“ปลอดประสพ” อ้างนาซาสรุปต้นเหตุน้ำท่วมใหญ่เกิดจาก ปชป.กักน้ำในเขื่อนมากเกินไป เชื่อเป็นสาเหตุที่ทำให้ ปชป.ขวางนาซาเข้ามาทำงานในไทย เตรียมเปิดห้องให้สื่อ ฝ่ายค้านซักทีโออาร์บริหารจัดการน้ำมูลค่า 3.5 แสนล้านบาท 24 ส.ค.นี้
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ ในฐานะประธานคณะกรรมการการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุมได้อนุมัติงบประมาณ 21 ล้านบาท สำหรับจัดซื้อต้นกล้าเพิ่มเติมเพื่อใช้ปลูกป่าต้นน้ำใน 10 จังหวัดตั้งแต่ จ.เชียงใหม่ ถึง จ.อุตรดิตถ์ โดยเป็นการใช้เงินจากงบประมาณเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยที่เหลืออยู่ ทั้งนี้เป็นการเสริมในส่วนที่ขาดอยู่ของโครงการที่กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดำเนินการ เบื้องต้นจะเริ่มดำเนินการปลูกให้ได้ 8 ล้านกล้าในวันที่ 8 ส.ค.นี้ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานเปิดงานที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และจะให้ได้ครบ 20 ล้านกล้าภายในเดือน ส.ค.นี้ ทั้งนี้ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้ล่าช้าตามที่เป็นข่าว เพียงแต่มีความไม่ชัดเจนในบางขั้นตอนเท่านั้น แต่ถึงตอนนี้มีแผนงานที่ชัดเจนทั้งหมดแล้ว
นายปลอดประสพกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการฟ้องร้องนายปลอดประสพ ฐานใส่ร้ายรัฐบาลชุดที่แล้วเป็นต้นเหตุให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 เพราะบริหารจัดการน้ำผิดพลาดว่า อยากให้ผู้ที่ต้องการฟ้องร้องรีบดำเนินการ เพื่อที่จะได้นำข้อเท็จจริงมาชี้แจง เพราะล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซา ก็ได้ออกมายืนยันผลการศึกษาว่าสาเหตุที่น้ำท่วมประเทศไทยเมื่อปีก่อน เป็นเพราะรัฐบาลชุดที่แล้วบริหารจัดการน้ำในเขื่อนใหญ่ผิดพลาด ซึ่งตรงตามข้อมูลที่ตนได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้ว่ารัฐบาลก่อนมีความตั้งใจบางอย่างจึงไม่ปล่อยน้ำในเขื่อนใหญ่
“เรื่องนี้ก็ถึงบางอ้อว่าทำไมพรรคประชาธิปัตย์จึงขัดขวางไม่ให้นาซาเข้ามาทำงานในไทย เพราะโกรธที่เขาที่มาหาว่าตัวเองไม่ปล่อยน้ำ เพราะฉะนั้นใครจะฟ้องผมให้รีบๆ ทำเลย อยากเป็นจำเลยจะได้ชี้แจง และขอให้ฟ้องนักวิทยาศาสตร์ของนาซาด้วย ไม่ใช่มาขู่ๆ ว่าจะฟ้องเรื่อยไป”
ส่วนความคืบหน้าการขอรับเอกสารการจัดซื้อจัดจ้าง (ทีโออาร์) ของกับบริษัทบริหารจัดการน้ำทั้งในประเทศ และต่างประเทศ วงเงิน 3.5 แสนล้านบาทนั้น นายปลอดประสพเปิดเผยว่า ในวันที่ 24 ส.ค.นี้ ที่ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ตนจะชี้แจงเรื่องเกี่ยวกับทีโออาร์ดังกล่าวทั้งหมด จึงขอเชิญทางพรรคฝ่ายค้าน และสื่อมวลชนมาร่วมซักถามได้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมรับฟังราว 600-700 คน โดยในวันนั้นจะเปิดโอกาสให้ซักถามเต็มที่