00 ต้องเรียกว่าสถานการณ์ชายแดนใต้ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าขั้น “มิกสัญญี” เข้าไปทุกทีแล้ว เพราะถ้าจะว่ากันไปแล้ว ถือว่านาทีนี้ศักยภาพของกลุ่มโจรใต้เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ เรียกได้ว่า สามารถก่อเหตุได้ทุกพื้นที่ตามใจชอบ ขณะเดียวกันมันก็สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของฝ่ายอำนาจรัฐลงไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน ไล่ลงไปตั้งแต่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาล ตั้งแต่ตัวนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ที่นาทีนี้ถ้านอกจากเรื่องชอปปิง “เสื้อผ้าหน้าผม” ไม่สามารถหาแก่นสารจากเธอได้เลย
00 คนที่ต้องรับผิดชอบถึงความล้มเหลวดังกล่าวไล่ลงมาอีกก็คือ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงทั้งหลาย ตั้งแต่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. รวมทั้งว่าที่ผบ.ตร.คนใหม่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ซึ่งที่ผ่านมารับผิดชอบดูแลชายแดนใต้ รับผิดชอบด้านความมั่นคงมาตลอด อ้อ เกือบลืมไป ตัวเด็ด รองนายกฯ ฝ่ายตำรวจ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ ขาดเสียไม่ได้ เลขาฯศอ.บต. คนกันเอง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง นี่ว่ากันเฉพาะระดับหัวๆ ที่ต้องชี้หน้าถามหาความรับผิดชอบจากคนพวกนี้ก่อน
00 แน่นอนว่าปัญหาชายแดนใต้มันไม่หมู ไม่เหมือนกับการจับผู้ต้องหาค้ายาบ้ามาเรียงเม็ดแถลงข่าว เพราะมันละเอียดอ่อน ต้องเข้าใจพื้นที่ วัฒนธรรมที่มันซับซ้อนอ่อนไหว แต่ในเมื่อมีหน้าที่แก้ปัญหา ก็ต้องศึกษาทำความเข้าใจ ซึ่งยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา นั่นแหละสุดยอดแล้ว และไม่ซับซ้อน รับรองใช้ได้ผล เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ มัวแต่ท่องจำ แต่ไม่เคยนำมาปฏิบัติจริง ต่างคนต่างทำ ไม่เคยเป็นเอกภาพ และนี่คือความจริง ไม่ต้องมาเถียงเป็นอันขาด
00 การพิสูจน์ให้เห็นภาพชัดๆ ก็สามารถพิจารณาได้จากการที่ผู้ก่อการร้ายลงมือแทบทุกพื้นที่ และหลบหนีได้อย่างลอยนวล หรือก่อนก่อเหตุเจ้าหน้าที่ก็ไม่รู้เบาะแสความเคลื่อนไหวของคนร้าย มีแต่งานข่าวที่เตือนมารวมๆ นั่นแสดงให้เห็นว่า ยังล้มเหลวในเรื่อง “งานมวลชน” ซึ่งถือว่าเป็น “หัวใจสำคัญที่สุด” ของการแก้ปัญหา ยังไม่อาจดึงมวลชนเข้ามาให้ไว้วางใจเจ้าหน้าที่รัฐได้เลย และถ้าเรายัง “เข้าไม่ถึง-ไม่เข้าใจ” แม้จะส่งกำลังเพิ่มเข้าไปอีกเท่าตัว ก็ไม่มีทางสำเร็จ ตรงกันข้ามจะยิ่งเลวร้ายลงไปกว่าเดิม
00 แนวโน้มนับจากนี้สถานการณ์ชายแดนใต้น่าเป็นห่วงว่าจะไม่ใช่เป็นเรื่องภายในอีกต่อไป จะกลายเป็นเรื่องที่นานาชาติเข้ามามีส่วนร่วม ถ้าไปไกลแบบนั้นมันก็ต้องบอกว่า เป็นข่าวร้าย โอกาสที่จะกลายเป็นพื้นที่เขตปกครองพิเศษกึ่งรัฐอิสระ ก็เป็นไปได้สูง แม้ไม่อยากมองในแง่ร้าย หรือพูดให้หดหู่ แต่ถ้าฝ่ายรัฐบาลที่มีนายกฯห่วยแตก แบบนี้ มีรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง หน่อมแน้ม หรือ “ขี้โม้” ไม่ศึกษาใส่ใจแก้ปัญหาอย่างจริงจัง คนไทยก็เตรียมรับสภาพแบบนั้นไว้ล่วงหน้าได้เลย
00 ปัญหาชายแดนใต้ต้องบอกว่าเริ่มลุกเป็นไฟมาตั้งแต่ พี่ชาย คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่ฆ่าตัดตอน อุ้มฆ่า ตามนโยบาย “รัฐตำรวจ” ง่ายๆโง่ๆ ตามแบบฉบับนิสัยของ “ตำรวจเลว” และนำมาสู่เหตุการณ์ ตากใบ และกรือเซะ ทุกอย่างก็ขาดผึง เจ็บลึกเข้าไปถึงเนื้อใน กลายเป็นเชื้อไฟสำหรับการปลุกระดม และเมื่อมาถึงยุค “น้องสาว” ปูนิ่ม ที่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าพื้นที่แถบนั้นเป็นของประเทศไทยหรือเปล่า เพราะขนาดเรียก “จังหวัดหาดใหญ่” แค่นี้ก็เอวังแล้ว พี่น้องเอ้ย และที่สำคัญยังเป็นยุคที่เส้นสายคนกันเอง แต่ไม่รู้ปัญหา ถามว่า คนอย่าง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่ถือว่าเป็นคนกันเองของนายกฯ และ ทักษิณ ถูกส่งลงไปเป็นเลขาฯศอ.บต. นานเกือบปีแล้ว เคยเคลื่อนไหวเป็นข่าวสร้างสรรค์มั่งหรือไม่ อ้อ เคยมีแต่เรื่องไปเจรจากับแกนนำโจร หรือพวกต้มยำกุ้ง ที่ผิดฝาผิดตัว จนขายหน้าแล้วก็เงียบหาย หรือแม้แต่ อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ว่าเก่งนัก ไปอยู่ใต้ก็ไม่เห็นมีอะไร เท่าที่จำได้ก็มีกรณีของ “จ่าเพียร” ที่ขอย้าย แต่ก็ไม่ได้รับการพิจารณา ก็เท่านั้นเอง เวร !!
00 คนที่ต้องรับผิดชอบถึงความล้มเหลวดังกล่าวไล่ลงมาอีกก็คือ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงทั้งหลาย ตั้งแต่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. รวมทั้งว่าที่ผบ.ตร.คนใหม่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ซึ่งที่ผ่านมารับผิดชอบดูแลชายแดนใต้ รับผิดชอบด้านความมั่นคงมาตลอด อ้อ เกือบลืมไป ตัวเด็ด รองนายกฯ ฝ่ายตำรวจ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ ขาดเสียไม่ได้ เลขาฯศอ.บต. คนกันเอง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง นี่ว่ากันเฉพาะระดับหัวๆ ที่ต้องชี้หน้าถามหาความรับผิดชอบจากคนพวกนี้ก่อน
00 แน่นอนว่าปัญหาชายแดนใต้มันไม่หมู ไม่เหมือนกับการจับผู้ต้องหาค้ายาบ้ามาเรียงเม็ดแถลงข่าว เพราะมันละเอียดอ่อน ต้องเข้าใจพื้นที่ วัฒนธรรมที่มันซับซ้อนอ่อนไหว แต่ในเมื่อมีหน้าที่แก้ปัญหา ก็ต้องศึกษาทำความเข้าใจ ซึ่งยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา นั่นแหละสุดยอดแล้ว และไม่ซับซ้อน รับรองใช้ได้ผล เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ มัวแต่ท่องจำ แต่ไม่เคยนำมาปฏิบัติจริง ต่างคนต่างทำ ไม่เคยเป็นเอกภาพ และนี่คือความจริง ไม่ต้องมาเถียงเป็นอันขาด
00 การพิสูจน์ให้เห็นภาพชัดๆ ก็สามารถพิจารณาได้จากการที่ผู้ก่อการร้ายลงมือแทบทุกพื้นที่ และหลบหนีได้อย่างลอยนวล หรือก่อนก่อเหตุเจ้าหน้าที่ก็ไม่รู้เบาะแสความเคลื่อนไหวของคนร้าย มีแต่งานข่าวที่เตือนมารวมๆ นั่นแสดงให้เห็นว่า ยังล้มเหลวในเรื่อง “งานมวลชน” ซึ่งถือว่าเป็น “หัวใจสำคัญที่สุด” ของการแก้ปัญหา ยังไม่อาจดึงมวลชนเข้ามาให้ไว้วางใจเจ้าหน้าที่รัฐได้เลย และถ้าเรายัง “เข้าไม่ถึง-ไม่เข้าใจ” แม้จะส่งกำลังเพิ่มเข้าไปอีกเท่าตัว ก็ไม่มีทางสำเร็จ ตรงกันข้ามจะยิ่งเลวร้ายลงไปกว่าเดิม
00 แนวโน้มนับจากนี้สถานการณ์ชายแดนใต้น่าเป็นห่วงว่าจะไม่ใช่เป็นเรื่องภายในอีกต่อไป จะกลายเป็นเรื่องที่นานาชาติเข้ามามีส่วนร่วม ถ้าไปไกลแบบนั้นมันก็ต้องบอกว่า เป็นข่าวร้าย โอกาสที่จะกลายเป็นพื้นที่เขตปกครองพิเศษกึ่งรัฐอิสระ ก็เป็นไปได้สูง แม้ไม่อยากมองในแง่ร้าย หรือพูดให้หดหู่ แต่ถ้าฝ่ายรัฐบาลที่มีนายกฯห่วยแตก แบบนี้ มีรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง หน่อมแน้ม หรือ “ขี้โม้” ไม่ศึกษาใส่ใจแก้ปัญหาอย่างจริงจัง คนไทยก็เตรียมรับสภาพแบบนั้นไว้ล่วงหน้าได้เลย
00 ปัญหาชายแดนใต้ต้องบอกว่าเริ่มลุกเป็นไฟมาตั้งแต่ พี่ชาย คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่ฆ่าตัดตอน อุ้มฆ่า ตามนโยบาย “รัฐตำรวจ” ง่ายๆโง่ๆ ตามแบบฉบับนิสัยของ “ตำรวจเลว” และนำมาสู่เหตุการณ์ ตากใบ และกรือเซะ ทุกอย่างก็ขาดผึง เจ็บลึกเข้าไปถึงเนื้อใน กลายเป็นเชื้อไฟสำหรับการปลุกระดม และเมื่อมาถึงยุค “น้องสาว” ปูนิ่ม ที่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าพื้นที่แถบนั้นเป็นของประเทศไทยหรือเปล่า เพราะขนาดเรียก “จังหวัดหาดใหญ่” แค่นี้ก็เอวังแล้ว พี่น้องเอ้ย และที่สำคัญยังเป็นยุคที่เส้นสายคนกันเอง แต่ไม่รู้ปัญหา ถามว่า คนอย่าง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่ถือว่าเป็นคนกันเองของนายกฯ และ ทักษิณ ถูกส่งลงไปเป็นเลขาฯศอ.บต. นานเกือบปีแล้ว เคยเคลื่อนไหวเป็นข่าวสร้างสรรค์มั่งหรือไม่ อ้อ เคยมีแต่เรื่องไปเจรจากับแกนนำโจร หรือพวกต้มยำกุ้ง ที่ผิดฝาผิดตัว จนขายหน้าแล้วก็เงียบหาย หรือแม้แต่ อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ว่าเก่งนัก ไปอยู่ใต้ก็ไม่เห็นมีอะไร เท่าที่จำได้ก็มีกรณีของ “จ่าเพียร” ที่ขอย้าย แต่ก็ไม่ได้รับการพิจารณา ก็เท่านั้นเอง เวร !!
