xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.เปิดซีรีส์ 1 ปี ชี้ 6 นโยบาย รบ.เหลว ทำ ปชช.แพงทั้งแผ่นดิน แฉ ปตท.หนุนสื่อแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เกียรติ สิทธีอมร รองนายกรัฐมนตรีเงาด้านเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)




วันนี้ (19 ส.ค.) นายเกียรติ สิทธีอมร รองนายกรัฐมนตรีเงาด้านเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ผอ.ศูนย์ติดตามนโยบายและการทุจริตพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ 1 ปีของจริงไม่อิงละคร เพื่อตรวจสอบนโยบายรัฐบาล 1 ปี โดยจะมีการนำเสนอตัวเลขทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลบริหารผิดพลาด 6 ตอน เริ่มจากนโยบายพลังงานที่ผิดพลาด ซึ่งเชื่อว่าเป็นการกำหนดนโยบายเอื้อกลุ่มทุนด้านพลังงาน ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนทำให้สินค้าแพงทั้งแผ่นดินจากการบริหารผิดพลาด 6 เรื่อง คือ 1. รัฐบาลยิ่งลักษณ์ผิดสัญญายุบกองทุนน้ำมัน กระชากค่าครองชีพ มีการชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนเพียงชั่วคราวเพียงห้าเดือน แต่ผลทำให้กองทุนน้ำมันติดลบ 14,550 ล้านบาท โดยในปัจจุบันมีการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันสูงสุดที่ลิตรละ 6.50 บาท ทำให้ราคาเบนซิน 95 สูงถึง 48.40 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 ราคา 43.05 บาทต่อลิตร และดีเซลราคา 29.99 บาทต่อลิตร

2. ไม่สนใจคำเตือนของพรรคประชาธิปัตย์ที่แนะนำให้ตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทเพราะจะส่งผลทางจิตวิทยาทำให้ต้นทุนค่าขนส่งแพงขึ้นจนเป็นเหตุผลให้สินค้าแพงตามไปด้วย โดยมีการปล่อยให้ราคาดีเซลสูงถึง 32.33 บาทในช่วงเดือนมีนาคม 2555 ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสารขอขึ้นราคาและรัฐบาลได้อนุมัติให้ขึ้นราคาเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 55 ตั้งแต่ 8% จนถึง 27% จากนั้นรัฐบาลจึงเริ่มกลับมาดูปัญหากองทุนน้ำมันและดีเซลปรับลดให้อยู่ไม่เกิน 30 บาท ซึ่งถือเป็นการทำย้อนหลังและไม่มีผลต่อการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง เพราะไม่เคยปรับลดค่าโดยสารค่าขนส่งเลย นี่คือสาเหตุที่ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคราคาขึ้นสูงแพงทั้งแผ่นดิน

3. รัฐบาลซ้ำเติมประชาชนด้วยการลอยตัวก๊าซแอลพีจี โดยปรับราคาขึ้น 4 ครั้งรวม 3 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้คนหาเช้ากินค่ำต้องแบกภาระมากขึ้น นอกจากนั้นรัฐบาลยังไม่ดำเนินการต่อขบวนการลักลอบส่งออกก๊าซไปยังประเทศเพื่อนบ้าน 1.2 ล้านตัน หรือคิดเป็น 80 ล้านถัง (15 กิโลกรัม) ต่อปี ทำให้ต้องนำเข้าก๊าซแอลพีจีมาทดแทน เสียงบ 2.4 หมื่นล้านบาท และยังปล่อยให้ร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้มขายปลีกในราคาที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น จากราคาถังละ 271 บาทแต่ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 300-350 บาท สูงกว่าราคาที่ประกาศไว้ถังละ 271.95 บาท อีกทั้งยังปกป้องธุรกิจปิโตรเคมีขนาดใหญ่ให้ใช้ก๊าซในราคาถูกโดยไม่มีการเปิดเผยราคาซื้อขาย

4. รัฐบาลชุดนี้ประกาศปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี 4 ครั้งเป็นเงิน 2 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้รถแท็กซี่ รถขนส่งสินค้า และรถส่วนบุคคลต้องเติมก๊าซเอ็นจีวีแพงกว่าความเป็นจริง เพราะราคาหน้าปากหลุมอยู่ที่ 8 บาทต่อกิโลกรัม ค่าบริหารจัดการการตลาดกิโลกรัมละ 2 บาท หากขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 10-11 บาทก็มีกำไรแล้ว แต่ราคาปัจจุบันขึ้นไปถึง 14.53 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่ง รมว.พลังงานก็รู้ข้อมูลนี้ แต่กลับไม่มีการแก้ไขให้มีการลดราคาลงเพราะมุ่งหวังเอาแต่ผลกำไร

5. รัฐบาลอนุมัติขึ้นค่าเอฟทีอีก 30 สตางค์ต่อหน่วยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 55 โดยอ้างราคาก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้น ทำให้คนไทยเดือดร้อนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 10% ในภาคครัวเรือน ขณะที่ในภาคอุตสาหกรรมจะมีภาระเพิ่มขึ้น 7% ทั้งๆ ที่จากข้อมูลพบว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นค่าไฟฟ้าแต่อย่างใด

6. รัฐบาลไม่ทำตามสัญญาให้บัตรเครดิตพลังงานแก่ผู้ขับขี่รถสาธารณะ 35,000 ราย แต่มีผู้มาขึ้นทะเบียน 27,456 ราย ใช้ได้ 8 พันราย มีหนี้เสีย 22.5% คิดเป็นเงิน 6.48 ล้านบาท สาเหตุที่ผู้ขับขี่รถแท็กซี่เข้าโครงการไม่ได้เพราะเงื่อนไขไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ทั้งนี้ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์บริหารประเทศ เชื่อว่าพลังงานไม่แพงอย่างนี้ กองทุนไม่ติดลบ ค่าไฟไม่ขึ้น และของไม่แพงทั้งแผ่นดิน

ด้าน นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า รัฐบาลได้เจริญรอยตามรัฐบาลทักษิณ มีการทุจริตเชิงนโยบาย โดยเฉพาะด้านพลังงาน ซึ่งซ้ำรอยการกำหนดนโยบายโทรคมนาคมในอดีต ด้วยการสร้างอำนาจเหนือตลาด การผูกขาด เอื้อประโยชน์ให้เอกชน รัฐวิสาหกิจและกลุ่มการเมือง และยังพบว่ามีการใช้งบประชาสัมพันธ์ของ ปตท.สนับสนุนกลุ่มเสื้อแดงด้วยการลงโฆษณาปกหลังหนังสือเรดพาวเวอร์ต่อเนื่องกันถึง 6 เดือน ซึ่งกระทรวงพลังงาน ปตท. และเรกูเลเตอร์ต้องให้คำตอบประชาชนในเรื่องนี้ ซึ่งพรรคจะติดตามตรวจสอบนโยบายและการทุจริตของรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างต่อเนื่องตลอดเดือนสิงหาคม-กันยายน จนถึงการอภิปรายการแถลงผลงานครบรอบ 1 ปี และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยสัปดาห์หน้าจะเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น