นายกฯ เปิดประชุมยุทธศาสตร์ต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน ยันเป็นนโยบายเร่งด่วน ชู 4 แผนเชิงรุกปลูกจิตสำนึกให้รางวัลข้าราชการซื่อสัตย์-ส่งเสริมส่วนราชการทำข้อเสนอเปลี่ยนแปลงเพื่อความโปร่งใสในองค์กร-ตรวจสอบเฝ้าระวัง และปราบปรามจริงจัง พร้อมสั่งนำข้อเสนอชง กก.ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาใน 1 เดือน
วันนี้ (18 พ.ค.) ที่ห้องประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ยุทธศาสตร์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน” ภายใต้แนวคิด “ประเทศไทยก้าวไกลไร้ทุจริต” พร้อมกล่าวในที่ประชุมว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นนโยบายเร่งด่วนและสำคัญของรัฐบาล ซึ่งได้กำหนดเป็นโยบายของรัฐบาล โดยจะเน้นใน 4 แผนงานเชิงรุก คือ 1. การปลูกจิตสำนึกและสร้างการตระหนักเรียนรู้ โดยสร้างข้าราชการไทยไร้ทุจริต พร้อมมอบรางวัลให้แก่ข้าราชการที่มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีผลงานต่อต้านการคอร์รัปชัน
2. การพัฒนาองค์กร ส่งเสริมให้ส่วนราชการจัดทำข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงเพื่อความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการของตนเอง ปรับปรุงกระบวนการหลักที่มีความเสียงต่อการทุจริตคอร์รัปชันผ่านการเรียนรู้จากการปฏิบัติการจริง เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาจากความเต็มใจ และยอมรับร่วมกันจากเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงาน จนเป็นกลไกในการบูรณาการและขับเคลื่อนแผนป้องกัน 3. การตรวจสอบและเฝ้าระวังเชิงรุก โดยการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ในการรับแจ้งเบาะแส รับเรื่องร้องเรียน ป้องกันและปราบปราม และเชื่อมโยงการรายงานทั้งหมดไปที่ศูนย์บัญชาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งสามารถร้องเรียนผ่านสายด่วน 1206 โดยเฉพาะเรื่องการซื้อขายตำแหน่งเพราะถือเป็นบ่อเกิดการทุจริตคอร์รัปชัน และยืนยันว่าจะปกป้องผู้ร้องเรียนการทุจริตเข้ามาอย่างเต็มที่
และ 4. การปราบปรามอย่างจริงจังและการลงโทษที่เข้มงวด โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่องค์กรดีเด่นในการปราบปรามเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานราชการและจังหวัดตรวจสอบการทำงานภายในองค์กรของตัวเองว่ามีความเสี่ยงต่อการทุจริตคอร์รัปชันหรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า หลังจากนั้น 1 เดือนให้แต่ละหน่วยงานนำข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงส่งให้กับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาอนุมัติดำเนินการ พร้อมมอบเงินทุนสนับสนุนในข้อเสนอที่ผ่านการเห็นชอบแล้ว เพื่อให้ข้าราชการทุกภาคส่วนร่วมกันพัฒนาหน่วยงานของตนเอง ภายใต้แนวคิด “1 หน่วยงาน 1 ข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ (Clean Initiative)” อย่างไรก็ดี แนวคิดดังกล่าวทำให้จะได้นวัตกรรมความโปร่งใสให้แก่ 159 ส่วนราชการ 76 จังหวัด รวม 235 นวัตกรรม และจะเป็นเริ่มต้นจากภายในหน่วยงานราชการก่อนขยายให้สำเร็จ ก่อนขยายวงไปยังอค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนต่อไป