เสวนาอิสรภาพ “วีระ-ราตรี” มี ส.ว.-กรรมการสิทธิฯ ร่วม จี้ รบ.แจง 2 คนไทย ไม่ใช่สายลับ ทำเพื่อสอบทุจริต รบ.ไทย เร่งถก “ฮุนเซน” ขอตัว ยื่นมือช่วยค่าใช้จ่าย ปลุกปชช.ตื่นรับรู้ เรื่องเขตหน้าที่รัฐกับรัฐ
วันนี้ (24 ส.ค.) ที่อาคารรัฐสภา 2 มีการจัดเสวนาเรื่อง “1 ปี 7 เดือน 24 วัน : อิสรภาพของวีระ-ราตรี กับท่าทีทางการไทย” จัดโดยคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ร่วมกับคณะกรรมาธิการการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา คณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมี น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ประธาน กมธ.ตรวจสอบทุจริตฯทำหน้าที่เป็นประธาน
ด้าน นพ.นิรินดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชน และประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองฯ กล่าวว่า แนวทางปฏิบัติในการช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด น.ส.ราตรี พิพัฒนไพบูรณ์ สำหรับตนเห็นว่าสิ่งที่มีปัญหาแล้วเกิดความเข้าใจไม่ตรงกันต่อสาเหตุของเรื่องก็เกิดมาจากทางการเมือง โดยที่นายวีระพยายามต่อสู้กับความคิดทางประเด็นเขตแดนความมั่นคงแห่งรัฐที่ไม่ได้กำหนดเขตแดนชัดเจน ทำให้ประชาชนคนไทยเสียสิทธิแต่กลับถูกจับกุม ถูกมองว่าเป็นสายลับแบบชาตินิยม ทั้งที่เขาไม่ใช่สายลับ ไม่ใช่นักการเมือง ดังนั้นจึงต้องเร่งรัดให้ประธานพยายามทำความเข้าใจกับประเทศเพื่อนบ้านว่า นายวีระ และน.ส.ราตรี ไม่ได้ต้องการตรวจสอบผู้นำฮุนเซน แต่ต้องการตรวจสอบทุจริตในรัฐบาลไทย รัฐบาลและประชาชนจึงควรจะต้องมีท่าทีออกมาบ้าง
คือ 1. เงื่อนไขลดหย่อนอภัยโทษที่มีผู้นำฮุนเซนเป็นผู้ชี้ขาด คิดว่าวุฒิสภาควรมีการทำหนังสือขอคืนตัว อย่าไปเถียงเรื่องเขตแดนว่าเป็นของใคร เป็นหน้าที่ระหว่างรัฐกับรัฐอย่าเอามาป้องกัน ต้องแยกให้ชัดเจน 2. เครือข่ายภาคประชาชนเองก็ควรเข้าชื่อยืนหนังสือต่อผู้นำกัมพูชาด้วย 3. ที่บุคคลทั้งสองพยายามต่อสู้เพื่อส่วนรวมควรจะได้รับการคุมครองตามสิทธิเสรีภาพ มิใช่ปล่อยให้ครอบครัวต้องมาควักเนื้อ ตนเชื่อว่าการเมืองเท่านั้นที่จะช่วยคลี่คลายปัญหาและถ้ารัฐบาลสามารถนำตัวนายวีระ น.ส.ราตรีกลับมาได้ก็จะสะท้อนวิสัยทัศน์และการมองการณ์ไกลของผู้นำ ที่ไม่ได้มีแต่ข้อขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่มองเห็นพื้นฐานประชาชนเป็นหลักในการปกครองประชาธิปไตย