“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” งดจัด “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” เปิดเทปกดปุ่มโอนเงินกองทุนพัฒนาทบบาทสตรี รมว.ไอซีที เผยเร่งขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โวปี 60 คนไทยได้ใช้ทั่วประเทศ ขณะเดียวกันยังสามารถใช้บัตรประชาชนติดต่อหน่วยงานรัฐได้โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ทำการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ารายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ เช้าวันนี้ (4 ส.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้จัดรายการ โดยช่วงแรก เป็นการเปิดเทป น.ส.ยิ่งลักษณ์ กดปุ่มโอนเงินกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
จากนั้นช่วงที่ 2เป็นการสัมภาษณ์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เจ้าภาพจัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชันแนล ไอซีที เอ็กซ์โป 2012” ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 3-6 สิงหาคม 2555
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวถึงการพัฒนาโครงข่ายอินเทอร์เน็ทความเร็วสูงว่า ในนโยบายหลัก เราตั้งป้าหมายปี 2020 หรือปี 2560 ประเทศไทยจะมีโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีที่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ประชาชนเข้าถึงได้ทั่วถึง เท่าเทียมในราคายุติธรรม
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า สมาร์ทเน็ตเวิร์กเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต้องมีทางหลวงอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในขณะที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้ามาทำหน้าที่ ประชาชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพียง 12% แต่หลังมีนโยบายให้แต่ละหน่วยงานที่เป็นรัฐวิสาหกิจในกำกับหรือหน่วยงานภาคเอกชนที่เริ่มเพิ่มโครงข่ายเน็ตเวิร์ก พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงได้ถึง 30% และในปี 2558 จะเข้าถึงได้ถึง 80%
นอกจากนี้ เรายังมีสำนักส่งเสริมและพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ คือการที่รัฐสามารถที่จะให้บริการ จากเดิมที่ต้องเดินทางไปใช้บริการที่หน่วยงานราชการ แต่ว่าภายในอนาคตอันใกล้จะมีกล่องที่สามารถใช้บัตรประชาชนที่เป็นสมาร์ทการ์ดเสียบไปในเครื่องมือดังกล่าว และทำธุรกรรมกับภาครัฐ ทำให้ประหยัด และไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องเสียเวลาทั้งวัน
“ทั้งหมดนี้เป็นการเปลี่ยนรูปแบบให้พี่น้องสามารถใช้บริการได้ด้วยตัวของพี่น้องเอง โดยกล่องนี้จะอยู่ตามชุมชน หรือพื้นที่ที่ประชาชนสามารถเดินทางไปใช้บริการได้ด้วยความสะดวกเหมือนร้านสะดวกซื้อ ช่วยเรื่องเวลา ประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่าย สามารถทำธุรกรรมได้ด้วยสมาร์ทการ์ดของตัวเอง เพราะฉะนั้นสมาร์ทเน็ตเวิร์ก หรือ Smart Government เพื่อทำให้วงจรการใช้บริการรวดเร็วมากขึ้น ใช้กระดาษน้อยลง ธุรกิจสามารถทำธุรกรรมระหว่างกันได้สะดวกมากขึ้น”