เพื่อไทยสัมมนาทิศทางพรรค "ยงยุทธ" ชูทรท.คืนรังทำแข็งแกร่ง "เฉลิม" ขู่คนของพรรคเกี่ยวโกงก็ฟันไม่เว้น แย้มหลัง 1 ส.ค.ฝ่ายค้านนอนไม่หลับ บอกเสื้อแดงใกล้รู้แล้วใครสังหาร โอ่อยู่ 11 เดือนปราบยามากกว่ายุค "มาร์ค" รับโทรถาม "แม้ว" ตลอด "กิตติรัตน์" ยังโม้เศรษฐกิจโต 7% จ่อชงครม.ให้สิทธิ์คนจองรถแต่ยังไม่ได้ในสิ้นปี โต้จำนำข้าวขาดทุนแสนล้าน "สุรนันทน์" ยอ "ยิ่งลักษณ์" ภาวะผู้นำสูง จ่อเปิดตัว 3 โครงการ ยันน้ำไม่ท่วมอีกแน่
วันนี้ (28 ก.ค.) ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ จอมเทียน พัทยา จังหวัดชลบุรี การสัมมนา”ทิศทางการทำงานการเมืองของพรรคเพื่อไทย” ในช่วงแรก ที่มีการสัมมนาหัวข้อ”1 ปี รัฐบาลเพื่อไทย ผลสำเร็จและความพึงพอใจ” โดยมีรัฐมนตรี-ส.ส.-แกนนำพรรคเข้าร่วมงานคับคั่งร่วม 200 คน
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวเปิดสัมมนาตอนหนึ่งว่า หลังเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฏร 1 สิงหาคม มีหลายเรื่องที่พรรคต้องเตรียมพร้อมเช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ การสัมมนาครั้งนี้จึงหวังว่าจะทำให้มีการปรับปรุงความแข็งแรงของพรรคเพราะวันนี้มีคนกลับมาร่วมงานกับพรรคเพิ่มขึ้นจะได้ช่วยกันทำให้พรรคแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
จากนั้นแกนนำพรรคและรัฐมนตรีของเพื่อไทยได้กล่าวในการสัมมนาโดยส่วนใหญ่เป็นการพูดถึงผลงานของรัฐบาลในช่วงเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา และบอกถึงนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่เคยหาเสียงเอาไว้แต่ยังไม่ได้ดำเนินการแต่จะเริ่มดีเดย์ต่อจากนี้หลังรัฐบาลจะมีการแถลงผลงานรัฐบาลในโอกาสครบรอบหนึ่งปีการทำงานในวันที่ 23 สิงหาคมนี้
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า หลังคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการตั้งศูนย์ตรวจสอบการทุจริตในทุกกระทรวงโดยมีตนเป็นประธานคุมเรื่องนี้ เรื่องหลักที่จะเข้าไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วนเลยก็คือการรับจำนำข้าว เรื่องการจ่ายเงินเยียวยา เรื่องงบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยืนยันการตรวจสอบเอาจริง ถ้าพบว่าคนของเราเกี่ยวข้อง ก็ไม่มีเว้น จะเอาหน่วยงานต่างๆ มาช่วยเช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องนี้ยืนยันเอาจริง ไม่ผิดก็ไม่ผิด ผิดก็ต้องผิด
“ ถ้ารัฐบาลไม่ทุจริตก็อยู่ครบสี่ปี กับอีกสี่ปี ครบแปดปีแล้วว่ากันใหม่ มีคนบอกสภาฯจะเดือดหลัง 1 สิงหาคมบอกได้เลยว่าคนเดือดร้อนไม่ใช่รัฐบาล แต่เป็นฝ่ายอื่น เพราะกำลังโดนตรวจสอบเรื่องเงิน 520 ล้านเข้าบัญชีเมีย ไปบุกรุกที่สาธารณะ ดีเอสไอกำลังสอบสวนอยู่ คนนอนไม่หลับคือฝ่ายค้าน การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจถ้าไม่มีการทุจริตถ้าถามเชิงบริหารถามมาก็ตอบไปแต่ถ้าบอกว่ารัฐบาลทุจริตฝ่ายค้านต้องยื่นถอดถอนด้วยและจะอภิปรายได้ต้องมีข้อมูลเอกสารประกอบมาแสดงด้วย เรื่องการสอบสวนคดีต่างๆ ผมก็ถามธาริต เพ็งดิษฐ์ ว่าเรื่องผังล้มเจ้าเป็นยังไง ธาริตบอกไม่ผิด ก็ให้ไปแถลง ถามเรื่องชายชุดดำอยู่ไหน เขาบอกไม่มี ไม่มีก็ไปแถลง ขอบอกสมาชิกเสื้อแดง เรื่องคดีชันสูตรพลิกศพตอนนี้ใกล้แล้วจะรู้ว่าใครเป็นคนสั่ง เรื่องนี้จะเอาเอกสารให้นายภูมิธรรม เวชยชัย ผอ.พรรคเพื่อไทยไปแจกให้สมาชิกพรรคต่อไป ”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ในฐานะรับผิดชอบเรื่องปราบปรามยาเสพติด รัฐบาล อยู่มา 11 เดือนปราบยาเสพติดมากว่าประชาธิปัตย์ 2 ปี 8 เดือน มีปัญหาเมื่อไหร่ก็โทรไปปรึกษาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อขอคำปรึกษา เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ เคยทำแคมเปญปราบปรามยาเสพติดมาก่อนสมัยเป็นนายกฯ อย่างไรก็ตาม เรื่องการปราบปรามต่างๆ เช่น จับแก็งค์ซูโด ที่สำแดงเท็จ การปราบปรามผู้ว่าราชการจังหวัดยังให้ความสนใจน้อยอยู่ ต้องเอาจริงเอาจัง ถ้าไม่รวมพลังแก้ปัญหาไม่ได้ ที่ผ่านมาเกือบหนึ่งปี ผลงานยาเสพติด สรุปผล ได้คือสอบสวนจับกุมได้ 3 แสนกว่าคดี มีผู้ต้องหา 3 แสนกว่าราย ยึดยาบ้า 61 ล้านกว่าเม็ด เฮโรอีน 224 กิโลกรัม อายัดทรัพย์ที่ได้แล้วพันกว่าล้าน จับกุมไม่ได้คนเดียวคือนะคะมวยที่อยู่ฝั่งพม่า
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังกล่าวว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ รัฐบาลหวังว่าจะเติบโตได้ถึงร้อยละ 7 ต่อปีโดยไม่รวมเรื่องเงินเฟ้อ บางหน่วยงานอาจจะตั้งเป้าไว้ที่ 6 5.5 หรือ 5 แต่ยังหวังว่าเราจะเติบโตได้ถึง 7 % แม้การส่งออกจะชะลอตัวและอาจทำให้ยอดจีดีพีตกไปบ้างแต่ก็เชื่อว่าจะทำได้ ทั้งนี้ รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณขาดดุลในปีนี้อยู่ที่ 3 แสนล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าปีก่อนๆ ถึง 1 แสนล้านบาท และตั้งเป้าว่าจะลดงบประมาณขาดดุลลงไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่ภาวะสมดุลงบประมาณในอีก 4 ปีข้างหน้าให้ได้ เพื่อสร้างความมั่นใจสำหรับประเทศไทยให้กับนักลงทุนต่างชาติ
นายกิตติรัตน์ ย้ำว่า เรื่องโครงการต่างๆ เช่นรถยนต์คันแรก บ้านหลังแรก ทั้งหมดกำลังดำเนินการไปอย่างก้าวหน้า รถคันแรกตอนนี้ยอดสั่งจองมีมาก จนคนเกรงว่าหากจองแล้วรับรถไม่ทันสิ้นปีจะได้สิทธิดังกล่าวหรือไม่ เรื่องนี้จะมีการนำไปหารือในที่ประชุมครม.สัญจรที่สุรินทร์วันจันทร์นี้เชื่อว่าครม.คงเห็นชอบให้คงสิทธิไว้ คือหากจองไปแล้วแต่ไม่ได้รับภายในสิ้นปี ก็ยังคงได้รับสิทธิแต่ห้ามเปลี่ยนสิทธิคือห้ามเปลี่ยนชื่อเอาใบจองไปเก็งกำไร โครงการรับจำนำข้าวที่กำลังโดนโจมตี ขอให้มั่นใจว่าข้าวที่รับมาจะขายได้
“ตอนนี้มีนักวิชาการบอกโครงการนี้จะขาดทุนแสนล้านไม่เป็นความจริง จะเกิดได้กรณีเดียวคือเอาข้าวไปเททิ้งลงทะเล ข้าวที่ขายได้มีราคาดีมากจะส่งมอบได้ภายในสิงหาคม เรากลับเป็นห่วงเสียอีกว่าถ้ามีคนซื้อเยอะจะทำยังไง เรื่องรับจำนำข้าวหากมีข้อบกพร่องจะแก้ไขแต่จะยืนยันนโยบายนี้ต่อไป สิ่งที่รัฐบาลกำลังจะดำเนินการโดยที่ไม่มีรัฐบาลชุดไหนกล้าก็คือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ซึ่งที่ผ่านมามีข้อจำกัด หากไม่มีการลงทุน เท่ากับรัฐบาลทำอะไรไม่สมบูรณ์ จึงเตรียมออกพรบ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานวงเงินประมาณ 2.00 ล้านล้านบาท แต่ไม่ใช่ทำปีเดียวเลย ถ้าทำแล้วจะทำให้ประเทศเข้มแข็ง”นายกิตติรัตน์กล่าว
ขณะที่นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นางสาวยิ่งลักษณ์มีภาวะผู้นำนายกรัฐมนตรีสูงมาก กล้าตัดสินใจ ตัดสินใจด้วยตัวเองตลอด แต่ไม่ได้ทำอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า สิ่งสำคัญคือมีน้ำใจ เอื้ออาทร ทุกเรื่องนายกรัฐมนตรีจะถามก่อนว่าประชาชนได้อะไร ขอปรบมือดังๆ ให้นายกฯยิ่งลักษณ์
“เดือนสิงหาคมนี้จะคึกคักเพราะเปิดสภา 1 สิงหาคมและ 23 สิงหาคม รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำงานครบหนึ่งปี ตอนนี้กำลังรวบรวมผลงานรัฐบาลต่างๆ เพื่อแถลงผลงานรัฐบาล พรุ่งนี้ครม.สัญจรที่สุรินทร์จะเปิดตัวนโยบายบัตรเครดิตเกษตรกร และ 3 สิงหาคมจะเปิดตัวนโยบายฟรีไวไฟ และตามด้วยการกลับมาของโครงการ 30 บาทรักษาฟรีทุกโรคเพื่อรักษาศักดิ์ศรีมนุษย์ ยืนยันปีนี้จะไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่อีกแล้ว"เลขาธิการนายกรัฐมนตรีกล่าวในห้องสัมมนา