นายกฯ นั่งประธานประชุมติดตามบริหารจัดการสุวรรณภูมิ ดูความคืบหน้าแก้ปัญหารุมล้อม พร้อมสั่งบูรณาการแก้ จัดแผนรองรับนักเที่ยวล้น-ซ่อมสนามบิน ใช้ดอนเมืองรองรับ ยันเร่งเฟส 2 ให้เสร็จใน 70 วัน - ขอฟังกฤษฎีกาตีความคำวินิจฉัยก่อนค่อยถก ครม.พรุ่งนี้ - ยิ้มเจอถาม ผบ.ตร.ใหม่ ไม่ตอบใช่ “อดุลย์” หรือไม่
วันที่ 16 ก.ค.ที่สำนักงานการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.ลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามการบริหารจัดการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ประธานกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ว่าที่ ร.อ.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. นายสมชัย สวัสดีผล ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ ซึ่งการประชุมวันนี้ นายกฯ ได้ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นของสนามบินสุวรรณภูมิโดยเฉพาะปัญหาความแออัดภายในอาคารผู้โดยสารที่เต็มไปด้วยร้านค้า ปิดบังทางหนีไฟกระทบต่อมาตรฐานความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ การเข้าคิวตรวจหนังสือเดินทางเป็นชั่วโมง เรดาร์หอบังคับการบินเกิดจอดับกะทันหัน โดยเฉพาะรันเวย์ชำรุดทำให้หลายเที่ยวบินไม่สามารถลงจอดได้ โดยใช้เวลาหารือกว่าชั่วโมงครึ่ง
จากนั้นเวลา 10.45 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มอบให้คณะกรรมการและทีมงานที่เกี่ยวข้องไปบูรณาการแก้ปัญหาสนามบินสุวรรณภูมิที่มีปัญหาแออัด โดยเฉพาะการรองรับผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ วันนี้เราเจอปัญหาว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก เกินขีดความสามารถในการรองรับของสุวรรณภูมิ จากเดิมเตรียมรองรับไว้ 52 ล้านคนต่อปี แต่วันนี้มีถึง 54 ล้านคนต่อปี จึงต้องไปดูในเรื่องของลูฟ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว รวมทั้งในช่วงดึกมีช่องว่างรองรับผู้โดยสารได้ก็มอบให้คณะทำงานไปหารือและวางแผนรองรับว่าจะทำอย่างไรให้มีทางเลือกสำหรับประชาชนเพื่อจะได้แจ้งล่วงหน้าให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในการต่อเชื่อมจะได้แก้ปัญหา ไม่เกิดอุปสรรคต่อผู้โดยสาร
นายกฯ กล่าวว่า ในระยะสั้นได้เร่งรัดซ่อมแซมปรับปรุงสนามบินสุวรรณภูมิ และดูในส่วนของสนามบินดอนเมืองเพื่อรองรับและแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกันต้องแก้ปัญหาระยะยาวอย่างบูรณาการ ประสานกับกระทรวงการท่องเที่ยว เพื่อดูจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะต้องประมาณการในระยะยาวว่าจะมีจำนวนเท่าไร โดยเฉพาะผู้โดยสารต่างชาติจะได้บริหารจัดการและต่อขยายในเรื่องการบิน ซึ่งจุดนี้ต้องดูที่สนามบินภูเก็ตด้วยที่จะต้องเพิ่มขีดความสามารถรองรับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะเดินหน้าในส่วนของเฟส 2 และรันเวย์ที่ 3 หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เฟส 2 อยู่ระหว่างการดำเนินการโดยเร่งรัดให้เสร็จภายใน 70 เดือน โดยตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามการดำเนินการจะได้ไม่มีปัญหา ส่วนรันเวย์ที่ 3 มีความจำเป็นต้องดำเนินการ ขณะนี้ติดปัญหาเรื่องอีไอเอ ได้เร่งรัดดำเนินการ
นายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีรัฐบาลหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาในส่วนของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ว่า รัฐบาลจะขอฟังข้อมูลจากการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน จากนั้นจะนำมาหารือในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะหารือกันในที่ประชุม ครม.วันที่ 17 ก.ค.นี้ แต่ส่วนตัวคิดว่าเร็วเกินไปที่จะแสดงความคิดเห็นหรือสรุปในตอนนี้ ต้องรอฟังข้อคิดเห็นของแต่ละภาคส่วนก่อน ที่สำคัญควรมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อคิดเห็นต่างๆ และทำให้เกิดความเข้าใจกันแต่ละภาคส่วนด้วย ส่วนความขัดแย้งหรือความคิดเห็นที่แตกต่างในขณะนี้ต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย แต่ทั้งหมดเราต้องรอการตีความเนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลมีนัยยะสำคัญ ขอฟังการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกากับความเห็นของครม.ก่อน รวมทั้งดูในข้อกฎหมายด้วย ซึ่งเบื้องต้นการประชุม ครม.วันที่ 17 ก.ค. คณะกรรมการกฤษฎีกาคงนำคำวินิจฉัยของศาลและการตีความมาแสนอต่อครม.
เมื่อถามว่า คิดว่าควรชะลอการโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ไว้ก่อนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องรอฟังก่อน เมื่อถามย้ำว่า ต้องทำประชามติก่อนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขอฟังความเห็นของกฤษฎีกาก่อน เมื่อถามว่ากลุ่มนิติราษฎร์เสนอให้ยุบศาลรัฐธรรมนูญ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ยังสรุปไม่ได้ ต้องรอการตีความของกฤษฎีกาก่อน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม ก.ต.ช.ในวันนี้จะตัว ผบ.ตร.คนใหม่หรือไม่ โดยนายกฯ หัวเราะและกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าขอประชุมก่อน อย่าเพิ่งพูดอะไร เมื่อถามย้ำว่า มีคนอยู่ในใจแล้วใช่หรือไม่ นายกฯ ได้แต่ยิ้ม เมื่อถามว่า ใช่อักษรตัวย่อ อ. หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ตอบ ก่อนจะรีบขึ้นรถออกไปทันที