“อุดมเดช” ยันคำเดิม รอคำวินิจฉัยกลาง ก่อนกำหนดแนวทางแก้ รธน. พร้อมถก พ.ร.บ.ปรองดอง และประชามติทำก่อนหรือหลัง เปรียบลุยวาระ 3 กับรัฐฯ 50 อ้างร่างก่อนค่อยประชามติ เชื่อไม่ผิด แนะควรมี ส.ส.ร. หากใช้รัฐฯ 17 เป็นแบบร่าง
วันนี้ (20 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีเวลาที่จะพิจารณาการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยต้องรอคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนตัวจากศาลรัฐธรรมนูญก่อนเพื่อนำมาประกอบการพิจารณา ที่จะมีการนัดประชุมแกนพรรค พรรคร่วม รวมถึงวิปรัฐบาลในสัปดาห์หน้า ซึ่งประเด็นยังอยู่ที่การทำประชามติ เท่าที่มีการพูดคุยส่วนใหญ่ก็ดำเนินตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องมีการหารือกันก่อนว่าหากจะทำประชามติ ต้องทำก่อน ทำหลัง จะแตกต่างกันอย่างไร
ส่วนกรณีที่ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) เสนอให้มีร่างเปรียบเทียบ โดยนำ รัฐธรรมนูญ ปี 2517 ที่ได้ชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด มาเป็นตัวเลือก นายอุดมเดชกล่าวว่า หากจะมีร่างรัฐธรรมนูญมาเป็นข้อเปรียบเทียบรัฐธรรมนูญปี 2550 ควรให้มี ส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แล้วค่อยทำประชามติ จะเป็นประโยชน์ ประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณ ทั้งที่รัฐธรรมนูญปี 2550 ก็มีการร่างก่อนแล้วค่อยทำประชามติทีหลังอยู่แล้วซึ่งการจะเดินหน้าลงมติวาระ 3 หรือการทำประชามตินั้น ไม่ได้เป็นการกระทำที่ขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในส่วนของเรื่องร่างพระราชบัญญัติปรองดองก็จะมีการนำเข้าหารือกับที่ประชุมพรรคเช่นกัน และจะต้องมีการพูดคุยทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ อยู่ที่เวลา ความเหมาะสม