ภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบรับแนวคิดการตั้งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ของ ศ.อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระ ว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) โดยเห็นว่า คณะกรรมการถือเป็นผู้เชี่ยวชาญในการร่างโครงสร้างรัฐธรรมนูญ
ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล วันนี้ นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่า จะนำความคิดเห็นของ คอ.นธ. มาหารือร่วมกัน แต่ทั้งนี้วิปรัฐบาลยังไม่มีมติออกมา
ขณะที่ ศ.อุกฤษ ระบุจะรอฟังความคิดเห็นของวิปรัฐบาลต่อแนวทางที่เสนอไป และพร้อมนำเสนอแนวทางให้รัฐบาล ในวันพรุ่งนี้
ส่วนกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ถอนข้อเสนอการตั้งกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่เป็นประชาธิปไตยนั้น ศ.อุกฤษ ยืนยันว่าจะไม่ถอนข้อเสนอดังกล่าว เพราะเป็นข้อเสนอที่มาจากการประชุมของกรรมการ เมื่อเปรียบเทียบรูปแบบการตั้ง ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญ จะเป็นเผด็จการมากกว่าการที่มาจากกรรมการยกร่าง เพราะเมื่อ ส.ส.ร.ยกร่างแล้วเข้าสู่สภา สภาจะไม่สามารถแก้ไขได้เลย แต่ที่ คอ.นธ.เสนอ สภาจะสามารถแก้ไขได้ และยังต้องทำประชามติเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมด้วย
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เห็นว่า แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งการตั้ง ส.ส.ร. และมีกรรมการยกร่าง ยังไม่ใช่คำตอบในการสร้างความปรองดอง เพราะเป้าหมายยังเป็นไปเพื่อประโยชน์ของนักการเมือง โดยเห็นว่า คอ.นธ.ควรทบทวนและตั้งโจทย์ใหม่ ให้ภาคประชาชน ภาคเอกชน ตัวแทนกลุ่มวิชาชีพ มีส่วนร่วมในการออกแบบรัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ประชาชนทุกกลุ่ม
ด้านนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา สนับสนุนแนวคิดการตั้งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก กรรมการที่ คอ.นธ.เสนอชื่อ เป็นคนที่มีบทบาทในสังคม และเชื่อว่าอาจเป็นแนวทางที่สังคมยอมรับมากกว่าที่นักการเมืองจะดำเนินการเอง
ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล วันนี้ นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่า จะนำความคิดเห็นของ คอ.นธ. มาหารือร่วมกัน แต่ทั้งนี้วิปรัฐบาลยังไม่มีมติออกมา
ขณะที่ ศ.อุกฤษ ระบุจะรอฟังความคิดเห็นของวิปรัฐบาลต่อแนวทางที่เสนอไป และพร้อมนำเสนอแนวทางให้รัฐบาล ในวันพรุ่งนี้
ส่วนกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ถอนข้อเสนอการตั้งกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่เป็นประชาธิปไตยนั้น ศ.อุกฤษ ยืนยันว่าจะไม่ถอนข้อเสนอดังกล่าว เพราะเป็นข้อเสนอที่มาจากการประชุมของกรรมการ เมื่อเปรียบเทียบรูปแบบการตั้ง ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญ จะเป็นเผด็จการมากกว่าการที่มาจากกรรมการยกร่าง เพราะเมื่อ ส.ส.ร.ยกร่างแล้วเข้าสู่สภา สภาจะไม่สามารถแก้ไขได้เลย แต่ที่ คอ.นธ.เสนอ สภาจะสามารถแก้ไขได้ และยังต้องทำประชามติเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมด้วย
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เห็นว่า แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งการตั้ง ส.ส.ร. และมีกรรมการยกร่าง ยังไม่ใช่คำตอบในการสร้างความปรองดอง เพราะเป้าหมายยังเป็นไปเพื่อประโยชน์ของนักการเมือง โดยเห็นว่า คอ.นธ.ควรทบทวนและตั้งโจทย์ใหม่ ให้ภาคประชาชน ภาคเอกชน ตัวแทนกลุ่มวิชาชีพ มีส่วนร่วมในการออกแบบรัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ประชาชนทุกกลุ่ม
ด้านนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา สนับสนุนแนวคิดการตั้งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก กรรมการที่ คอ.นธ.เสนอชื่อ เป็นคนที่มีบทบาทในสังคม และเชื่อว่าอาจเป็นแนวทางที่สังคมยอมรับมากกว่าที่นักการเมืองจะดำเนินการเอง