ศาลปกครองกลางยกคำร้องกรณีร้องขอคุ้มครองชั่วคราวกรมอุทยานฯ ระงับรื้อ “บ้านทะเลหมอกรีสอร์ท” รุกอุทยานฯ ทับลาน ชี้หากรื้อไม่ถูกต้องเยียวยาภายหลังได้ แต่หากสั่งระงับการรื้ออาจเกิดการโต้แย้งคำสั่งฯ และกระทบการดูแลรักษาป่าอนุรักษ์
วันนี้ (20 ส.ค.) ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอของบ้านทะเลหมอกรีสอร์ท อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ที่ขอให้ศาลกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาสั่งระงับการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของบ้านทะเลหมอกรีสอร์ท ตามคำสั่งของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยศาลเห็นว่า ในชั้นการไต่สวนยังฟังไม่ชัดเจนว่าคำสั่งของนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่ให้นางวไลลักษณ์ วิชชาบุญศิริ และห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านทะเลหมอก ผู้ฟ้องคดี ทำลายหรือรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งอื่นใดที่ผิดไปจากสภาพเดิมออกไปให้พ้นอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504 และคำวินิจฉัยของอธิบดีกรมอนุทยานแห่งชาติที่ให้ยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดี น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใด อีกทั้งการที่จะพิจารณาว่าคำสั่งดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้นเป็นประเด็นเกี่ยวกับเนื้อหาแห่งคดีที่ศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาแสวงหาข้อเท็จจริงต่อไปตามระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 ซึ่งไม่อาจมีคำวินิจฉัยหรือคำสั่งในประเด็นดังกล่าวในชั้นนี้ได้
นอกจากนี้ การให้คำสั่งทางปกครองดังกล่าวมีผลใช้บังคับต่อไปก็ไม่เป็นเหตุทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลังแก่ผู้ฟ้องคดี เนื่องจากผู้ฟ้องคดีอาจขอให้ศาลกำหนดให้ชดใช้ค่าเสียหายแทนได้ อีกทั้งปัจจุบันนายเทวินทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้ออกคำสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างกรณีการบุกรุกอุทยานแห่งชาติทับลานที่ได้ดำเนินคดีอาญาไปแล้วจำนวน 49 รายและมีการฟ้องเรียกค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อมทุกคดี หากศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งดังกล่าวก็อาจทำให้เกิดปัญหาโต้แย้งการออกคำสั่งอื่นๆ ของนายเทวินทร์ และมีผลกระทบต่อการดูแลรักษาพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์และเป็นมรดกโลก การให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งดังกล่าวย่อมเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่บริหารสาธารณะ จึงให้ยกคำร้องขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองที่ผู้ฟ้องคดีร้องขอ