“เครือข่ายผู้หญิง” ยื่นผู้ตรวจการแผนดิน สอบนโยบายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เหตุประชากรหญิงไม่ได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมกัน
วันนี้ (15 มิ.ย.) น.ส.สุธาดา เมฆรุ่งเรืองกุล ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้หญิงพลิกโฉมประเทศไทย และนางธนวดี ท่าจีน ประธานเครือข่ายผู้หญิง 4 ภาค พร้อมสมาชิกเครือข่ายได้เข้ายื่นหนังสือต่อนางผานิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบกรณีการขับเคลื่อนนโยบายการจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่ามีการิดรอนสิทธิของประชากรหญิงกว่า 23 ล้านคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุน และการดำเนินนโยบายดังกล่าวไม่ได้คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 87(1) (2) (3)
น.ส.สุธาดากล่าวว่า การที่รัฐบาลกำหนดให้ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เป็นเป็นกองทุนปิด ที่การจะเข้าถึงต้องมีการสมัครเข้าเป็นสมาชิกก่อน ถือเป็นการจำกัดสิทธิ ในเรื่องของสิทธิพลเมือง ที่ประชากรหญิงจะต้องได้รับประโยชน์ เกื้อกูลจากการดำเนินนโยบายสาธารณะของรัฐตามมาตรา 27 ของรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้การกำหนดให้ผู้ที่จะเป็นสมาชิกกองทุนได้จะต้องเป็นหญิงที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ ทำให้จะมีประชากรหญิงอีกกลุ่มหนึ่งคือกว่า 23 ล้านคนหรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 70 ของประชากรหญิงทั้งประเทศ ถูกกันออกไปจากการเข้าถึงกองทุนทันที หรือการกำหนดว่าผู้ที่จะเป็นสมาชิกจะต้องเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ตั้งของกองทุนเท่านั้น โดยไม่ได้คำนึงถึงประชากรหญิงสัญชาติไทยที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ในถิ่นที่ห่างไกล ชายขอบที่ยากจะเข้าถึงกองทุนฯ ทำให้เกืดความเสียหายกับประชาชนที่รัฐธรรมนูญบัญญัติว่าต้องได้รับสิทธิในการส่งเสริม สนับสนุน และช่วยเหลือจากรัฐบาลตามมาตรา 28 วรรคท้าย มาตรา 30 วรรคสาม และมาตรา 52
ทางเครือข่ายฯ จึงเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลก่อให้เกิดความเสียหาย และไม่เป็นธรรมกับประชาชน ที่อยู่ในอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินตามมาตรา 244 (ข) ของรัฐธรรมนูญ ที่จะดำเนินการตรวจสอบวินิจฉัยเพื่อให้เกิดการคุ้มครองสิทธิของประชากรหญิงอีกว่า 23 ล้านคนที่ไม่ได้รับโอกาสให้เข้าถึงกองทุนให้ได้รับสิทธิตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติอย่างแท้จริง
ต่อมาที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) น.ส.สุธาดา และ นางธนวดี พร้อมคณะได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ น.พ.แท้จริง ศิริพานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อขอให้ กสม. พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล เรื่อง “การจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ในการนี้ น.พ.แท้จริง แจ้งแก่คณะผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนว่าขอรับเรื่องร้องเรียนกรณีดังกล่าวนี้ไว้ เพื่อให้ผู้รับผิดชอบเกี่ยวข้องได้พิจารณาดำเนินการต่อไป