แหล่งข่าวจาก กกต.เชื่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ไม่ขัด รธน.ม.165 ชี้ผ่านกระบวนการตรวจทานจากศาล รธน.แล้ว ชี้ “เทพไท” มองว่า ขัดเป็นเรื่องของการเมือง
วันนี้ (20 ก.ค.) แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยมีแนวคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 165 วรรคสอง เนื่องจากมองว่าเป็นอุปสรรคต่อการทำประชามติ และอาจถูกนำไปเป็นประเด็นตีความว่าขัดกับ มาตรา 9 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ว่า กรณีดังกล่าวจะมองว่าขัด หรือไม่ขัดก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตีความข้อกฎหมาย แต่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ได้ผ่านการตรวจทานจากศาลรัฐธรรมนูญมาแล้วก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยแล้วว่า พ.ร.ป.ดังกล่าวไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามมาตรา 9 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ นั้นเป็นบทบัญญัติที่เขียนเพื่อขยายความมาตรา 165 ซึ่งในเรื่องของวิธีการดำเนินการ
“ที่ นายเทพไท พูดก็เป็นการมองของนักการเมือง ที่หากจะมองว่าล่อแหลมก็ล่อแหลมสุ่มเสี่ยงต่อการตีความ แต่ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 141 ระบุว่า เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญแล้วก่อนนำขึ้นทูลเกล้าเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องกระทำให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่อง และในวรรคสอง ระบุว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญใดมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ให้ข้อความที่ขัดหรือแย้งนั้นตกไป แต่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการออกเสียงฯ ศาลรัฐธรรมนูญก็ผ่านให้ออกมามีผลบังคับใช้อยู่จนขณะนี้ จึงไม่คิดว่าจะเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ” แหล่งข่าว กล่าว
วันนี้ (20 ก.ค.) แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยมีแนวคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 165 วรรคสอง เนื่องจากมองว่าเป็นอุปสรรคต่อการทำประชามติ และอาจถูกนำไปเป็นประเด็นตีความว่าขัดกับ มาตรา 9 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ว่า กรณีดังกล่าวจะมองว่าขัด หรือไม่ขัดก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตีความข้อกฎหมาย แต่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ได้ผ่านการตรวจทานจากศาลรัฐธรรมนูญมาแล้วก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยแล้วว่า พ.ร.ป.ดังกล่าวไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามมาตรา 9 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ นั้นเป็นบทบัญญัติที่เขียนเพื่อขยายความมาตรา 165 ซึ่งในเรื่องของวิธีการดำเนินการ
“ที่ นายเทพไท พูดก็เป็นการมองของนักการเมือง ที่หากจะมองว่าล่อแหลมก็ล่อแหลมสุ่มเสี่ยงต่อการตีความ แต่ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 141 ระบุว่า เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญแล้วก่อนนำขึ้นทูลเกล้าเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องกระทำให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่อง และในวรรคสอง ระบุว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญใดมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ให้ข้อความที่ขัดหรือแย้งนั้นตกไป แต่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการออกเสียงฯ ศาลรัฐธรรมนูญก็ผ่านให้ออกมามีผลบังคับใช้อยู่จนขณะนี้ จึงไม่คิดว่าจะเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ” แหล่งข่าว กล่าว