“นิคม” ปัด ปธ.วุฒิสภา ต้องเป็น ส.ว.เลือกตั้ง แต่พร้อมทำหน้าที่

รองประธานวุฒิสภา ชี้ “ธีรเดช” หลุดตำแหน่ง ปธ.วุฒิฯ แม้คดียังไม่ถึงที่สุด สั่งเลขาฯ วิปวุฒิสภาตามหลักฐาน พร้อมถกหาคนใหม่ ปัดไม่จำเป็นต้องมาจากสายเลือกตั้ง แย้มหากถูกเสนอก็พร้อมรับตำแหน่ง ส่วนวาระ 3 เลื่อนถก รอดูท่าที

วันนี้ (25 ก.ค.) นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญามีคำพิพากษาสั่งจำคุก พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา กรณีขึ้นเงินเดือนตนเอง ทั้งนี้ ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปีว่า ถือว่า พล.อ.ธีรเดชต้องพ้นจากตำแหน่งประธานวุฒิสภาโดยทันที ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 124 (4) ที่ระบุว่าประธานวุฒิสภาย่อมพ้นจากตำแหน่งเมื่อต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษ ที่ประชุมพิจารณาว่าเบื้องต้นจำเป็นต้องสรรหาประธานวุฒิสภาคนใหม่ แต่เพื่อที่จะได้หลักฐานจากศาลอาญาก่อน จึงได้มอบหมายให้เลขาฯ วิปวุฒิสภาไปติดตามหลักฐานดังกล่าว เพื่อนำมาประกอบในการที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้งผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาคนใหม่ จึงได้กำหนดวันเพื่อที่จะสรรหาตำแหน่งประธานเอาไว้ 3 วัน คือ วันที่ 10, 14 และ 17 ซึ่งก็จะต้องรอดูอีกครั้งหนึ่งว่าวันใดที่หลักฐานหรือเอกสารดังกล่าวพร้อม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการหารือเพื่อกำหนดผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานจะต้องเป็น ส.ว.จากสรรหา หรือการเลือกตั้งหรือไม่ นายนิคมกล่าวว่า ไม่ได้มีการกำหนดในเรื่องนี้ แต่ก็จะต้องมีคุณสมบัติเป็นที่ยอมรับจากสมาชิก และยังไม่ได้หารือถึงตัวบุคคลที่เหมาะสม ส่วนกรณีหากมีผู้เสนอชื่อตนเองขึ้นมาเป็นประธานวุฒิสภานั้น นายนิคมกล่าวว่า ถ้ามีผู้เสนอชื่อ ตนก็พร้อมที่จะรับตำแหน่ง และเพื่อความสบายใจ ตนก็จะลาออกจากตำแหน่งรองประธานก่อน แต่ถ้าไม่มีผู้เสนอตนก็จะยังอยู่ในตำแหน่งรองประธานเช่นเดิม

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ส.ว.สายสรรหาจะไม่เสนอชื่อ ใช่หรือไม่ นายนิคมกล่าวว่า คงกำหนดไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดเช่นกัน ซึ่งไม่มีวัฒนธรรมหรือประเพณีที่กำหนดเอาไว้ว่าจะต้องเป็น ส.ว.จากการเลือกตั้งเท่านั้นที่จะสามารถเป็นประธานได้

นายนิคมยังกล่าวต่อว่า ที่ประชุมวิปวุฒิสภาวันนี้ได้เลื่อนการพิจารณาเรื่องลงมติการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 ออกไปก่อน เพื่อรอดูท่าทีของผู้ที่เสนอญัตติ