นายกฯ เปิดงานโอทอป ชี้ผ่านมาแล้ว 10 ปี เตรียมต่อยอดสินค้าสู่สากล หวังเห็นอยู่ในห้างต่างประเทศ น้อมนำพระราชดำริพัฒนาศูนย์ศิลปาชีพ ยันรัฐบาลหนุนเข้าถึงแหล่งเงินทุน สร้างรายได้อย่างยั่งยืน
วันนี้ (20 ส.ค.) ที่ชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน OTOP Midyear 2012 สู่ประชาคมอาเซียน ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี โดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน ซึ่งมีอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ข้าราชการ ผู้ประกอบการ OTOP และประชาชนที่เข้าร่วมงานให้การต้อนรับ
ในการจัดงานครั้งนี้เป็นการนำผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 3-5 ดาว โดยเป็นที่นิยมของชาวไทย และต่างชาติ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ผ้าไหม ผ้าทอมือ เครื่องแต่งกาย ของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก และสมุนไพรต่างๆ มาจัดแสดงและจำหน่ายถึง 3,131 ร้านค้า และยังมีกิจกรรมจากหน่วยงานต่างๆ อีกมากมาย เช่น โซนจำหน่าย OTOP ชวนชิม และอาหารฮาลาล การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา การประกวด และเผยแพร่ผลงานเครือข่ายองค์ความรู้ จังหวัดดีเด่นปี 2555
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดงานว่า งานนี้เป็นการทำงานต่อเนื่องขยายต่อจากศูนย์ศิลปาชีพ มาถึงเวลานี้ถือว่าผ่านมากว่า 10 ปี แล้ว ที่โครงการ 1 ผลิตภัณฑ์ 1 ตำบล ได้ก่อตั้งขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ และพัฒนาสินค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ได้สนับสนุนในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น นำทรัพยากรในชุมชนมาประกอบอาชีพให้ยั่งยืน และน้อมนำพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในส่วนของงานศิลปาชีพมาเป็นแนวทางบูรณาการในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ และแสดงสิ่งที่แสดงถึงความประณีต ซึ่งเวลาตนเองเดินทางไปต่างประเทศ ทุกประเทศต่างชื่นชมฝีมือคนไทยมีความประณีตและสวยงามมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจและเป็นเจตนาของรัฐบาลในการในภูมิปัญญาท้องถิ่นต่อยอดองค์ความรู้ เพิ่มร้านค้า สร้างรายได้อย่างยั่งยืน และเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด การส่งออกในหลายวิธี
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า โครงการนี้ก็เป็นช่องทางหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ให้รู้จักสินค้าโอทอปของไทย และในอนาคตต้องการให้ไปวางขายตามห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะมีการบูรณาการกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย เพื่อเข้าถึงแหล่งข้อมูล จากแหล่งต่างๆ รวมถึงการวิจัยต่อยอด ในการหาช่องทางในการขายสินค้า โดยหวังว่าวันหนึ่งสินค้าไทยจะได้ไปขายที่ห้างสรรพสินค้าในต่างประเทศ
นายกฯ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้รัฐบาลจะทำให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน และให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจต่างๆ เพื่อพัฒนาสินค้า การตลาด รัฐบาลได้แบ่งกลุ่มโอท็อปออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. ดาวเด่นสู่สากล คือคุณภาพสูง และผลิตได้ในจำนวนมาก โดยจะส่งเสริมในการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา 2. กลุ่มงานฝีมือคุณภาพสูง มีปริมาณไม่มากจะเน้นเรื่องของคุณภาพ และภูมิปัญญา การเข้าถึงกลุ่มลูกค้า 3. เน้นปริมาณ และขยายกำลังการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีเครื่องจักร เข้ามาขยายกำลังการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ 4. กลุ่มที่สามารถทำได้ง่าย แต่มีการผลิตน้อย รัฐบาลจะช่วยกันส่งเสริมในการจับคู่ร่วมกันในการรับงาน
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะมีการบูรณาการให้เกิดความเข้มแข็งเสริมต่อยอดสินค้าโอทอป และความคิด โดยหวังว่าการทำงานครั้งนี้จะนำไปสู่การต่อยอดต่างๆ ให้มากขึ้น เพื่อนำไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกันในวันข้างหน้า และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
