“ชวนนท์” จี้ “จาตุรนต์” รับผิดชอบปากพล่อยกล่าวหาศาลเขียนคำวินิจฉัย ยุบ พท.ล่วงหน้า อัดโรคคางคกตู่ระบาดในพรรค ดีแต่กล่าวหาไม่รับผิดชอบ ด้าน “ราเมศ” แนะนิติราษฎร์ยุบตัวเองแทนยุบศาล รธน. จวก “วรเจตน์” เนรคุณทุนหลวง ไม่มีความสำนึก ตะเพิดถอดคราบนักวิชาการสมัครเป็นสมาชิก พท.อย่าเป็นอีแอบใช้วิชาการบังหน้ารับใช้ระบอบทักษิณ ยุส่งเผาตำราเกี่ยวกับศาล รธน. ลูกศิษย์จะได้ไม่สับสน เหตุตำราที่เขียนกับสิ่งที่แสดงออกมาขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง
วันนี้ (15 ก.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตสมาชิกบ้านเลขที่ 111 แสดงความรับผิดชอบที่เคยระบุก่อนการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่ามีการเขียนคำวินิจฉัยไว้ล่วงหน้าว่าจะยุบพรรคเพื่อไทย แต่ท้ายที่สุดศาลก็ไม่ได้มีคำตัดสินเป็นไปอย่างที่นายจาตุรนต์กล่าวอ้าง นายจาตุรนต์จึงควรรับผิดชอบต่อการกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริงด้วย ทั้งนี้ เห็นว่าโรคจตุพรกำลังแพร่ระบาดในพรรคเพื่อไทย เพราะคนในพรรคนี้อยู่ในภาวะที่ดีแต่พูด ดีแต่กล่าวหา และเปลี่ยนคำพูดทุกวันเมื่อไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะนักการเมืองจะต้องรับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเองด้วย เช่น กรณีของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ก็ออกมาระบุว่าจะมีการพูดที่ข่มขู่จับตัวตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จนทำให้สังคมไทยรวมถึงต่างชาติตื่นตระหนก รวมถึงกรณีที่นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ออกมาอ้างว่ามีการลงขันกันเพื่อให้ยุบพรรคเพื่อไทยด้วย เป็นการแถลงข่าวแบบคิดเองเออเอง พูดเพื่อให้เป็นข่าว โดยไม่รับผิดชอบต่อผลของคำพูดที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหาย ประชาชนเกิดความรำคาญ
ด้าน นายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะนิติราษฎร์เตรียมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับข้อเสนอแนะให้ยุบศาลรัฐธรรมนูญว่า กลุ่มนิติราษฎร์ควรหยุดแสดงความเห็นที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะศาลรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มีอำนาจในการตรวจสอบความชอบของร่างกฎหมาย และการกระทำแห่งการขัดกันของผลประโยชน์ ของสมาชิกรัฐสภา และครม. เป็นอำนาจตรวจสอบที่เป็นประโยชน์สำหรับประเทศชาติ อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญเป็นหนึ่งในอำนาจตุลาการ ดังนั้น นิติราษฎร์ต้องสำนึกในเรื่องเหล่านี้ พร้อมกับตั้งคำถามว่า นิติราษฎร์เคยอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทุกฉบับหรือไม่ มีฉบับไหนที่ไม่ตัดสินตามกฎหมายและความเป็นจริง จึงเสนอให้ยุบศาลรัฐธรรมนูญ
นายราเมศกล่าวว่า โดยเฉพาะนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ แกนนำนิติราษฎร์ ได้รับทุนหลวงร่ำเรียนจนจบจากประเทศเยอรมนี แต่ไม่มีสำนึกปกป้องกระบวนการยุติธรรมแม้แต่น้อย ทั้งนี้ตนเข้าใจว่าการติติงทางวิชาการให้ปรับปรุงแก้ไขสามารถทำได้ เป็นสิทธิเสรีภาพที่สามารถให้ความเห็นทางวิชาการได้ แต่ขอถามกลับไปว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยออกมาย่ำยีอำนาจตุลาการ นายวรเจตน์ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน มีจิตสำนึกจะปกป้องกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ เคยสำนึกต่อทุนที่รับไปเรียนวิชากฎหมายจากต่างประเทศบ้างหรือไม่ จึงแสดงความเห็นให้ยุบศาลรัฐธรรมนูญ และมักออกมาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นประโยชน์กับพรรคเพื่อไทย
“ผมเสนอว่า ยุบนิติราษฎร์ง่ายกว่ายุบศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้นิติราษฎร์ยุบแนวคิดที่เป็นปฏิปักษ์และเป็นเสี้ยนหนามต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพราะเป็นการเสนอความเห็นที่ไม่เป็นประโยชน์กับประเทศไทย ผมแนะนำให้นายวรเจตน์กลับไปเรียนที่เยอรมันใหม่ เพราะเยอรมันมีศาลรัฐธรรมนูญเป็นหลักในการปกครองของประเทศเยอรมัน และถ้ามีแนวความเห็นทางการเมืองแนวเดียวกับพรรคเพื่อไทยและพวก ผมจะพาไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยจะได้ต่อสู้ความเห็นทางการเมืองในสภา อย่าเป็นอีแอบทางการเมืองใช้วิชาการบังหน้ารับใช้ระบอบทักษิณ ผมแนะนำให้นายวรเจตน์ให้เผาตำราที่เขียนเกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญ ลูกศิษย์จะได้ไม่สับสนเพราะตำราที่เขียนกับสิ่งที่แสดงออกมาขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง จะติดตามและต่อสู้นิติราษฎร์ปกป้องศาลรัฐธรรมนูญ” นายราเมศกล่าว