xs
xsm
sm
md
lg

“ธาริต” แจง กมธ.งบฯ รับ DSI เครื่องมือรัฐ ปชป.ก็เคยใช้ อ้างเป็นกลางแค่ช่วงเลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (แฟ้มภาพ)
กมธ.วิฯ งบฯ ปี 56 พิจารณางบกรมสอบสวนคดีพิเศษ “ธาริต” รับเป็นเครื่องมือของรัฐ ถ้าไม่ทำจะมีโทษตามกฎหมาย อ้างให้เป็นกลางเฉพาะตอนเลือกตั้ง ฉะ ปชป.ก็ใช้เหมือนกัน ยันทำงานมืออาชีพ โบ้ยทหารไม่ยอมมาเป็นพยานทำต้องงดสอบผังล้มเจ้า เผยเคยชง 2 รัฐบาลให้ ม.112 เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่เอากันเอง เผยมีผู้ใหญ่เรียกให้ระวังถ้าหลักฐานไม่ชัดไม่ควรฟัน หวั่นระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ยันคดี “ร่มเกล้า” หาหลักฐานยาก

วันนี้ (19 ก.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ที่มี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการฯ ทำหน้าที่เป็นประธาน ซึ่งเป็นการพิจารณางบประมาณในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยมีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เข้าชี้แจง ทั้งนี้ นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมาธิการฯ จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ซักถามพร้อมติติงถึงบทบาทการทำงานของดีเอสไอ โดยระบุว่าสังคมตั้งประเด็นว่า ไม่เป็นกลาง การดำเนินคดีการชุมนุมคนเสื้อแดง ผังล้มเจ้า ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งนายธาริตชี้แจงว่า ยอมรับว่าดีเอสไอเป็นเครื่องมือรัฐบาล เพราะกรมสอบสวนคดีพิเศษต้องทำงานภายใต้การดูแลของรัฐบาล และที่สำคัญในกฎหมายที่ทางฝ่ายนิติบัญญัติเขียนระบุชัดเจนว่าข้าราชการพลเรือนต้องปฏิบัติตามคำสั่งและนโยบายของรัฐบาล หากไม่ทำงานตามนโยบายรัฐบาลจะต้องได้รับโทษ นอกจากนั้นแล้วในส่วนของความเป็นกลาง ตามกฎหมายระบุชัดเจนว่าต้องวางตนเป็นกลางเฉพาะการเลือกตั้งเท่านั้น

“สิ่งที่หลายคนได้สอบถามว่า ฐานะเป็นอธิบดีดีเอสไอ รู้สึกอย่างไรต่อประเด็นว่าขาดมาตรฐาน ไม่เป็นกลาง ผมไม่สบายใจ เพราะข้อกล่าวหานั้นเกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองที่มีการแบ่งขั้วเป็น 2 ฝ่าย ช่วงที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ดีเอสไอก็เป็นเครื่องมือเช่นกัน ให้ตั้งข้อหาก่อการร้าย และดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างไรก็ตาม การทำงานของดีเอสไอต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกล่าวหาที่ว่าดีเอสไอขาดมาตรฐาน เป็นภาพใหญ่ของประเทศที่เราไปแก้ไม่ได้ ที่ทำได้ แค่ยืนยันการทำงานตามหน้าที่ อย่างมืออาชีพเท่าที่จะทำได้” นายธาริตชี้แจง

นายธาริตกล่าวต่อว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน คณะกรรมาธิการพิทักษ์สถาบัน วุฒิสภา ได้เชิญตนไปชี้แจง ถามเกี่ยวกับผังล้มเจ้า ที่สั่งงดการสอบสวน ซึ่งเหตุที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษเพราะเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นผังจริง เพราะฝ่ายมั่นคงของทหารทำ แต่เมื่อดีเอสไอรับมาสอบสวน ฝ่ายทหารกลับไม่ยอมมาเป็นพยานและไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดโดยอ้างว่าเป็นความลับ ซึ่งดีเอสไอไม่ได้รับความร่วมมือ ในที่สุดจึงสั่งงดการสอบสวนชั่วคราว ส่วนการดำเนินคดีข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทางดีเอสไอเคยเสนอไปยังรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐบาลเพื่อไทย ให้คดีหมิ่น ตามมาตรา 112 เป็นคดีพิเศษโดยอัตโนมัติ แต่ทั้ง 2 รัฐบาลไม่เห็นด้วย ดังนั้นจึงถือว่าคดีหมิ่นนั้นถือเป็นความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นายธาริตยังกล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินคดีกับบุคคลที่มีความผิดตามมาตรา 112 นั้น มีผู้ใหญ่ได้เรียกพบและแสดงความห่วงใยว่าการดำเนินคดีเกี่ยวกับคดีหมิ่น หากพยานหลักฐานไม่ชัดเจนก็อย่าดำเนินคดี เพราะจะกระทบถึงพระองค์ท่าน และขอให้ดีเอสไอใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบ การดำเนินคดีไม่เป็นประโยชน์หรือผลร้ายต่อพระองค์ท่าน ก็ไม่ควรจะกระทำ และอัยการ ก็ได้เรียกตนไปถ่ายทอดในถ้อยคำดังกล่าวด้วยด้วย ซึ่งตนก็เห็นด้วยกับคำพูดดังกล่าว จะต้องหลักฐานที่ชัดเจน และการทำงานของพนักงานสอบสวนเรื่องนี้ ต้องคำนึงถึงหลายส่วน และดำเนินการตามพยานหลักฐานเท่านั้น

จากนั้น นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้สอบถามถึงการดำเนินคดีการเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม เนื่องจากที่ผ่านมานายธาริต ได้ยืนยันว่าคนเสื้อแดงเป็นผู้กระทำ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินคดีกับใครได้ ดังนั้นหากเป็นเช่นนี้ ตนเสนอให้ยุบดีเอสไอ ซึ่งนายธาริต ชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่ พล.อ.ร่มเกล้า เสียชีวิตเป็นช่วงจลาจล แม้ในต่างประเทศยังยอมรับว่าจะหาพยาน หลักฐาน หรือนำบุคคลที่กระทำมาดำเนินคดีเป็นไปด้วยความลำบาก อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนหากแล้วเสร็จ ทางดีเอสไอจะรับกลับมาดำเนินคดีอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น