

“ผมบอกแล้วว่าผมอายที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น พี่ๆ ที่เกษียณก็เห็นว่าไม่น่าเกิดขึ้น แต่เมื่อผมทำ ผมก็รับผิดชอบ และก่อนจะเซ็นขึ้นไป ผมมั่นใจในการทำ ต่อจากนี้ไม่น่ามีอะไรแล้ว ส่วนทหารทั้ง 3 คนที่ถูกโยกย้ายนั้น คิดว่าคงจะดำเนินการเรียบร้อย คิดว่า เขาเป็นทหารที่ดี ทั้งนี้ผมพร้อมที่จะเคลียร์กับทุกคน ไม่มีปัญหาอะไร ผมเหมือนเดิม ทุกอย่างอยู่ที่ความคิดของ 2 ฝ่าย ผมเปิดตลอด ถ้าเขาคิดอีกอย่างก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ความคิดทุกคนคงควบคุมไม่ได้” รมว.กลาโหมกล่าว

มีรายงานว่า ตามคำสั่งกระทรวงกลาโหม (เฉพาะ) ที่ 383/55 เรื่องให้นายทหารช่วยปฏิบัติราชการโดยให้นายทหารสัญญาบัตร สังกัดปลัดกระทรวงกลาโหมช่วยปฏิบัติราชการที่สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม และส่งมอบหน้าที่ราชการประจำ และให้รายงานตัวเพื่อปฏิบัติราชการ ณ สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ถ.แจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี 3 นาย คือ 1. พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปฏิบัติหน้าที่ให้คำปรึกษา และข้อพิจารณาเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงของชาติ และการใช้ทหารพัฒนาใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ 2. พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ปฏิบัติหน้าที่ให้คำปรึกษา และข้อพิจารณาเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ 3. พล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์ เจ้ากรมเสมียนตรา ปฏิบัติหน้าที่ให้คำปรึกษา และข้อพิจารณาเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการบริหารการจัดการเพื่อแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้ สั่งวันที่ 28 สิงหาคม 2555 พล.อ.วรวิทย์ ชินะนาวิน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้ลงนาม

กำลังโหลดความคิดเห็น