xs
xsm
sm
md
lg

ทัศนคติเฉลิม ทัศนคติที่ทำให้ชายแดนใต้ล้มเหลว!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

อาจเป็นเพราะหลุดปากด้วยความรักและห่วงใยลูกชายจนเกินพอดีหรือเปล่าก็ไม่อาจทราบได้ เพราะคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี รับมอบอำนาจจากนายกรัฐมนตรีให้กำลับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติบอกว่าหลังจาก ร.ต.ท.ดวง อยู่บำรุง ลูกชายโอนสังกัดจากกองทัพบกมาเป็นข้าราชการตำรวจในกองบัญชาการตำรวจนครบาล สังกัดหน่วยแม่นปืน ให้ทำใจว่าอาจจะโดนย้ายไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล

ฟังดูเผินๆ อาจไม่มีอะไร แต่ถ้าพิจารณาโดยละเอียด ก็จะเห็นถึง “อันตราย” ที่ปรากฏขึ้นมาทันที และยังสะท้อนให้เห็นว่าปัญหาชายแดนใต้ที่กำลังลุกเป็นไฟอยู่ในเวลานี้ส่วนสำคัญเป็นเพราะคนในรัฐบาลที่เป็นฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะคนระดับรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพูดจาแบบขาดความรับผิดชอบ นั่นเอง

เพราะความหมายในคำพูดดังกล่าวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่บอกว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลลูกชายของตัวเองอาจถูกย้ายลงไปพื้นที่ชายแดนใต้ พูดแบบนี้ได้อย่างไร เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าทุกวันนี้พวกคุณไม่เคยสนใจลูกหลานชาวบ้านที่เป็นทหาร ตำรวจ รวมทั้งข้าราชการหน่วยอื่นๆ ต้องเสี่ยงชีวิตกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอยู่ตลอดเวลา เพราะพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นญาติพี่น้องลูกหลานของคุณอย่างนั้นหรือ

เป็นเพราะทัศนคติหรือระบบคิดแบบนี้หรือเปล่าที่ทำให้สถานการณ์ชายแดนใต้มันรุนแรงจนเข้าขั้นวิกฤติ ผู้ก่อการร้ายสามารถขยายพื้นที่รุกเข้าในทำลายพื้นที่เศรษฐกิจชั้นในได้ตามใจชอบ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร ที่ไม่มีเส้นสายต้องเสี่ยงชีวิต ข้าราชการเหล่านี้ไม่มีทางเลือก เป็นเพราะพวกเขาไม่มีพ่อเป็นรองนายกฯที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคนใกล้ชิดเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ตัวเองเคยฉวยโอกาสผลักดันเข้ามาทำหน้าที่หรือเปล่า

เพราะแม้ว่าที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม จะปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้ใช้เส้นสายช่วยลูกชายโอนย้ายข้ามหน่วย และไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน แต่เป็นเพราะไม่ได้นัดแนะกันก่อนหรืออย่างไร แต่เมื่อได้ยินเสียงลูกชาย คือ ร.ต.ท.ดวง อยู่บำรุง กลับพูดตรงกันข้ามยืนยันว่าเคยปรึกษากับพ่อมาแล้วและได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งหากพิจารณาจากความรู้สึกทั่วไปที่ไม่ซับซ้อนอะไรมันก็น่าจะเป็นแบบนี้มากกว่า

อีกทั้งเชื่อว่าความรู้สึกของคนทั่วไปยังเข้าใจอีกว่า นี่คือยุคทองของลูกชายตัวเอง ไม่ว่าจะโอนย้ายไปที่ไหนก็ย่อมทำได้ โดยเฉพาะหน่วยงานตำรวจ เพราะหากต้องการชีวิตราชการที่ก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดก็ต้องมาอยู่ที่นี่เท่านั้น และยิ่งมาถูกทางมากขึ้นไปอีก หากอยู่ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลในยุคที่มีผู้บัญชาการที่ชื่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เพราะความเข้าใจของคนในวงการเขารู้กันดีว่า มีความใกล้ชิดกับ ร.ต.อ.เฉลิม แค่ไหน

วกกลับไปที่สถานการณ์ทางชายแดนใต้กับคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่บอกว่าลูกชายต้องทำใจอาจถูกย้ายไปที่นั่นหากมีการเปลี่ยนรัฐบาล ทำไมไม่พูดเสียใหม่ว่าพร้อมที่จะลงไปปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ ในพื้นที่เสี่ยงภัย เพราะคำพูดก่อนหน้านี้มันเหมือนกับว่าเป็นการลอยแพพี่น้องในพื้นที่ปล่อยให้อยู่กันตามยะถากรรม เจ้าหน้าที่ที่ลงไปก็ไม่ใช่ลูกหลานของเราไม่เป็นไรอย่างนั้นหรือ และนี่คือทัศนคติที่เป็นอันตราย ทำให้สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาในพื้นที่ขาดความจริงใจเอาใจใส่จากฝ่ายการเมือง และจากรัฐบาลแทบจะสิ้นเชิง จนทำให้ลุกเป็นไฟอย่างที่เห็น

ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวมีความซับซ้อน ละเอียดอ่อน ไม่อาจแก้ปัญหาให้บรรเทาในช่วงเวลาอันสั้น แต่อย่างน้อยคนสำคัญในรัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญและลงมาเหลียวแลกันมากกว่านี้ ไม่ใช่ละทิ้งปล่อยให้เป็นหน้าที่รับผิดชอบของฝ่ายข้าราชการประจำอย่างที่เป็นอยู่

ปัญหาที่ลุกลามอยู่ทุกวันนี้ มันปรากฏชัดว่าเป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และสะท้อนภาพจากท่าทีและคำพูดดังกล่าวข้างต้นของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นเพราะความไม่เอาไหน ปล่อยปละละเลย และที่สำคัญอาจเป็นเพราะปัญหาชายแดนใต้มันไม่ง่าย และที่สำคัญมันไม่อาจหาคะแนนเสียงหาความนิยมเหมือนกับการไปนั่งแถลงข่าวจับยาบ้ากลางกรุงอย่างที่ปฏิบัติกันอยู่ก็เป็นได้

สิ่งที่ทำได้ก็คือธุระไม่ใช่อย่างนั้นหรือ!!
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
กำลังโหลดความคิดเห็น