จากเรื่องของแพงมาถึงชายแดนใต้ลุกเป็นไฟประจานปูนิ่ม !!

ผ่าประเด็นร้อน

ยังดีที่ไม่อ้างว่าปัญหาชายแดนใต้ที่ลุกเป็นไฟตอนนี้เป็นเพราะมาจากเรื่องรัฐธรรมนูญปี 50 จะต้องมีการแก้ไขโดยเร่งด่วน หรือเป็นเพราะอำมาตย์กลั่นแกล้ง แต่เมื่อได้ยินคำพูดของ รองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สรุปฟันธงแบบที่ควันระเบิดไม่ทันจางว่าเชื่อมโยงการเมือง ทำนองต้องการบิดประเด็นว่าฝีมือของพวกที่จ้องล้มรัฐบาลทันที

ทำให้สรุปได้ทันทีว่า ปัญหาชายแดนใต้ที่เลวร้ายและล้มเหลว เสี่ยงต่อการถูกแบ่งแยกดินแดน และชักนำให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาแทรกแซง ก็เพราะพวกปากไม่มีหูรูด ที่พูดเพื่อต้องการกลบเกลื่อนความล้มเหลวของตัวเองแบบนี้แหละ

พูดมาได้ทั้งที่ยังไม่ได้ตรวจตราที่เกิดเหตุ ไฟยังไม่ทันดับ แถมยังมีหน้ามาอ้างว่า “การข่าว” แจ้งมา ก็ถ้าการข่าวดีนัก ทำไมไม่รู้ความเคลื่อนไหวของคนร้ายละว่าจะก่อเหตุตรงไหนบ้าง และรู้ได้อย่างไรว่าการเมืองอยู่เบื้องหลัง

เพราะการพูดเอามันแบบ สะใจ แบบนี้แหละที่สร้างความฉิบหายในพื้นที่จนเอาไม่อยู่ และความสูญเสียก็เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยที่ไม่มีเส้นสายต้องไปเสี่ยงชีวิตอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และรับรองว่าด้วยทัศนคติดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เข้าใจถึงความละเอียดอ่อน ประเภทเดินหน้าฆ่ามัน รับรองว่าในที่สุดแล้วคนที่ถูกฆ่าก็เป็นเจ้าหน้าที่และชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ นั่นแหละ

การประกาศตั้งศูนย์ปฏิบัติการดับไฟใต้ หรือรูปแบบ “แพนตากอน 2” เพื่อตั้ง “วอร์รูม” บูรณาการแก้ปัญหา มอบหมายให้ระดับรองนายกฯ 3 คนรับผิดชอบ แยกเป็นฝ่ายทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ก็ยังงงอยู่ว่าปัญหาลุกลามมาตั้งนานแล้วทำไมเพิ่งมาตื่นตัวเอาหลังจากเกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่โรงแรมซีเอสปัตตานี ก็ไหนว่าที่ผ่านมาเดินมาถูกทาง การข่าวก็เยี่ยม ชาวบ้านให้ความร่วมมือ แต่ทำไมยังเกิดเหตุเป็นรายวัน เวลานี้รุกเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน พื้นที่เศรษฐกิจจนเป็นเรื่องปกติ การเสียชีวิตวันละ รายสองรายเวลานี้กลายเป็นเรื่องชินชาไปแล้วอย่างนั้นหรือ

หากพิจารณาในภาพรวมก็ต้องสรุปว่าปัญหาชายแดนใต้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ประจานความล้มเหลวไม่เอาไหนของ รัฐบาลที่นำโดย นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างชัดเจนอีกเรื่องหนึ่ง เพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้นถือว่าเลวร้าย น่ากลัวมากที่สุด นอกเหนือจากในยุคของ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นพี่ชาย ที่มาจากนโยบายปราบปรามยาเสพติด จนนำไปสู่การอุ้มฆ่า และฆ่าตัดตอน ทำให้สถานการณ์ที่เดิมคุกรุ่นอยู่แล้วนานปี ปะทุรุนแรงจนคุมไม่อยู่ในเวลานี้
ก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องความล้มเหลวทางด้านเศรษฐกิจ เรื่องข้าวของแพง ค่าครองชีพสูงลิบลิ่วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากราคาสินค้าเกษตรที่สำคัญหลักๆทุกตัว ไม่ว่าจะเป็น ข้าวที่บอกว่าจำนำได้ตันละ 15,000 บาท เอาเข้าจริงก็ขายไม่ได้ตามที่อ้างเอาไว้ เพราะจะถูกพ่อค้าหักค่าความชื้น สารพัดขายได้จริงก็ได้แค่ 8-9 พันบาทเท่านั้น เรื่องราคายางพารา มันสำปะหลัง ฯลฯ ทุกชนิดตกต่ำหมด

ส่วนการส่งออกนาทีนี้รับรู้กันแล้วว่าลดลงฮวบฮาบ ต่ำกว่าเป้าหมายเป็นประวัติการณ์ในรอบ 6 เดือน โดยเฉพาะในเรื่องข้าวที่เราเสียแชมป์การส่งออกให้กับประเทศคู่แข่งไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่อินเดีย และเวียดนาม อีกทั้งยังมีแนวโน้มถดถอยลงเรื่อยๆ และเป้าหมายการส่งออกที่รัฐบาลกำหนดไว้ร้อยละ 15 ก็ทำได้แค่ฝันเท่านั้น อย่างไรก็ดี ทางฝ่ายรัฐบาลที่เป็นทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ และ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ยังยืนยันเป้าหมายดังกล่าวยังเป็นไปได้ไม่เปลี่ยนแปลง ทำได้แน่

ดังนั้นถ้าพิจาณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาข้าวของแพงเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ซึ่งแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดก็เป็นเรื่องปัญหาชายแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่กำลังลุกเป็นไฟ สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของ รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอย่างชัดเจนที่สุด !!