“เฉลิม” รับลูก “ประยุทธ์” หยุดพล่ามคดีสลายแก๊งแดง ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามหน้าที่ ยันไม่มีการแทรกแซงเพื่อกลั่นแกล้งใคร เผยคนร้ายยิงลูกชาย “ชาดา” เสียชีวิตมีการวางแผนล่วงหน้า ไม่ใช่สาเหตุทะเลาะ
วันนี้ (21 ส.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ว่า ตนไม่แสดงความคิดเห็นแล้วแต่จะให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม และยืนยันว่าตนไม่เคยกลั่นแกล้ง ไม่เคยสั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจนครบาล ให้ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย เพียงแต่สั่งให้ดำเนินการไปตามข้อเท็จจริง กฎหมาย พยานเอกสาร พยานบุคคล และพยานวัตถุ โดยไม่ต้องกริ่งเกรงหรือเกรงกลัวอิทธิพลใครทั้งสิ้น และไม่ต้องมาฟังคำสั่งตน
“ผมจะไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้อีก เพราะพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่าผมชี้นำ ซึ่งคดีอาญาชี้นำไม่ได้ ถ้าชี้นำผมก็เข้าคุก ใครทำอะไรไว้รู้แก่ใจ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ดูเหมือนไม่สบายใจกับเรื่องดังกล่าว ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำถูกต้องแล้วเพราะเป็นผู้บังคับบัญชา อีกทั้งท่านเองก็บอกให้ดำเนินคดีไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่อยากให้สัมภาษณ์รายวัน ตรงนี้ตนก็เห็นด้วย เพราะข้อเท็จจริงทางคดีไม่ควรนำมาเปิดเผยซึ่งอาจจะกระทบใจกัน แต่เจ้าหน้าที่รัฐทั้งทหารและตำรวจได้รับการคุ้มครองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 62 และ 70
ส่วนเอกสารของ ศอฉ.ที่มีการเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตสามารถจะเอาผิดได้หรือไม่นั้น รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่กล้าพูด ต้องถามดีเอสไอ เมื่อถามอีกว่าคดีนี้จะสามารถสรุปได้เร็วหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เห็นว่าเร็ว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยืนยันถ้าตนยังมีโอกาสรับผิดชอบต้องตรงไปตรงมา ไม่กลั่นแกล้ง ใครผิดก็ต้องผิด
“ฝากบอกพรรคประชาธิปัตย์อย่าเข้าใจผิดเลย ใครมันแกล้งใครไม่ได้หรอก ซึ่งจะไปแกล้งอย่างไร ดีเอสไอและตำรวจนครบาลเขาชื่อผมหรือ นักการเมืองมีอำนาจไม่กี่วันแล้วก็ไป ถ้าผมไปแกล้งไว้โดยสร้างหลักฐานเท็จ พอพ้นไปผมก็ต้องติดคุก ดังนั้นเรื่องนี้ไม่มีโดยเด็ดขาด” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวถึงกรณีคนร้ายใช้อาวุธกราดยิงบุตรชายนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ จ.นครราชสีมา จนเสียชีวิตว่า เมื่อเช้าวันนี้ (21 ส.ค.) ตนได้คุยโทรศัพท์กับผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายติดตามรถของนายชาดาไป ไม่ได้เป็นเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันในขณะไปเที่ยว แต่มีการเตรียมการไว้แล้ว โดยหลังจากยิงเสร็จคนร้ายก็หนีออกไปทาง อ.วังน้ำเขียว ทั้งนี้ ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าคนร้ายพุ่งเป้าไปที่นายชาดาหรือบุตรชาย รวมทั้งเป็นการขัดแย้งทางธุรกิจหรือไม่ เพราะยังไม่มีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง แต่ขณะเดียวกันทางฝ่ายญาติของนายชาดาก็ไม่อยากให้ผ่าตัดตรวจพิสูจน์กระสุน เพราะผู้เสียชีวิตเป็นมุสลิมที่จะต้องทำพิธีให้เสร็จภายใน 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่รู้ตัวคนร้าย