รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.เห็นชอบจัดจ้างผลิตอี - พาสปอร์ต ระยะที่ 2 ไม่เกิน 5.8 พันล้าน 7 ล้านเล่ม โดยวิธีพิเศษ - "ปรีชา" ลงพื้นที่แก้ไฟป่าพรุควนเคร็งแล้ว
วันนี้ (21 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภักดีหาญส์ หิมะทองคํา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอก่อหนี้ผูกพันข้ามปี ในวงเงินค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการจัดจ้างผลิตเล่มหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Passport ของประเทศ ระยะที่ 2 ไม่เกิน 5,804 ล้านบาท ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556-2562 เพื่อปรับปรุงรูปแบบหนังสือเดินทางให้ทันสมัยและเป็นแนวทางเดียวกันกับต่างประเทศ และสอดคล้องกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ทั้งนี้กระทรวงได้ดำเนินโครงการดังกล่าว ระยะที่ 2 โดยวิธีพิเศษและได้ตั้งคณะกรรมการจัดจ้างดำเนินโครงการ โดยได้เชิญบริษัทเอกชนที่ผ่านเกณฑ์เป็นผู้มีสิทธิเสนอราคาตาม TOR มาเจรจาต่อรองราคาและสรุปค่าจ้าง ราคาเล่มละ 829 บาท โดยกระทรวงการคลัง ได้อนุญาตให้หักเงินค่าธรรมเนียมการกงสุลที่ได้รับชำระตามกฎหมาย ในอัตรา 30% ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการทำ E-Passport จำนวน 7 ล้านเล่ม ได้จนถึงสิ้นสุด ปี 2560 โดยกระทรวงขออนุมัติ ครม.ในการแก้ไขกฎหมายพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณก่อนดำเนินการทำสัญญาจ้าง และงบประมาณในการดำเนินการมาจากค่าใช้จ่ายในการทำโครงการ E-Passport ไม่ใช่งบประมาณรายจ่ายประจำปี จึงไม่จำเป็นต้องขออนุมัติงบประมาณผูกพันข้ามปี ทั้งนี้สาเหตุที่กระทรวงการต่างประเทศใช้การจัดจ้างแบบพิเศษ เนื่องจาก ในการจัดทำโครงการประกาศประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์เชิญชวนเอกชนผู้สนใจซื้อเอกสารประกวดราคา มีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวน 4 ราย ทำการสาธิตและทดสอบระบบ ปรากฎว่ามีเอกชนเพียงรายเดียวผ่านเกณฑ์เป็นผู้มีสิทธิเสนอราคา กระทรวงจึงต้องยกเลิกการประกวดราคาดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุฯ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจากการประชุมคณะรัฐมนตรีระบุว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ติดตามและแก้ไขปัญหาไฟป่าพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช ทางนายปรีชา ได้ดำเนินการลงพื้นที่เพื่อติดตามปัญหาดังกล่าวพร้อมด้วยแม่ทัพภาคที่ 4 ในวันที่17 สิงหาคม ที่ผ่านมาโดยได้บินสำรวจสถานการณ์และสภาพพื้นที่ไฟป่า โดยมีการตรวจเยี่ยมและมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็นแก่ประชาชน พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และกำลังทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมในการเร่งปฏิบัติการดับไฟป่า พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาน้ำดื่มแก่ประชาชน ทั้งนี้กรมทรัพยากรน้ำได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 5เครื่องเพื่อสูบน้ำเข้าพื้นที่ป่า และได้จัดรถผลิตน้ำดื่มจำนวน 1 คัน ที่วัดท่าลิพง ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ที่สามารถผลิตน้ำดื่มได้วันละ 20,000 ลิตร นอกจากนี้ นายปรีชาได้นำรถผลิตน้ำมาเสริมอีก 1 คัน นอกจากนี้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ยังมีการจัดรถผลิตน้ำดื่มติดตั้งบริเวณศาลากลาง จ.นครศรีธรรมราช อีก 1 คันด้วย
วันนี้ (21 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภักดีหาญส์ หิมะทองคํา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอก่อหนี้ผูกพันข้ามปี ในวงเงินค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการจัดจ้างผลิตเล่มหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Passport ของประเทศ ระยะที่ 2 ไม่เกิน 5,804 ล้านบาท ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556-2562 เพื่อปรับปรุงรูปแบบหนังสือเดินทางให้ทันสมัยและเป็นแนวทางเดียวกันกับต่างประเทศ และสอดคล้องกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ทั้งนี้กระทรวงได้ดำเนินโครงการดังกล่าว ระยะที่ 2 โดยวิธีพิเศษและได้ตั้งคณะกรรมการจัดจ้างดำเนินโครงการ โดยได้เชิญบริษัทเอกชนที่ผ่านเกณฑ์เป็นผู้มีสิทธิเสนอราคาตาม TOR มาเจรจาต่อรองราคาและสรุปค่าจ้าง ราคาเล่มละ 829 บาท โดยกระทรวงการคลัง ได้อนุญาตให้หักเงินค่าธรรมเนียมการกงสุลที่ได้รับชำระตามกฎหมาย ในอัตรา 30% ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการทำ E-Passport จำนวน 7 ล้านเล่ม ได้จนถึงสิ้นสุด ปี 2560 โดยกระทรวงขออนุมัติ ครม.ในการแก้ไขกฎหมายพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณก่อนดำเนินการทำสัญญาจ้าง และงบประมาณในการดำเนินการมาจากค่าใช้จ่ายในการทำโครงการ E-Passport ไม่ใช่งบประมาณรายจ่ายประจำปี จึงไม่จำเป็นต้องขออนุมัติงบประมาณผูกพันข้ามปี ทั้งนี้สาเหตุที่กระทรวงการต่างประเทศใช้การจัดจ้างแบบพิเศษ เนื่องจาก ในการจัดทำโครงการประกาศประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์เชิญชวนเอกชนผู้สนใจซื้อเอกสารประกวดราคา มีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวน 4 ราย ทำการสาธิตและทดสอบระบบ ปรากฎว่ามีเอกชนเพียงรายเดียวผ่านเกณฑ์เป็นผู้มีสิทธิเสนอราคา กระทรวงจึงต้องยกเลิกการประกวดราคาดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุฯ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจากการประชุมคณะรัฐมนตรีระบุว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ติดตามและแก้ไขปัญหาไฟป่าพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช ทางนายปรีชา ได้ดำเนินการลงพื้นที่เพื่อติดตามปัญหาดังกล่าวพร้อมด้วยแม่ทัพภาคที่ 4 ในวันที่17 สิงหาคม ที่ผ่านมาโดยได้บินสำรวจสถานการณ์และสภาพพื้นที่ไฟป่า โดยมีการตรวจเยี่ยมและมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็นแก่ประชาชน พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และกำลังทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมในการเร่งปฏิบัติการดับไฟป่า พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาน้ำดื่มแก่ประชาชน ทั้งนี้กรมทรัพยากรน้ำได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 5เครื่องเพื่อสูบน้ำเข้าพื้นที่ป่า และได้จัดรถผลิตน้ำดื่มจำนวน 1 คัน ที่วัดท่าลิพง ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ที่สามารถผลิตน้ำดื่มได้วันละ 20,000 ลิตร นอกจากนี้ นายปรีชาได้นำรถผลิตน้ำมาเสริมอีก 1 คัน นอกจากนี้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ยังมีการจัดรถผลิตน้ำดื่มติดตั้งบริเวณศาลากลาง จ.นครศรีธรรมราช อีก 1 คันด้วย
