ครม.กลบรอยด่าง กัดฟันตั้งศูนย์ต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน

ครม.ถกตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน “วิทยา-สุกำพล” หวั่นงานซ้ำซ้อน ผวา ม.157 ย้อนเล่นงานฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ด้าน “เป็ดเหลิม” ฟุ้งจะเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงต่อยอดจากนโยบายปราบปรามยาเสพติด ก่อนซาวเสียงดันตั้ง หวังชูเป็นผลงานสร้างชื่อเสียง กู้ภาพลักษณ์กลับคืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ (24 ก.ค.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีที่ประชุมมติให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในทุกกระทรวงว่า ในที่ประชุม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงว่าจะเป็นผลงานชิ้นโบแดงชิ้นหนึ่งให้กับรัฐบาล ซึ่งจะดังติดตามต่อเนื่องกับนโยบายด้านปราบปรามยาเสพติด รัฐบาลนี้จะเป็นรัฐบาลแรกที่ได้ริเริ่มศูนย์ปฏิบัติการฯ นี้อย่างเป็นรูปธรรม โดยจะจัดให้อยู่ในสังกัดปลัดกระทรวง ซึ่งเป็นผลมาจากการทำเวิร์กชอปร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมีแผนการปฏิบัติงานร่วมกันหลายระยะ ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงเจตจำนงว่ารัฐบาลพร้อมรับการตรวจสอบและสร้างบรรทัดฐานที่ดีให้กับรัฐบาลชุดต่อไปที่จะมาด้วย

นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจะสร้างหน่วยงานขึ้นภายในกระทรวงนั้นๆ ก่อน แต่จะแยกเป็นคนละเรื่องกับผู้ตรวจสอบ เพราะผู้ตรวจสอบโดยหลักการจะทำแค่การตรวจสอบการทุจริตเท่านั้น แต่ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันนี้จะเป็นเรื่องของหลักธรรมมาภิบาลส่งเสริมความโปร่งใสในการบริหารไม่ให้มีการทุจริตคอร์รัปชัน โดยปลัดกระทรวงจะต้องทำหน้าที่ไล่ดูว่าภายในหน่วยงานที่เกี่ยวกับการตรวจสอบ ต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันอะไรบ้าง แล้วนำมาบูรณาการร่วมกัน จากนั้นเมื่อเป็นรูปธรรมก็จะมีแต่งตั้งหัวหน้าศูนย์ใหญ่ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี

ด้าน นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้อภิปรายว่า เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว เพื่อแสดงความโปร่งใสของรัฐบาล และความเป็นมืออาชีพ แต่เกรงว่าจะนำมาซึ่งความยุ่งยากในการบริหาร เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นเอง เมื่อมีการมาร้องมายังนายกฯ หรือรัฐมนตรีก็สุ่มเสี่ยงเข้าข่ายมาตรา 157 ว่าเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เพราะเมื่อมีผู้มาร้องเป็นจำนวนมาก แล้วไม่มีการดำเนินการก็เข้าข่ายมาตรา 157 ได้

เช่นเดียวกับ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ระบุว่า เห็นด้วยกับนายวิทยา เพราะแต่ละกระทรวงมีหน่วยงานอยู่แล้ว เกรงว่าจะไปทำงานซ้ำซ้อนกัน

ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นคัดค้านนายวิทยา โดยยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดี และจะเป็นผลงานที่ส่งภาพลักษณ์ที่ดีต่อรัฐบาล ซึ่งสุดท้ายในที่ประชุมไม่ว่าจะเป็นนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิม และนายกรัฐมนตรี ต่างก็แสดงความเห็นด้วยที่จะให้มีการตั้งศูนย์ต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน โดยนายกฯ ระบุว่าเพราะนี้ถือเป็น 1 ใน 16 นโยบายเร่งด่วน และถือเป็นผลงานของรัฐบาล