เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 อาจกลายเป็นลางร้ายสำหรับรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือเปล่าก็ไม่รู้ที่เน้นในเรื่องโชคลางใสยศาสตร์ เสริมบารมี แต่ก็เกิดเหตุน่าเศร้าเมื่อมีชายคนหนึ่งถูกช้างที่ร่วมพิธีตักบาตรทำบุญเสริมดวงกระทืบจนเสียชีวิต หากมองในแง่วิทยาศาสตร์ก็พอสรุปได้ว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะข่าวว่าชายคนดังกล่าวซุกซนไปแหย่ช้างจนเกิดโมโหทำร้ายเอา แต่ในด้านอาถรรพ์อาเพทรับรองว่าต้องมีคนซุบซิบนินทากันแน่นอน และยิ่งถิ่นสุรินทร์ดินแดนหมอผีเขมร นักไสยเวทย์ย่อมต้องคิดกันในทางลบบ้างละ ดีไม่ดีอาจต้องมีการเพิ่มพิธีแก้กรรมในทางลึก ทางลับกันยกใหญ่สิไม่ว่า
00 ขณะเดียวกันจะว่ากันไปแล้วการจัดประชุม ครม.สัญจร ไม่เห็นเนื้องานเป็นชิ้นเป็นอัน จนจำเป็นต้องยกขบวนแห่กันออกไปประชุมกันเป็นวรรคเป็นเวร เพราะไม่ต่างจากการเดินสายโชว์ชุดสวยอวดชาวบ้านตามต่างจังหวัดเท่านั้น เสียเงิน เสียงบประมาณ สร้างความเดือดร้อนให้กับข้าราชการ และพ่อค้าที่ถูกบังคับรีดไถมาอีกต่อหนึ่งเพื่อให้ “ผักชีโรยหน้า” ได้งดงาม แทนที่จะเป็นการไปเยี่ยมเยียนตรวจราชการกันธรรมดาในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ได้
00 แต่ที่น่าเป็นห่วงที่คนไทยทุกคนต้องเตรียมตัวรับมือกันเสียแต่เนิ่นๆก็คือข่าวร้ายเรื่อง “การส่งออก”ที่ลดฮวบต่ำเป็นประวัติการณ์ในรอบ 6 เดือน ไม่ใช่เฉพาะเรื่องข้าวอย่างเดียวที่เสียแชมป์ให้กับอินเดีย และเวียดนาม ยังมีสินค้าแทบทุกรายการที่ส่งออกไม่ได้ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรหลักทุกรายงานนอกจากข้าวแล้วยังมี ยางพารา มันสำปะหลัง ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมบางอย่างเช่น รถยนต์ แทบทั้งหมดไทยเราก็เป็นประเทศรับจ้างผลิตแล้วส่งออกรายได้ก็ส่งกลับประเทศแม่ของเขาทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องการขาดความมั่นใจ เช่นมาตรการในการแก้ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาต้นทุนสูงจากเรื่องค่าแรง จนหลายบริษัทย้ายฐานไปยังเพื่อนบ้าน หรือแม้แต่บริษัทคนไทยก็เริ่มย้ายไปแล้ว โดยเฉพาะพม่าที่กำลังเนื้อหอมอีกไม่นานก็จะกลายเป็นคู่แข่งไทย ในเรื่องข้าว แน่นอน นี่ขนาดวิฤติยูโรยังไม่ลามไปทั่ว คาดว่าตั้งแต่ปลายปีจนถึงต้นปีหน้า รับรองว่า “ของจริง” มาถึงแน่ เตรียมรับไว้ให้ดีแล้วกัน
00 สังเกตหรือไม่ว่าการมอบหมายตัวแทนศาลรธน.ไปแจ้งความดำเนินคดีกราวรูดกับพวก “หัวโจกแดง” ทั้ง ก่อแก้ว พิกุลทอง ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก รวมทั้งคนอื่นๆทั้งหมด 26 คน ด้วยข้อหาความผิดหลายมาตรา ซึ่งเป็นคดีอาญาในความผิดหลายกระทง ต่างกรรมต่างวาระ และมีสิทธิ์ติดคุกเสียด้วยซี เพราะพฤติกรรม ทั้งคำพูดและท่าทีล้วนแล้วแต่ชัดเจน มีการข่มขู่คุกคาม ซึ่งก็หมายรวมไปถึง ตู่ จตุพร พรหมพันธุ์ ด้วย และศาลมีกำหนดชี้ชะตาว่า จะถอนประกันหรือไม่วันที่ 9 ส.ค.รวมกับอีกหัวโจกในคดีก่อการร้ายอีก 23 คน
00 ตอนแรกก็นึกว่า ศาลรธน.เอาเรื่องเฉพาะ จตุพร คนเดียว ที่ทำปากกล้าขาสั่นด่าศาล จนถูกยื่นเรื่องให้ถอนประกันในคดีก่อการร้าย แต่จู่ๆเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ก็มอบหมายตัวแทนมาแถลงว่าได้แจ้งความดำเนินคดีแบบเต็มพิกัด ดังกล่าว มันสะท้อนให้เห็นว่าศาลต้องการคงความศักดิ์สิทธิ์เข้มแข็งให้คงเส้นคงวาต่อไป จะยอมให้พวก “กเฬวราก” ยื่นหน้าด่าทอเหยียดหยามต่อไปอีกไม่ได้ และเชื่อว่าถ้ามีรายการ “เชือด” ให้ดูเป็นตัวอย่าง ก็น่าจะทำให้ “ลูกพี่” ที่ยุแยงอยู่ข้างหลัง หรือพวก “อาสา” รับจ้างด่าศาลคงจะ “หัวหด” ลดความตึงเครียดให้บ้านเมืองได้อีกทางหนึ่ง ล่าสุด “เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ก็ร่วงไปอีกรายจากคดีดูหมิ่นประธานศาลรธน.โดยจำคุก 1 ปี พร้อมกับ ส.ส.อุดรฯเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ แต่ปราณีโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ที่ผ่านมาสาเหตุที่เหิมเกริมหนักข้อเพราะคิดว่า “พ่อแม้ว” กูใหญ่ คงไม่มีใครกล้าทำอะไร อีกทั้งยังมีประเภท “ด่าศาลโชว์นาย” ดังนั้นขอได้โปรดศาลเมตตาช่วยจัดการให้เข็ดหลาบเสียบ้าง !!
00 ได้ยินจากปากของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯคนที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลสตช.ว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เรียกประชุมหน่วยความมั่นคงเมื่อวานนี้ (31ก.ค.)เพื่อประเมินสถานการณ์ชายแดนใต้ ก็มองได้หลายแง่มุม มุมหนึ่งก็เพิ่งตื่นตัวหลังจากมีเหตุการณ์รุนแรงเสียชีวิตกันแบบอุกอาจหยามเหยียดอำนาจรัฐแบบไม่เหลืออะไรแล้ว อีกมุมหนึ่งเป็นการประชุมแบบขอไปทีหลังเหตุการณ์ทำให้ดูเหมือนว่ารัฐบาล หรือฝ่ายการเมืองไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ถ้าให้สรุปรวมแล้วก็ต้องบอกว่าเห็นการทำงานของคนในรัฐบาลแล้วหดหู่และหมดหวังไปตั้งนานแล้ว