ส.ส.ปชป.ชำแหละงบปี 56 “พุทธิพงษ์” กังขางบสำนักเลขาธิการนายกฯ 500 ล้าน อยู่ในหมวดเทิดทูนสถาบันฯ แต่กลับไม่มีงบสักบาท แนะของบร้อยละ 20 ด้าน “สาทิตย์” ชี้ งบพัฒนาการเมือง 600 ล้าน ไม่มีรายละเอียดชัด แถมตั้งงบปี 57 และ 58 รวม 3.5 พันล้าน กังขาใช้ในกิจการหมู่บ้านเสื้อแดงหรือไม่ ส่วนงบสร้างภาพลักษณ์ประเทศ 500 ล้าน ซ้ำซ้อนบีโอไอ-ท่องเที่ยว อ้างซื้อสื่อโทรทัศน์ หวั่นซื้อสื่อทีวีแดง-นสพ.ขั้วรัฐบาล
วันนี้ (16 ส.ค.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่า งบของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจำนวน 500 ล้านบาท ซึ่งบอกว่า เป็นงบประมาณสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทย และอยู่ในหมวดเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่งบประมาณดังกล่าวกลับไม่มีงบเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เลย ไม่รู้เป็นการใส่งบผิดฝาผิดหมวดหรือไม่ ซึ่งการไม่มีงบในส่วนของการเทิดทูนสถาบัน แสดงว่า รัฐบาลไม่เคยให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งตนจึงของบประมาณในส่วนอื่นร้อยละ 20 เพื่อนำมาให้กับงบเทิดทูนพระมหากษัตริย์
จากนั้น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายต่อว่า ที่ตนขอแปรญัตติตัดงบในส่วนของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 10 ก็เพราะด้วยเหตุว่ารัฐบาลตั้งงบแบบไม่โปร่งใส ขาดธรรมาภิบาล และสนองงานนักการเมือง ทอดทิ้งประชาชน โดยงบประมาณที่ตั้งข้อสังเกตคืองบประมาณเพื่อใช้ในโครงการพัฒนาเมือง จำนวน 600 ล้านบาท ซึ่งในการชี้แจงชั้นกรรมาธิการไม่ได้มีรายละเอียด ทั้งนี้ ในการตั้งงบประมาณในปี 2555 สำนักเลขาธิการนายกฯ ได้ทำโครงการพัฒนาเมืองเช่นกัน โดยมียอดงบประมาณ จำนวน 900 ล้านบาท ซึ่งตนทราบว่าในปี 2555 งบประมาณดังกล่าวไม่ถูกนำไปใช้ใดๆ และปล่อยทิ้งไว้จนถึงทุกวันนี้
นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า โครงการพัฒนาการเมือง พบด้วยว่า ในปี 2557 และปี 2558 เตรียมตั้งงบประมาณ อีกปีละ 1,000 กว่าล้านบาท หากรวม 4 ปีในช่วงการบริหารงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันจะมียอดรวม 3,500 ล้านบาท ซึ่งตนขอตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการกันงบประมาณเพื่อใช้กิจการของหมู่บ้านเสื้อแดงใช่หรือไม่ แล้วทำไมในพื้นที่อื่นๆ จึงไม่ได้รับบ้าง แบบนี้ถือเป็นการเลือกปฏิบัติใช่หรือไม่ และเป็นการทำงบประมาณเพื่อเสนอ เหตุผลทางการเมืองใช่หรือไม่เช่นเดียวกับงบประมาณที่ใช้ในการแก้ไขและฟื้นฟู พื้นที่น้ำท่วม ที่รัฐบาลนำไปช่วยพื้นที่ของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้งที่บางที่น้ำไม่ท่วม แต่พื้นที่ใดที่เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือ และไม่ได้ให้งบประมาณ ทั้งที่เป็นพื้นที่น้ำท่วม
นอกจากนี้ ในส่วนของงบประมาณเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศ จำนวน 500 ล้านบาท ตนขอปรับลดทั้งหมด เนื่องจากพบว่ามีความซ้ำซ้อน กับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอเอ) ที่ได้เสนอขอมา 400 ล้านบาท และงบประมาณของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่เสนอขอ 1,800 ล้านบาท โดย 2 หน่วยงานหลังมีการแจกแจงรายละเอียดที่ชัดเจน ซึ่งต่างจากงบประมาณของโครงการเพื่อสร้างภาพลักษณ์ ที่มีรายละเอียดเฉพาะว่าจะซื้อสื่อโทรทัศน์ ซึ่งไม่มั่นใจว่าจะซื้อสื่อในสถานีโทรทัศน์ของคนเสื้อแดงหรือไม่ และจะซื้อสื่อหนังสือพิมพ์ ซึ่งจะเป็นในกลุ่มพรรคพวกของรัฐบาลหรือไม่
นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของสำนักงานเลขาธิการนายกฯ ยังได้ตั้งงบประมาณไว้สำหรับบริหารจัดการน้ำ จำนวน 100 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาบริหารจัดการดูแลการแก้ปัญหาน้ำอยู่แล้ว และเตรียมที่จะใช้เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทเพื่อดำเนินการ ทั้งนี้ในเงินที่จะกู้ดังกล่าว มีภาคเอกชนไม่มั่นใจว่าจะมีการล็อกสเปกให้กับบางประเทศหรือไม่ แต่มีการพูดกันว่าบางประเทศได้ตั้งสำนักงานเตรียมไว้อยู่แล้ว โดยประเด็นนี้เชื่อว่าจะกลายเป็นมหากาพย์ ซึ่งผู้บริหารของประเทศนี้จะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
สำหรับงบประมาณที่ช่วยประชาชน เช่น ในโครงการธนาคารที่ดิน ที่ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อให้การบริหารจัดการธนาคารเดินหน้า แต่ขณะนี้ได้มีการตั้งงบไว้ จำนวน 1,600 ล้านบาท เพื่อให้ธนาคารที่ดินไปซื้อที่ดินจำนวน 1.5 หมื่นไร่ ในพื้นที่ต่างๆ เช่น จ.เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ฉะเชิงเทรา ราชบุรี ชุมพร แต่ขณะนี้รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการนโยบายที่ช่วยเหลือประชาชน ซึ่งถือว่าใจดำจริงๆ