นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอนธ. วิเคราะห์การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่จะออกมาในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ว่า อาจเป็นไปได้ทั้ง 3 แนวทาง ซึ่งแนวทางแรก คือศาลอาจยกคำร้อง เพราะไม่เข้าตามมาตรา 68 หรือถ้าเข้าก็ต้องดำเนินการผ่านอัยการ ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญก่อน ส่วนแนวทางที่ 2 คือ ไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งฉบับ แต่ให้แก้ไขได้เป็นรายมาตรา ซึ่งทางออกแนวทางนี้เป็นทางสายกลาง และถ้ามองเป็นข้อดี การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่ต้องมีกระบวนการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. และยังประหยัดงบประมาณได้ถึง 2,000 ล้านบาท
ส่วนอีกแนวทางหนึ่ง อาจวิเคราะห์ออกมาว่า ขัดต่อมาตรา 68 ไม่สามารถแก้ไขได้ และตัดสินยุบพรรคการเมือง
ทั้งนี้ หากศาลพิจารณาออกมาอย่างไร ก็มองว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อีกทั้งบ้านเมืองก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่ และขอให้เชื่อว่าไม่น่าจะมีความรุนแรงและนองเลือดเกิดขึ้น และเชื่อว่าผู้ที่เป็นศาลรัฐธรรมนูญเป็นคนที่รักชาติ ซึ่งจะต้องตัดสินโดยยึดหลักความยุติธรรม หลักนิติศาสตร์ ปราศจากอคติ บนพื้นฐานให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่ใช่การตัดสินบนพื้นฐานความกังวลว่าเมื่อตัดสินออกมาแล้วจะส่งผลกระทบกับใคร อย่างไร
ส่วนอีกแนวทางหนึ่ง อาจวิเคราะห์ออกมาว่า ขัดต่อมาตรา 68 ไม่สามารถแก้ไขได้ และตัดสินยุบพรรคการเมือง
ทั้งนี้ หากศาลพิจารณาออกมาอย่างไร ก็มองว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อีกทั้งบ้านเมืองก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่ และขอให้เชื่อว่าไม่น่าจะมีความรุนแรงและนองเลือดเกิดขึ้น และเชื่อว่าผู้ที่เป็นศาลรัฐธรรมนูญเป็นคนที่รักชาติ ซึ่งจะต้องตัดสินโดยยึดหลักความยุติธรรม หลักนิติศาสตร์ ปราศจากอคติ บนพื้นฐานให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่ใช่การตัดสินบนพื้นฐานความกังวลว่าเมื่อตัดสินออกมาแล้วจะส่งผลกระทบกับใคร อย่างไร