บิ๊กท็อปบูตตบเท้าอวยพร รมว.กห.เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 61 ปี ปลัดชูนโยบายพัฒนาศักยภาพกองทัพ รักษาระบบป้องกันประเทศ “สุกำพล” ขอบคุณพวกมาอวยพร ดีใจน้องๆ ร่วมมือทำงาน ยันพยายามให้กระเทือนน้อยที่สุด เผยขอพม่าถอนแบล็กลิสต์ 13 นักข่าวเป็นของขวัญแล้ว ก่อนมอบแจ๊กเก็ตแจก - เห็นพ้อง “บิ๊กตู่” จี้ดีเอสไอหยุดปูดทหารสังหารแดง ชี้คดียังไม่จบ ทำ จนท.เสียกำลังใจ เชื่อไม่ทำทหารขัดแย้ง
วันนี้ (17 ส.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 09.30 น.พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เปิดโอกาสให้ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม นำคณะ ผบ.เหล่าทัพประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะนายทหารระดับสูงเข้าร่วมอวยพร พล.อ.อ.สุกำพล เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 61 ปี ขาดเพียง พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่ติดภารกิจเดินทางไปอำลาตำแหน่งที่ประเทศสิงคโปร์ จึงมอบหมายให้ พล.อ.อ.พิธพร กลิ่นเฟื่อง ประธานที่ปรึกษากองทัพอากาศมาร่วมอวยพรแทน
พล.อ.เสถียรกล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ท่านได้เข้ามามารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม ได้มอบนโยบายในการปฏิบัติราชการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพ และระบบการป้องกันประเทศให้มีความพร้อมในการรักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย และความมั่นคง รวมถึงผลประโยชน์แห่งชาติ ตลอดจนการพัฒนาในหลายด้านเพื่อให้กองทัพมีโครงสร้างที่เหมาะสม กะทัดรัด ทันสมัย พร้อมรองรับภารกิจปัจจุบันและอนาคต
พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ขอบคุณปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.เหล่าทัพ และข้าราชการทุกคนที่มาอวยพรวันเกิด พรที่น้องๆ ให้ตนถือว่าประเสริฐเพราะอยู่ในใต้ชายคาเดียวกัน พรดังกล่าวขอให้ย้อนกลับไปโดยเฉพาะผู้บัญชาการทหารเรือที่มีวันคล้ายวันเกิดวันเดียวกับตน ซึ่งเราทำงานร่วมกันมาเกือบ 1 ปี นโยบายต่างๆ ที่ออกไปจะไม่สำเร็จเลย ถ้าพวกท่านไม่ทำ ไม่ปฏิบัติหรือช่วยเหลือ สิ่งที่ตนได้รับคือความร่วมมือที่ดีกับทุกหน่วยงาน ไม่ใช่คำเยินยอ เพราะรู้สึกว่า ตนได้รับมาจริงๆ และตนก็ดีใจมาก เพราะได้รับความร่วมมือในการทำงานจากน้องๆ เป็นอย่างดี อยากให้ทุกคนช่วยกันดูแลและปกป้องโดยเฉพาะกองทัพ ซึ่งถือเป็นกำลังหลัก ทำงานด้วยกันในภาคใต้ ถ้าใครมาว่า ตนก็ต้องปกป้อง เพราะเข้าใจ และได้สัมผัสเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องดูแลกันในทางที่ถูกต้อง ความร่วมมือที่มีให้กันนั้นทำให้เรามองเห็นอนาคตข้างหน้าว่าจะมีความเป็นปึกแผ่นทีดีและแน่นหนา เพราะตนเป็นคนที่ฟังน้องๆ จะไม่ทุบโต๊ะ ตนจะฟังความเห็นจากน้องๆ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ ทั้งหมดเพื่อกระทรวงกลาโหม กองทัพ เพื่อความมั่นคง ประเทศชาติ ราชบัลลังก์
“สิ่งต่างๆ ที่ทำมาถือว่าเดินมาถูกต้องแล้ว บางนโยบายอาจทำให้น้องๆ กระเทือนนิดหน่อย เช่นเรื่องการปรับโครงสร้าง แต่จะพยายามให้กระเทือนน้อยที่สุด ต้องสำรวจตัวเองว่าวันนี้เราอ้วนเหลือเกิน เราต้องทำให้เล็กหน่อย แต่ที่สำคัญเรื่องภาคใต้คือเรื่องที่น่าห่วงที่สุด แต่จากการให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ทบ.เรื่องการตั้ง ศปก.กปต.ว่า ถ้าทำอย่างที่เราคุยกัน ความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อม ต้องให้เวลากันนิดหน่อย ส่วนปัญหาตามแนวชายแดน กองทัพก็ควบคุมได้เพราะกองทัพเราเข้มแข็ง รอบบ้านเรามีแต่มิตรทั้งนั้น คิดว่าในอนาคตการขับเคลื่อนของกองทัพโดยกระทรวงกลาโหมเรื่องความมั่นคงของชาติไม่น่าห่วงเพราะพื้นฐานของเราคือความเข้าใจซึ่งกันและกัน ถือเป็นตัวเชื่อมสำคัญ เมื่อเข้าใจกัน สื่อความหมายด้วยกันแล้วมันไปกันได้ เรื่องอื่นก็เป็นเรื่องเล็ก ถ้าจับมือเป็นทีมเวิร์คกันไม่ได้ทำอะไรกันก็ยาก ซึ่งผมได้รับครบ” รมว.กลาโหมกล่าว
โดย พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในโอกาสที่เป็นวันเกิดตนอยากขอให้ผู้สื่อข่าวเข้าใจการทำงานของกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้ตนได้มอบของขวัญด้วยการขอให้ทางพม่าถอนแบล็กลิสต์ผู้สื่อข่าว 13 คนแล้ว ตนก็ขอกลับมาบ้างในการให้เข้าใจกัน เพราะตนทำงานอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะเรื่องภาคใต้ที่ต้องการให้สถานการณ์ดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก ผบ.เหล่าทัพอวยพรเสร็จ พล.อ.อ.สุกำพล ได้เดินเข้ามาทักทาย พูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับมอบเสื้อแจ็กเกตปักชื่อ พล.อ.อ.สุกำพลพร้อมลายเซ็นให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่มาอวยพร จากนั้นได้ร่วมรับประทานอาหารร่วมกันที่กระทรวงกลาโหมก่อนจะเดินทางกลับ
รมว.กลาโหมยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกมาเปิดเผยผลการสอบสวนการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกเกิดความไม่สบายใจว่า เป็นเรื่องของดีเอสไอ ซึ่งเป็นเรื่องของกฎหมาย โดยทางดีเอสไอได้ดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งทางกองทัพบกขอร้องว่า ไม่ควรออกมาให้ข่าวได้หรือไม่ เนื่องจากกระบวนการในการรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่สิ้นสุด ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของกองทัพบกเสียกำลังใจ หากเป็นเรื่องกฎหมายทางเราก็ไม่ห้าม สำหรับการให้ข่าวควรจะให้น้อยหน่อย เพราะการให้ข่าวไปมาเสมือนว่าทางทหารผิดเต็มประตู ดังนั้นขอให้ทางดีเอสไอหยุดให้ข่าวไปก่อน แต่กระบวนการทางกฎหมายก็ดำเนินการต่อไป
“ทางเราไม่ว่ากัน แต่อย่าให้ออกมาเป็นข่าวจนมีการคาดเดากันไปต่างๆ นานาจนทำให้เกิดภาพที่ไม่ดี และทาง ผบ.ทบ.ก็เป็นห่วง ทั้งนี้มองว่าไม่จำเป็นต้องทำความเข้าใจกับ ผบ.ทบ. เพราะกฎหมายคือกฎหมาย ทางผบ.ทบ.ก็เป็นห่วงลูกน้อง ต้องแยกกันให้ออก ทางกระทรวงกลาโหมเราอยู่แบบเข้าใจกัน ไม่ใช่ว่ามีเหตุการณ์อะไรขึ้นมาเล็กน้อยก็โทรศัพท์หากัน มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ เราเป็นผู้ใหญ่กันแล้วต้องเห็นใจ ผบ.ทบ. เพราะเขาต้องปกป้องลูกน้อง ในที่สุดแล้วเป็นเรื่องของกระบวนกฎหมายศาลตัดสินอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น ทั้งนี้ เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์เกิดความขัดแย้งกับดีเอสไอ และคิดว่าปัญหาจะไม่บานปลาย เพราะหากพูดกันรู้เรื่องทุกอย่างก็จบ คิดว่าดีเอสไอคงเข้าใจ” พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว