ส.ส.ตรัง ปชป.เผยเหตุการณ์ระทึก “แก๊งเสื้อแดง” เชียงใหม่ตามขวาง หน.ปชป.ปฏิบัติภารกิจช่วยชาวบ้านแก้ปัญหาที่ดินทำกิน พบปิดถนน สุดเถื่อนขว้างก้อนหินใส่ ทุบรถชาวบ้านที่ตามออกมาส่งพัง ในงานสัมมนาพรรคที่ตัวเมืองยังตามไปก่อม็อบหน้าโรงแรม โวยไม่ต่างกรณี “ตั๊ก บงกช” ซัดรัฐบาลเลิกเล่นสองหน้าอ้างสีสันการเมือง ย้อนถ้า “ยิ่งลักษณ์” โดนไล่บ้างเป็นสีสันหรือไม่ ยันเดินหน้าลงพื้นที่ต่อไป ชี้ยิ่งถูกแดงต้านเท่าไหร่ยิ่งได้ใจชาวบ้าน
วันนี้ (20 ก.ค.) ที่ จ.เชียงใหม่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งร่วมเดินทางไปเชียงใหม่กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ และคณะลงเครื่องที่สนามบินเชียงใหม่เวลาประมาณ 9 โมงเช้า ก็มีกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางไปตะโกนด่าทอที่สนามบินประมาณ 6-7 คน จากนั้นคณะเดินทางไปที่บ้านโป่ง ต.แม่แฝก อ.สันทราย ซึ่งมีทางเข้าสองทาง โดยคนเสื้อแดงไปปิดเส้นทางด้านหนึ่งไว้ประมาณ 30 คน คณะจึงเลี่ยงไปใช้อีกเส้นทางหนึ่งเพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า โดยมีชาวบ้านคอยอำนวยความสะดวกให้ขบวนรถจนเข้าไปทำกิจกรรมได้
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์เดินทางไปเพื่อพบชาวบ้าน และเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทยภาคเหนือ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในขอบเขตที่จะทำโฉนดชุมชนตามนโยบายของรัฐบาลที่แล้ว แต่รัฐบาลนี้ไม่สานต่อ อีกทั้งนโยบายรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหาชาวบ้านที่อยู่ในที่ดินของรัฐ ซึ่งมีการฟ้องร้องกันมาก ในยุคที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายให้ชะลอการจับกุมชาวบ้านเพื่อเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหา ด้วยการทำโฉนดชุมชน และตรากฤษฎีกาจัดตั้งธนาคารที่ดินเรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดงบประมาณเบื้องต้นไว้ 167 ล้านบาท แต่มีการยุบสภาและมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ทำให้ยังไม่ได้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทำให้ไม่สามารถนำเงินที่อนุมัติไปแล้วมาใช้ซื้อที่ดินจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย หรือ บสท.เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านได้ และยังมีการดำเนินคดีต่อชาวบ้านอยู่ ซึ่งบางคนถูกดำเนินคดีกว่า 40 คดี ทั้งนี้ ชาวบ้านได้เตรียมที่จะเสนอกฎหมายโฉนดชุมชน และธนาคารที่ดินเข้าสภาฯ โดยขอให้พรรคประชาธิปัตย์ให้การสนับสนุน หลังจากที่รัฐบาลไม่ใส่ใจที่จะแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้ชาวบ้าน
นายสาทิตย์กล่าวว่า หลังจากเสร็จภารกิจ พบว่าคนเสื้อแดงได้ระดมคนเพิ่ม มีการปิดเส้นทางทั้งสองจุด โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ไปเจรจาจนเกิดการปะทะคารมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าและไม่ให้เกิดความรุนแรงทางคณะจึงแบ่งเส้นทางออกเป็นสองขบวน โดยชุดของนายอภิสิทธิ์ซึ่งมีตนนั่งรถอยู่ด้วยนั้น คนเสื้อแดงได้นำเอารถกระบะติดเครื่องเสียงสองคันไปขวางทางไว้ และมีคนเสื้อแดงวิ่งตาม แต่ขบวนก็สามารถเคลื่อนตัวออกมาได้โดยไม่มีการปะทะกัน จนกระทั่งเดินทางไปถึงถนนใหญ่ก็พบว่ามีคนเสื้อแดงตามไปปิดถนนอีก ทำให้คนขับรถต้องขับเลี่ยงรถที่ขวางทางไว้ โดยมีคนเสื้อแดงข้างทางขว้างก้อนหินใส่ขบวนรถจนได้รับความเสียหายแต่ไม่มากนัก
ขณะที่คณะอีกชุดหนึ่งก็ถูกคนเสื้อแดงขวางทางเช่นเดียวกัน โดยมีการจอดรถลงไปเจรจา แต่คนเสื้อแดงกลับทุบรถชาวบ้านที่ตามออกมาส่งจนเกือบเกิดการปะทะกัน ต่อมาชาวบ้านในพื้นที่รวมตัวต่อต้านการกระทำของคนเสื้อแดงมากขึ้น ทำให้ยอมเปิดทางให้คณะเดินทางออกมา หลังจากนั้นคณะได้เดินทางไปยัง รร.แกรนด์วิลล์ ซึ่งมีการจัดสัมนาพรรคก็ยังมีคนเสื้อแดงตามไปที่หน้าโรงแรมอีก โดยหลังเปิดงานเสร็จ นายอภิสิทธิ์ และคณะก็ได้เลี่ยงการเผชิญหน้ากับคนเสื้อแดงออกทางประตูหลังของโรงแรม และเดินทางถึงสนามบินเพื่อกลับ กทม.โดยสวัสดิภาพ
“ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ คุณอภิสิทธิ์มาเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ก็ไม่พอใจที่คนเสื้อแดงทำแบบนี้ ผมได้ยินชาวบ้านพูดทางโทรศัพท์เลยว่า ขอร้องอย่ามาถ้าพวกมึงแรงมากูก็แรงไป ทำไมรัฐบาลปล่อยให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ทำให้ต้องทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชน ผมคิดว่าเลิกเล่นสองหน้าได้แล้ว ด้านหนึ่งนายกรัฐมนตรีบอกปรองดอง แต่อีกด้านหนึ่งส่งคนเสื้อแดงคอยขัดขวางการลงพื้นที่ของคุณอภิสิทธิ์ เรื่องนี้จะบอกว่ารัฐบาลไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เกี่ยวโยงกับรัฐบาลชัดเจน ในขณะที่รัฐบาลไม่เคยห้ามปรามแต่กลับให้ท้าย ไม่ต่างจากกรณีที่นางสาวบงกช คงมาลัย หรือตั๊ก เคยถูกคนเสื้อแดงพัทยาไล่ทุบรถแล้ว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ออกมาบอกว่าเป็นสีสัน ผมถามว่าถ้าคุณยิ่งลักษณ์โดนบ้างจะถือว่าเป็นสีสันหรือไม่ รัฐบาลต้องคิดด้วยว่านายกฯ สามารถไปได้ทุกพื้นที่โดยไม่มีใครต่อต้านไม่ใช่เพราะเขาชอบคุณแต่เป็นเพราะเขาเคารพว่าพวกคุณไปปฏิบัติหน้าที่ ไปหาดใหญ่ไม่มีแม้แต่ป้ายประท้วง ผมอยากให้รัฐบาลได้ตระหนักในเรื่องเหล่านี้ และยืนยันว่าจะเดินหน้าลงพื้นที่ต่อไป เพราะเชื่อว่ายิ่งถูกต่อต้านมากเท่าไหร่ก็จะทำให้ได้ใจชาวบ้านที่เราไปช่วยเหลือมากเท่านั้น” นายสาทิตย์ กล่าว