xs
xsm
sm
md
lg

ชาวริมฝั่งน้ำสายร้องผู้ว่าฯ เชียงราย ขอโฉนด 50 ปีไม่คืบ แต่นายทุน-ต่างด้าวยื่น 4 เดือนกลับได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - ชาวบ้านริมน้ำสายฮือร้องจังหวัดฯ ถูกปฏิบัติสองมาตรฐาน หลังเทียวร้องขอเอกสารสิทธิที่ดินมานานกว่า 50 ปีสุดท้ายกลับไร้ความคืบหน้าใดๆ ขณะที่นายทุน-คนต่างด้าวยื่นขอเอกสารสิทธิในที่งอกริมน้ำสาย ใช้เวลาแค่ 4 เดือนกลับได้รับอนุมัติ

วันนี้ (18 มิ.ย.) กลุ่มชาวบ้านจากริมฝั่งลำน้ำสายชายแดนไทย-พม่า จาก ม.2 ม.7 และ ม.10 ชุมชนเกาะทราย ต.แม่สาย อ.แม่สาย ประมาณ 40 คน นำโดยนายปรีชา ศรีเพชร อดีตปลัด อ.แม่สาย นายประชัน แสนธิเลศ ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ได้พากันไปชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดฯ เพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวัดแก้ไขปัญหากรณียังไม่มีการออกเอกสารสิทธิให้กลุ่มชาวบ้านเกาะทรายที่เรียกร้องมานานกว่า 50 ปี แต่กลับออกเอกสารสิทธิให้ที่ดินผืนอื่นที่เป็นของนายทุนแทน

โดยนายปรีชาได้นำสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาต่างๆ ตั้งแต่สมัยรัฐบาลชุดก่อนๆ มาแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของปัญหาและการแก้ไขด้วย

นายปรีชากล่าวว่า ปัจจุบันที่ดินทั้ง 3 หมู่บ้านเป็นชุมนุมหนาแน่นทางฝั่งขวาของถนนพหลโยธิน หน้าด่านพรมแดนไทย-พม่า ติดฝั่งลำน้ำสาย เนื้อที่ประมาณ 57 ไร่ มีประชากรรวมกันกว่า 7,000 คน ในจำนวนประมาณ 700 หลังคาเรือน ซึ่งชาวบ้านอาศัยอยู่มานาน แต่ปรากฏว่าพื้นที่ตอนกลางกลับมีการออกโฉนดให้เอกชนรายหนึ่ง ทำให้ชาวบ้านเรียกร้องขอเอกสารสิทธิกันเรื่อยมาเพราะส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยของคนไทยดังที่ผู้คนทั่วไปได้พบเห็นเมื่อไป อ.แม่สาย

ซึ่งการแก้ไขปัญหาล่าสุดนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงรัฐบาลชุดก่อนได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ โดยนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ในฐานะดูแลกรมที่ดินได้ตั้งคณะกรรมการไปตรวจสอบ ต่อมาได้มีหนังสือให้เพิกถอนการเป็นที่สาธารณะเสีย เพื่อจะได้จัดสรรให้ประชากรที่หนาแน่นตามขั้นตอน

นายปรีชากล่าวอีกว่า แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล และทางจังหวัดนำโดยนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) จ.เชียงราย กลับตรวจสอบและส่งเรื่องไปให้กระทรวงมหาดไทย โดยไม่เสนอความเห็นขึ้นไปทำให้ทางกระทรวงฯ ไม่สามารถดำเนินการตามหนังสือเดิมได้ และทางจังหวัดกลับไปตรวจสอบที่ดินข้างเคียงอีก 44 ไร่ ซึ่งไม่มีบ้านเรือนหนาแน่นเหมือนผืนแรก โดยระบุให้มีการใช้ภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งขัดต่อกฎหมายที่ไม่ให้ใช้วิธีการนี้ในกรณีที่มีทะเบียน ทำให้การพิจารณาแก้ไขปัญหานี้กลับล่าช้าออกไปอีก

และที่น่าเจ็บใจคือ นอกจากจะไม่แก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านแล้ว กลับมีที่ดินผืนที่ 3 ซึ่งตั้งอยู่ติดกัน และเคยเป็นที่ดินงอกมาจากลำน้ำสาย รวมทั้งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวต่างด้าวอาศัยอยู่ กลับได้รับการออกเอกสารสิทธิจากกรมที่ดินเนื้อที่กว่า 60 ไร่หลังจากยื่นเรื่องไปได้เพียงแค่ 4 เดือน ปัจจุบันมีการขายกันไร่ละหลายล้านบาท และทราบมาว่ามีนายทุนใหญ่ที่เป็นคนท้องถิ่นมีผลประโยชน์ด้วย โดยบุคคลดังกล่าวรู้จักคุ้นเคยกับผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นอย่างดีด้วย

นายปรีชากล่าวต่อว่า ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอย่างมากว่าชาวบ้านได้เรียกร้องมาอย่างถูกต้อง ยาวนาน และสมเหตุสมผล เพราะที่ดินส่วนใหญ่อยู่กันหนาแน่นหน้าด่านพรมแดนแต่กลับถูกกลั่นแกล้งไม่ได้รับเอกสารสิทธิ ทั้งยังถูกตราว่ารุกล้ำที่สาธารณะ แต่ที่ดินงอกเงยที่มีนายทุนใหญ่และชาวต่างด้าวเข้าไปรุกล้ำ รวมทั้งอยู่ห่างไกลกลับมีการออกเอกสารสิทธิให้อย่างรวดเร็ว จึงถือเป็นเรื่องสองมาตรฐานที่ประชาชนตาดำๆ ที่ไม่มีเส้นสายและเงินทุนต้องประสบ

ขณะเดียวกัน เมื่อชาวบ้านออกมาเรียกร้องเช่นนี้กลับมีการส่งคนไปข่มขู่ชาวบ้าน มีการเยาะเย้ยถากถางจากนายทุนว่าชาวบ้านไม่มีเส้นสายจึงไม่มีทางได้เอกสารสิทธิ ส่วนที่ ม.1 นั้นเส้นใหญ่จึงได้อย่างรวดเร็วด้วย

“ขอเรียกร้องให้ทางจังหวัดแก้ไขปัญหาโดยวิธีการง่ายๆ คือนำความเห็นในหนังสือจากรัฐบาลชุดก่อนมาใช้ คือ เพิกถอนการเป็นที่สาธารณะเสีย จากนั้นก็พิจารณาตามความเป็นจริง ไม่ใช่มาดองเรื่องกันไปเรื่อยๆ อย่างนี้ ไม่เช่นนั้นอีก 15 วันพวกผมจะออกมาเคลื่อนไหวอีก โดยจะเอาหนังสือจากรัฐบาลชุดก่อนไปร้องต่อนายถาวร เสนเนียม ว่าหนังสือของท่านชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และในฐานะที่ท่านเป็นนักกฎหมายคนสำคัญจะดำเนินการอย่างไร รวมทั้งจะเรียกร้องไปยังจังหวัดด้วย” นายปรีชากล่าว

ต่อมานายอาณัติ วิทยานุกูล ปลัดจังหวัดเชียงราย และนายวิษณุ ธันวรักษ์กิจ เจ้าพนักงานที่ดิน จ.เชียงราย ได้รับเรื่องจากกลุ่มชาวบ้าน ซึ่งนายวิษณุรับปากจะสรุปประเด็นปัญหาทั้งหมดเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาให้ต่อไป

ซึ่งนายปรีชา และชาวบ้านพยายามสอบถามว่า เหตุใดจังหวัดจึงไม่ดำเนินการตามหนังสือของกระทรวงมหาดไทยก่อนหน้านี้ และกลับนำวิธีการแผนที่ทางอากาศมาใช้ รวมทั้งไปออกเอกสารสิทธิให้พื้นที่ป่าแขมที่งอกเงยแทน โดยใช้เวลาเจรจากันอยู่พักใหญ่ แต่ทางจังหวัดฯ ก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ นอกจากจะรวบรวมปัญหาให้ ทำให้กลุ่มชาวบ้านแยกย้ายกันกลับโดยนายปรีชายืนยันจะเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังพ้นกำหนด 15 วัน

แหล่งข่าวชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวว่า ที่ดินที่มีการออกโฉนดให้ใหม่เป็นที่ป่าแขม ที่งอกเงยอันเป็นผลมาจากลำน้ำสายเปลี่ยนทิศ ปัจจุบันมีคนสำคัญในพื้นที่จับจองและขายกันตารางเมตรละนับหมื่นบาท หรือไร่ละหลายล้านบาท โดยมีกระแสว่าจะมีการสร้างเป็นโรงแรมขนาดใหญ่เชื่อมกับโรงแรมเก้าชั้นของกลุ่มว้าในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ด้วย





กำลังโหลดความคิดเห็น