รมว.กลาโหม-ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พรุ่งนี้ ปรับกำลังดูแลเขาพระวิหารโชว์ศาลโลก ด้าน เขมร ส่ง “เตีย บัญ” ทำพิธีปรับกำลัง พร้อมฉลอง 4 ปีพระวิหาร ขณะที่กลาโหม แจงปมพิพาทเขาพระวิหาร ระบุมหาอำนาจหนุนเขมรเยอะ ฝรั่งเศสให้ข้อมูลสู้ศาลโลก จีน สหรัฐฯ แอบช่วยระหว่างปะทะกับไทย คาดศาลโลกตัดสินช่วง ก.ย.-ต.ค.56
พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการบรรยายถึงความเป็นมา และความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กรณีข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร เพื่อชี้แจงให้แก่ข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และสื่อมวลชนได้รับทราบข้อมูลข้อเท็จจริง ภายหลังจากที่ไทย และกัมพูชาตกลงที่จะมีการปรับกำลังทหารพร้อมกันในวันที่ 18 ก.ค.นี้ ตามมาตรการชั่วคราวของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก)
พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ช่วง 50 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์บริเวณชายแดนมีปัญหาขึ้นๆ ลงๆ ตลอด ส่วนการปรับกำลังทหารเป็นการแสดงให้เห็นว่า ไทยปฏิบัติตามมาตรการของศาลโลก ซึ่งในวันที่ 18 ก.ค.55 เวลา 09.00 น. พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมของกัมพูชา จะเดินทางไปทำพิธีปรับกำลังทหาร โดยกัมพูชาระบุว่า จะมีการปรับกำลังทหารออก 485 นาย และจะนำกำลังตำรวจมาแทน 250 นาย และชุดรักษาความปลอดภัยปราสาทพระวิหารอีก 100 นาย
พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวว่า กรณีที่กัมพูชาได้ยื่นคำร้องต่อศาลโลก เพื่อขอให้ศาลตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร พ.ศ.2505 นั้น ทางไทยและกัมพูชาได้ส่งรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรไปแล้ว โดยกัมพูชาส่งไปเมื่อวันที่ 8 มี.ค.55 ฝ่ายไทยส่งวันที่ 21 มิ.ย.55 จากนั้น ฝ่ายไทยได้มีการขอให้การไต่สวนแบบ Oral hearing คือ การนั่งฟังการไต่สวน ซึ่งศาลโลกเปิดให้ดำเนินการไต่สวนในช่วงเดือน เม.ย.2556 และคาดว่า จะตัดสินในเดือน ก.ย.-ต.ค.2556 โดยในระหว่างนั้น ทั้ง 2 ประเทศสามารถส่งเอกสารได้เรื่อยๆ ซึ่งไทยอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อแสดงให้ศาลโลกเห็นว่า ฝ่ายไทยได้ดำเนินการอะไรไปบ้าง สิ่งที่เราดำเนินการขณะนี้ จะทำรายงานเป็นเอกสารไปยังศาลโลก เพื่อแสดงให้เห็นว่า เราปฏิบัติตามมาตรการคุ้มครองชั่วคราว
“ขณะนี้ กัมพูชาได้รับการสนับสนุนจากหลายประเทศมหาอำนาจ โดยเฉพาะฝรั่งเศสที่ช่วยเหลือเรื่องข้อมูล อีกทั้งสหรัฐอเมริกา และจีนที่สนับสนุนทางทหารในช่วงที่มีการปะทะกับไทยในช่วง ก.พ.-พ.ค.54 เพราะฉะนั้น ไทยไม่ได้สู้กัมพูชาเพียงประเทศเดียว แต่มีประเทศใหญ่ๆ ที่เป็นพี่เลี้ยงให้การสนับสนุน ที่ผ่านมา กองทัพพยายามดูแลอธิปไตยในพื้นที่มาตลอด และร่วมมือกับกระทรวงต่างประเทศในการแก้ไขปัญหา มีการส่งตัวแทนทางทหารไปช่วยในการให้ข้อมูลแก่ทีมที่ไปต่อสู้กับศาลโลกตลอด ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ เป็นที่น่าพอใจ เพราะไม่มีการสู้รบ และทางผู้ใหญ่ รัฐบาล พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพ ก็มีความสบายใจ แต่ในวันที่ศาลโลกจะมีคำตัดสินในช่วงปลายปีหน้า จะเป็นวันที่กำหนดทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้จนกระทั่งถึงวันนั้น เป็นวันที่เราจะต้องแสดงให้เห็นว่าปฏิบัติตามคำสั่งชั่วคราวของศาลโลก แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับ คือ เมื่อมีการแยกกำลังทหาร และไม่มีการสู้รบจะทำให้การค้าขายชายแดนราบรื่น” พล.อ.นิพัทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.) เวลา 11.00 น. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ผอ.สำนักนโยบายและแผน พร้อมด้วยคณะนายทหารระดับสูง จะเดินทางไปยังหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุป และทำพิธีวางกำลังตำรวจตระเวนชายแดนบริเวณพื้นที่เขาพระวิหาร ทดแทนกำลังของทหารตามคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลก หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพล.อ.อ.สุกำพล ได้พูดคุยหารือกับสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ พล.อ.เตีย บัญ โดยตกลงที่จะมีการปรับกำลังทหารบริเวณเขาพระวิหารพร้อมกันในวันที่ 18 ก.ค.นี้
ส่วนทางด้านกัมพูชา ในวันเดียวกัน ทาง พล.อ.เตีย บัญ จะเป็นประธานในพิธีปรับกำลังทหารจำนวน 485 นาย ออกจากเขตบริเวณรอบปราสาทเขาพระวิหาร โดยทางกัมพูชาจะมีพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 4 ปีขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกด้วย