“นพเหล่” สอน “ค้อนปลอม” ไม่ใช่หน้าที่คุยคนชงให้ถอนร่างปรองดอง ยันไม่เอาออกสภาแน่ เน้นเดินหน้าสานเสวนาประชาชน อ้างหวังหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ไม่ได้จุดชนวน ป้อง “ทักษิณ” ไม่เกี่ยวแก้ รธน.โอ่ถ้าทำจริงเสร็จตั้งแต่วันเกิดแล้ว เผยแผนออนทัวร์นายไปดูไบ, อังกฤษ ก่อนเข้ามะกัน ต้น ส.ค.ไม่บอกไปเมืองไหน บอกกลัว “สนธิ” รู้
วันนี้ (31 ก.ค.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การถอนหรือไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติออกจากวาระการพิจารณาของรัฐสภาเป็นเรื่องของผู้ที่ยื่นเสนอร่างกฎหมาย ดังนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ที่จะไปคุยกับบุคคลอื่นให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองออกไป แต่ควรทำหน้าที่เป็นกลางและทำเฉพาะในส่วนที่เป็นหน้าที่ของตนเองเท่านั้น ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ไม่ใช่ระเบิดเวลา ดังนั้น ยืนยันว่า จะไม่มีการถอนออกจากสภาแน่นอน เนื่องจากหากยังคงอยู่ในวาระการพิจารณาก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด โดยระหว่างที่เรื่องยังค้างอยู่รัฐบาลควรจะดำเนินการสานเสวนาและทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เมื่อตกผลึกแล้วก็สามารถนำมาพิจารณาได้
นายนพดล กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ยังเคารพในความเห็นของพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เสนอให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง แต่วันนี้ ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ก็ต้องการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งเพื่อให้การเมืองนิ่งเช่นกันเพื่อความอยู่รอดของรัฐบาลเอง จึงพยายามจะไม่กระทำการใดที่จุดชนวนความขัดแย้งขึ้นมาอีก ตนมองว่า การคาร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ไว้ ไม่ได้ก่อให้เกิดความแตกแยก และหากพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยก็สามารถแปรญัตติได้เมื่อมีการหยิบร่างขึ้นมาพิจารณา
นายนพดล กล่าวอีกว่า วันนี้ คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทย จะหารือกันเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ชัดเจนก่อนเปิดประชุมสภาในวันที่ 1 ส.ค.โดยขณะนี้เหลืออยู่เพียง 2 แนวทาง คือ จัดทำประชามติก่อนลงมติในวาระ 3 หรือระหว่างการทำประชามติควรมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตราที่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เช่น มาตรา 68 และ มาตรา 237 เป็นต้น และจะนำข้อสรุปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลในงานเลี้ยงที่ รร.มิราเคิลแกรนด์ เวลา 18.00 น.
“แนวทางของพรรคไม่ควรล่าช้าออกไปอีก เพราะคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญออกมาอย่างเป็นทางการแล้วประกอบกับได้ มีการประชุมร่วมกันในสัมมนาพรรคเพื่อไทยแล้วในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไม่ว่าจะแก้ไขมาตราใดหรือแก้ทั้งฉบับ หลักการสำคัญ คือ ต้องรักษาดุลอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ไว้ให้ได้ ไม่ให้อำนาจใดมีการแทรกแซงระหว่างกัน เปรียบเสมือนหากนิ้วเท้ามี 3 นิ้ว ถ้าอีก 2 นิ้ว มาขบอีกนิ้วทำให้เดินลำบาก” นายนพดล กล่าว
นายนพดล กล่าวทิ้งท้ายว่า ตลอด 2 อาทิตย์ ที่ผ่านมา สะท้อนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้บงการการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะหากสามารถบงการได้จริงท่าทีของพรรคคงได้ข้อสรุปตั้งแต่งานเลี้ยงวันเกิดที่ฮ่องกง เมื่อวันที่ 26 ก.ค.และการวิดีโอลิงก์เข้ามาที่สัมมนาพรรคเพื่อไทยแล้ว ดังนั้น ยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกกำหนดทิศทางโดยพรรคเพื่อไทยเท่านั้น
ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ แถลงอีกว่า หลังจากงานเลี้ยงวันเกิดที่เกาะฮ่องกง เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับไปดูไบ จากนั้นจะเข้าอังกฤษแล้วต้นเดือน ส.ค.จะเดินทางไปสหรัฐอเมริกาต่อทันที เพื่อพบปะประชาชนและเชิญชวนนักธุรกิจเพื่อให้มาลงทุนในไทยและอาเซียน รวมถึงจะไปพบกับนักการเมือง ส.ส.และ ส.ว.รวมถึงสื่อมวลชน ในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย แต่จะเป็นการเดินทางไปเมืองใดบ้างนั้น ยังไม่อยากจะพูด เพราะไม่อยากให้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ทราบ และไม่ประสงค์ให้คนไปต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายนพดล กล่าวต่อว่า การเดินทางครั้งนี้จะออกจากมหาสมุทรแอตแลนติก สู่มหาสมุทรแปซิฟิก และจะทัวร์จากตะวันออกของสหรัฐฯ ไปสู่ด้านตะวันตกเพื่อไปสิ้นสุดที่หมู่เกาะฮาวายและกลับมายังทวีปเอเชีย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การเดินทางไปสหรัฐฯครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีแผนลงทุนในสหรัฐฯ และใช้ยุทธศาสตร์โลกล้อมไทย ตามที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวหา
“ส่วนที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษก ปชป.บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังถูกสหรัฐฯ ล้อมนั้น จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้เดินทางไปเอง ทั้งยังใช้งบส่วนตัวไม่ใช่ภาษีประชาชนเหมือนที่ นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ เคยทำ ดังนั้น ไม่มีทั้งโลกล้อม พ.ต.ท.ทักษิณ และโลกล้อมไทยนั้น ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะรัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายนพดล กล่าว
