xs
xsm
sm
md
lg

“ปณิธาน” แนะรัฐบาลลงใต้สร้างขวัญกำลังใจให้ชาวบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ปณิธาน” แนะผู้เกี่ยวข้องต้องลงภาคใต้ โดยเลือกพื้นที่ที่ปลอดภัยเพื่อไม่ต้องส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลมากนัก ชี้มีผลต่อจิตวิทยาสูงมาก หวั่นขวัญกำลังใจชาวบ้านแย่รู้สึกถูกทอดทิ้ง พร้อมเตือนศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ข้อมูลต้องแม่น ต้องมีคนรับผิดชอบหน้าที่ชัดเจนและมีอำนาจเต็ม

วันที่ 1 ส.ค. รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง และ ผศ.ดร.พีรยศ ราฮิมมูลา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

โดยนายปณิธานกล่าวว่า น่าสนใจที่สถานการณ์ภาคใต้ปีนี้กลับมารุนแรงอีกเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งเราได้ผ่านช่วงที่รุนแรงที่สุดมาแล้ว 2 ครั้ง คือปี 2547 ที่มีผู้เสียชีวิต 881 คน เฉลี่ยวันละ 2.4 คน บาทเจ็บพันกว่าคน ส่วนปี 2551 มีผู้เสียชีวิต 836 คน เฉลี่ยวันละ 2.2 คน บาดเจ็บพันกว่าคน ซึ่งปัจจุบันผู้เสียชีวิตตกลงมาเหลือ 489 คน เฉลี่ยวันละ 1.3 คน แต่ที่น่ากังวลคือหากดูตัวเลขตั้งแต่ต้นปีแนวโน้มไม่ค่อยดี โดยเฉพาะเดือนมีนาคม คนตายเกือบ 60 คน

นายปณิธานกล่าวอีกว่า รัฐบาลได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภาคใต้ จะเป็นศูนย์ปฏิบัติการส่วนหลัง เปรียบเทียบเป็นเพนตากอน ก็ฟังดูดีตามสมัยนิยม แต่สำหรับเราไม่ตลก สำหรับพวกเรามีอยู่ 2 วิธีในการทำงาน รูปแบบแรกให้อยู่ภายใต้ทหาร ให้คน 6-8 หมื่นนาย ที่ทำงานความมั่นคงในภาคใต้ อยู่ภายใต้ กอ.รมน. กองทัพภาคที่ 4 ให้แม่ทัพภาคที่ 4 มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งในอดีตเคยประสบความสำเร็จมาแล้ว แต่ปัจจุบันบางคนบอกว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป ผู้ก่อการเปลี่ยนการรบจากป่ามาสู่เมือง กฎหมายแบบเดิมไม่มี ซึ่งกอ.รมน.ดึงคนออกมาจากกระบวนการยุติธรรมได้ แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว เลยมีรูปแบบใหม่ก็คือแข่งกันทำ มี ศอ.บต.-กอ.รมน. และอื่นๆ เช่น เอกชน เอ็นจีโอ ปัญหาที่ตามมาคือ ใครจะดูแลควบคุมตรงนี้ รัฐบาลก่อนได้กำหนดตัวบุคคลลงไปเลย โดยมีกรอบใหญ่คอยควบคุม ก็เริ่มเห็นผลพอสมควร ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ก็ไม่ต่างกันมาก เพียงแต่ข้อมูลต้องแม่น ต้องประสานงานให้ดี แล้วก็สามารถกำหนดคนให้ชัดเจนใครจะลงไป

อยากแนะนำรัฐบาลว่าไม่ต้องศึกษาอะไรมาก พวกเรามีรายงานให้นายกฯ ทุกคนมาตลอดอยู่แล้ว เอาของเก่ามาดัดแปลง แล้วทำแบบที่สอง นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ได้รับมอบหมายให้ดูเรื่องนี้ ต้องมีอำนาจเต็มลงไปประสานงาน ไม่ใช่ไม่มีอำนาจ ก็จะโยนกันไปมา ทำให้เกิดวิกฤตได้ แล้วต้องลงพื้นที่ ถูกต้องที่รัฐบาลบอกว่าถ้าลงไปเจ้าหน้าที่ต้องโยกกำลังมาดูแล แต่เรื่องขวัญกำลังใจ และให้ลูกน้องตื่นตัวในการทำงานควรลงไป โดยกำหนดให้ดีว่าจะลงในพื้นที่ไหนที่ไม่กระทบ ไม่ได้บอกให้ไปพื้นที่รบ การกระทำนี้จะเกิดผลทางจิตวิทยาสูงมาก เพื่อให้งานเดิน หากปฏิเสธไม่ไปเลย ขวัญกำลังใจของคนในพื้นที่จะยิ่งแปรปรวนใหญ่ว่ารัฐบาลไม่สนใจหรือ

นายพีรยศกล่าวว่า ตอนประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลได้พยายามออก พ.ร.บ.บริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องการแยก ศอ.บต. กับ กอ.รมน.ให้ชัดเจน แต่ก็ยุบสภาไปก่อน แล้วปัญหาที่มีก็คือการทำงานที่ไม่เป็นเอกภาพระหว่างสองหน่วยงาน

บางหน่วยงานยึดติดศักดิ์ศรีตัวเองเหนือกว่าหน่วยงานอื่น อันนี้น่าห่วงมาก น.ส.ยิ่งลักษณ์เลยตั้งคณะบุคคลอีกกลุ่มหนึ่งขึ้นมา ก็คือชุดที่มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นประธานในการขับเคลื่อนนโยบาย พอมาเมื่อวานประชุมฝ่ายความมมั่นคงก็มีการตั้งศูนย์ใหม่อีกแล้ว คือมีศูนย์ไม่ได้เสียหายอะไร แต่การเอานโยบายไปสู่ภาคปฏิบัติสำคัญที่สุด การตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภาคใต้ เริ่มต้นว่าจะตั้งที่ กอ.รมน.สวนรื่นฤดี ตนคิดว่าระดับนี้ก็คือการรวบรวมข้อมูล ประสานข้อมูลจาก 17 กระทรวงมาอยู่ที่เดียวกัน เพื่อง่ายในการสั่งการ ซึ่งมันก็คือการเอาข้อมูลมาจากข้างล่าง แล้วน่าเป็นห่วงว่าศูนย์นี้ก็จะเอาข้อมูลมาจากข้างล่างเช่นเดียวกัน เพราะจากประสบการณ์แล้ว การข่าวของไทยถ้ามาจากล่างไปบน มักผิดเพี้ยนไป การตัดสินใจของผู้อยู่ข้างบนเลยสั่งการผิดๆ



กำลังโหลดความคิดเห็น