ผู้ร้องที่ 2 คดี ม.291 โผล่คัดสำเนาคำวินิจฉัยกลางแก้ รธน.เล็งเอาไปเขียนร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน สอบอัยการสูงสุด หลังยื่นฟัน ม.68 แล้วแต่ไม่ทำ ด้านอดีตทนายถุงขนม 2 ล้าน อ้างคำพิพากษากลางไม่ชัด ยันศาลไม่มีอำนาจวินิจฉัย โยนที่ประชุมรัฐสภาดูต่อ
วันนี้ (27 ก.ค.) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายวันธงชัย ชำนาญกิจ ในฐานะผู้ร้องที่ 2 ในคดีขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่ ได้เดินทางมายื่นขอคัดสำเนาคำวินิจฉัยกลางคดีดังกล่าวต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่า จะทำการจัดส่งเอกสารพร้อมตราประทับให้ ไม่เกินวันพรุ่งนี้ ซึ่งตนจะนำสำเนาคำวินิจฉัยกลางไปประกอบการพิจารณาเขียนหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของอัยการสูงสุด ในการตรวจสอบข้อสอบข้อเท็จจริง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ที่ตนเคยได้ยื่นผ่านอัยการสูงสุดแล้ว แต่ไม่ได้รับการดำเนินการ จนต้องมายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ จะยื่นหนังสือหลังจากวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นวันที่เปิดสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยต้องนำคำวินิฉัยกลาง และรอคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะเผยแพร่ภายในสัปดาห์หน้า มาศึกษาอย่างละเอียดอีกครั้ง และหากเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 1 สิงหาคม แล้วมีการเดินหน้าลงมติ วาระ 3 ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จ หรือไม่ปฏิบัติตามข้อแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่
ทางด้าน นายพิชิต ชื่นบาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะทีมกฎหมายพรรค กล่าวถึงคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญว่า ได้อ่านคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เห็นว่า ไม่มีความชัดเจน ประเด็นไม่มีความแตกต่างจากที่แถลงไปเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ยังใช้คำว่า “ควรจะ” ซึ่งไม่สามารถอธิบายได้ว่า สิ่งใดที่สามารถทำได้หรือทำไม่ได้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญคิดว่าจะเป็นเสาหลักทางประชาธิปไตย ก็ควรจะมีความชัดเจนออกมา แต่คำวินิจฉัยที่ออกมากลายเป็นข้อถกเถียงของนักวิชาการ นักกฎหมาย ทำให้เกิดการตีความเข้าข้างแต่ละฝ่าย ส่วนตัวยังยืนยันว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัยก้าวล่วงไปถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 291 สำหรับแนวทางการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 จะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ขึ้นอยู่กับที่ประชุมรัฐสภา เชื่อว่า แนวทางที่ออกมาจะเป็นการหาทางออกที่ประชาชนเข้าใจมากที่สุด หลีกเลี่ยงที่จะเกิดความแตกแยกในสังคม เราคงไม่ดื้อปฏิบัติสวนทางกับคำสั่งศาล แต่ก็ไม่ละเลยที่จะเดินหน้าตามหลักประชาธิปไตย
