นายกฯ ไม่พูดจับ “ตู่” นั่งเก้าอี้ไหน อ้างยังไม่ถึงเวลา โบ้ยยุค “มาร์ค” รับผิดคอมพ์ มท.พัง

“ยิ่งลักษณ์” ยันปรับ ครม.ดูที่ความเหมาะสม ชม “ไอ้ตู่” ตั้งใจ แต่ไม่พูดจับนั่งเสนาบดีกระทรวงไหน บอกยังไม่ถึงเวลา อ้างคอมพ์ใหม่ถูก ป.ป.ช.สอบเลยต้องใช้เมนบอร์ดเก่ากึ้กทำทะเบียนราษฎร เผยสั่งลดจำนวนการใช้เน้นบริการชาวบ้านก่อน แย้มหน่วยราชการโละของเก่าเกิน 5 ปี โบ้ยยุค “มาร์ค” รับผิดชอบ

วันนี้ (18 พ.ค.) ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 1 ให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ พ้นสภาพการเป็น ส.ส.ว่า จะต้องกลับไปปรึกษาทางด้านข้อกฎหมายของพรรคเท่านั้น ผู้สื่อข่าวถามว่าจะส่งผลต่อการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่านายจตุพรจะเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทยใน ครม.ยิ่งลักษณ์ 3 นายกฯ กล่าวว่า อันนี้จะถามเรื่องคุณจตุพร หรือเรื่องการปรับ ครม. อย่างที่เรียนไปแล้วว่าทั้งหมดจะดูในเรื่องความเหมาะสม การที่ ครม.ทำงานคงต้องขึ้นแต่ละกระทรวงและจังหวะเวลา

เมื่อถามว่าจะมีการประเมินผลงาน ครม.อีกครั้งเมื่อไหร่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยังไงเราก็ได้ติดตามการทำงานตลอดอยู่แล้ว ก็จะให้เร่งรัดในการชี้แจง ถามต่อว่านายจตุพรมีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง รมต.ใน ครม.หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คงต้องไปดูในรายละเอียด แต่ก็ต้องถือว่าเป็นคนที่มีความตั้งใจ และต้องว่าความสามารถจะไปอยู่ในตำแหน่งไหน อันนี้เราคงจะไม่ขอพูดวันนี้ เพราะจะต้องทำงานก่อน ยังไม่ถึงเวลาที่มาพูดคุยกัน

เมื่อถามว่ามี รมต.หลายท่านออกมาระบุว่านายจตุพรมีความเหมาะสม น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า วันนี้เรามาเรื่องของต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีระบบคอมพิวเตอร์ฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มีปัญหาจากระบบที่ชำรุดทั่วประเทศว่า ปัญหาทะเบียนราษฎรเป็นการใช้ระบบคอมพิวเตอร์เดิมมา 8 ปี เนื่องจากมีปัญหาเรื่องของการตรวจรับที่เป็นเคสค้างอยู่ที่ทางคณะกรรมการป้องการและปรามปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเท่าที่สอบถาม ปรากฏว่าต้องรอความเห็นว่าจะให้หน่วยงานราชการดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา ขณะเดียวกัน ความเสียหายของภาครัฐในการใช้ระบบเดิมซึ่งมีความเสี่ยงมาก เบื้องต้นทางกระทรวงมหาดไทยได้ใช้ระบบสำรองเมนบอร์ด ที่เป็นตัวเก่า 8 ปี ซึ่งเรามองว่าน่าเป็นห่วง จึงต้องเร่งแก้ปัญหาในระยะสั้นก่อน แต่ในระยะยาวคงต้องฟังความเห็นในเชิงกฎหมายว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะเป็นคดีที่ร้องเรียนในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งไม่ตรงกับทีโออาร์

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า วันนี้ดึงระบบใช้งานเท่าที่จำเป็น เนื่องจากนำระบบเดิมมาใช้ก่อน แต่ในระยะยาวเราต้องเร่งแก้ปัญหา เพราะมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาซึ่งจะต้องชี้ขาดว่าเป็นอย่างไรขณะเดียวกันก็ต้องมีทางออก สำหรับหน่วยงานราชการที่ใช้คอมพิวเตอร์เกินอายุ คือ 5 ปีก็จะเปลี่ยนใหม่ ซึ่งปัญหานี้มีมาตั้งแต่ปี 53 และสอบถามได้ที่อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (นายวงษ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง) เพราะเรื่องเกิดขึ้นในสมัยนั้นที่ทำให้ไม่สามารถเดินต่อได้ และความเสียหายตกอยู่ที่หน่วยงานราชการต้องใช้ระบบเก่า แทนที่ใช้คอมพิวเตอร์มา 5 ปีแล้วเปลี่ยนก็กลายมาเป็นใช้คอมพิวเตอร์ 8 ปี จึงเป็นสาเหตุหลักคือ เมนบอร์ด มีอายุเก่าเกินใช้งานและพังไป และต้องใช้ตัวสำรองที่เล็กกว่า ซึ่งวันนี้ได้ลดจำนวนการใช้โดยใช้เฉพาะที่จำเป็นในการบริการประชาชนก่อน แต่ก็ปล่อยปัญหานี้ไม่ได้โดยจะต้องเร่งแก้ไขหา นำตัวระบบคอมพิวเตอร์สำรองมาใช้ก่อน และต้องเร่งการหารือกับทางอัยการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเด็นดังกล่าว

ถามต่อว่า ใครเป็นผู้รับผิดชอบกรณีดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อปี 53 ก็คงต้องดูว่าเป็นสมัยใคร

เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการทุจริตคอรัปชั่นใช่หรือไม่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ได้หารือกับนายกฯ และได้หาทางออกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งวันนี้จะสามารถให้บริการประชาชนได้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับทะเบียนราษฎร เช่น การทำบัตรประชาชน

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ปรากฏว่านายกรัฐมนตรี ได้เดินลงมาจากศูนย์ประชุมฯ มาพร้อมกับนางศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และได้เดินตรงมายังกลุ่มนักเรียนและผู้ปกครองที่ยังคงรอพบ โดยนายกฯ กล่าวกับกลุ่มนักเรียนและผู้ปกครอง ว่า ได้นำปลัดกระทรวงศึกษามารับเรื่องและช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาและหาสถานที่เรียนให้ ยังไงก็ขอให้กำลังใจและขอให้สู้ๆและขอให้ตั้งใจเรียน จนทำให้กลุ่มผู้ปกครองและนักเรียนพากันยกมือไหว้ขอบคุณ และบางคนถึงกับโผเข้ากอดนายกรัฐมมนตรีด้วยความดีใจ