โฆษกเพื่อไทยยันพรรคยังไม่คิดแก้ ม.165 เชื่อทำแล้วไม่เกิดประโยชน์ ขอรอคำวินิจฉัยก่อน ฉะ “อภิสิทธิ์” จินตนาการไปเอง ยันล้ม ม.309 เพื่อประชาธิปไตย ไม่ได้ช่วย “นช.แม้ว” จวกเวที ปชป.ที่นครฯ บิดเบือนความจริง สร้างการแบ่งแยก
วันนี้ (22 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่าพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 165 ว่าด้วยเรื่องการออกเสียงประชามติ ว่า พรรคเพื่อไทยขอปฏิเสธเรื่องดังกล่าวและยังไม่มีการหารือดำเนินการเรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งตนยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่มีการแก้มาตรา 165 เนื่องจากต้องรับฟังเสียงจากประชาชน และมองว่าหากแก้มาตราดังกล่าวก็จะไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ดังนั้นเรื่องการออกเสียงประชามติยังอยู่ระหว่างการหารือที่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน โดยทางพรรคจะรอผลคำวินิจฉัยกลางจากศาลรัฐธรรมนูญก่อน ซึ่งหลังจากผลคำวินิจฉัยออกมาแล้วทางพรรคจะมีการเรียกประชุมฝ่ายกฎหมาย ทีมยุทธศาสตร์พรรค เพื่อกำหนดท่าทีต่อไปว่าจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไรทันที
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ออกมาระบุว่ารัฐบาลพยายามที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 309 เพื่อล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า เป็นการจินตนาการไปเองของนายอภิสิทธิ์ เพื่อที่จะหวังล้มรัฐบาลด้วยการขัดขวางการแก้ไขมาตรา 309 จึงอยากให้ประชาชนเห็นธาตุแท้ของนายอภิสิทธิ์ที่ไปรับรองรัฐธรรมนูญที่เกิดจากการกระทำของคณะรัฐประหาร ทั้งนี้ ระบุด้วยว่าหากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 309 ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่มองว่าหากมีการแก้ไขมาตราดังกล่าวจะทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยประเทศเป็นหลักนิติรัฐ ที่ไร้ร่างเงาของคณะรัฐประหาร
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งเวทีปราศรัยเดินหน้าผ่าความจริงที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) ว่า การดำเนินการของพรรคประชาธิปัตย์บนเวทีปราศรัยมีการแสดงข้อมูลที่พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง มีเนื้อหาโจมตีรัฐบาลอย่างไม่สร้างสรรค์ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และอาจเป็นการสร้างการแบ่งแยกมากขึ้น แต่ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ควรที่จะทำหน้าที่ค้านอย่างสร้างสรรค์โดยการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และด้วยเหตุดังกล่าวจึงขอเรียกร้องไปยังนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้มาดูแลการดำเนินการของพรรคประชาธิปัตย์ให้ค้านอย่างสร้างสรรค์ รวมถึงเสนอข้อติติงนโยบายอย่างมีเหตุผลมากกว่านี้