ผู้ตรวจการฯ รับแก๊งแดงเคยร้องวินิจฉัย “กษิต” นั่ง รมว.กต. ยันไม่สองมาตรฐาน อ้างระบบผิดพลาดทำข้อมูลเพี้ยน ปัดเจตนาปกปิด ปัดตั้งภรรยาเป็นกุนซือ แต่รับเมียมาทำงานวุฒิอาสาไม่ได้เงินแผ่นดิน
วันนี้ (13 ก.ค.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงว่า กรณีที่ตนเคยกล่าวว่านายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศไม่เคยถูกร้อง ให้ตรวจสอบการเข้ารับตำแหน่ง ความจริงแล้วมีคนเคยร้องนายกษิต คือ นายพิชา วิจิตรศิลป์ ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบแล้วการวินิจฉัยของผู้ตรวจไม่ถือเป็นการสองมาตรฐานอย่างที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ โดยทั้งกรณีของนางนลินี ทวีสิน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ และนายกษิต ผู้ตรวจการมีมติให้ยุติเรื่อง เนื่องจากไม่พบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรม แต่ในกรณีของนางนลินี และนายณัฐวุฒินั้น ผู้ตรวจฯ ได้มีข้อเสนอแนะว่านายกรัฐมนตรีควรระมัดระวังในการแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งควรคำนึงถึงพฤติกรรมของผู้ที่จะแต่งตั้ง
ส่วนกรณีที่เคยบอกว่าผู้ตรวจการฯไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนนายกษิต แต่ข้อเท็จจริงแล้วมีการร้องเรียนนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นการผิดพลาดของระบบคอมพิวเตอร์ ซึงขณะนั้นเป็นช่วงของการย้ายสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจากที่เก่ามายังศูนย์ราชการฯ จึงทำให้ระบบสืบค้นข้อมูลเกิดปัญหาทางด้านเทคนิค ตรวจค้นไม่เจอ แต่เมื่อไปตรวจสอบอีกครั้งแล้วพบซึ่งถือ เป็นข้อผิดพลาดโดยเจตนาสุจริตเกิดขึ้นโดยไม่ได้จงใจแต่เป็นอุบัติเหตุ
“เรื่องนายกษิต ผมยอมรับว่าเป็นคนเซ็นหนังสือแจ้งมติของผู้ตรวจการให้กับนายพิชา วิจิตรศิลป์ ผู้ร้องทราบจริง แต่เป็นการเซ็นในขณะที่เป็นเลขาธิการสำนักงาน ไม่ได้ร่วมเป็นผู้พิจารณาด้วย ซึ่งเวลานั้นสำนักงานมีหนังสือที่ต้องเซ็นต์ออกมาก จึงทำให้หลงลืมไปว่า เคยมีเรื่องดังกล่าวร้องมาที่ผู้ตรวจฯ แต่เมื่อทราบภายหลังก็ไม่มีเจตนาที่จะบิดเบือนปกปิด หรือเหยียบไว้ แต่ก็ได้ออกมาชี้แจงให้ทราบ”
ส่วนที่มีข้อความโพสต์ลงในเว็บไซต์เฟซบุ๊กระบุว่า นายศรีราชาแต่งตั้งภรรยาเป็นที่ปรึกษาตัวเองนั้น นายศรีราชากล่าวว่า ความจริงแล้วไม่เคยมี มีแต่การแต่งตั้งวุฒิอาสา ที่เป็นการรวบรวมคนที่ยังมีไฟทำงานเพื่อแผ่นดินมาช่วยกันทำงานเท่านั้น ทั้งนี้การมาทำงานของภรรยาตนไม่ได้ใช้งบประมาณของแผ่นดินหรือมีการเบิกจ่ายใดๆ กับสำนักงานทั้งสิ้น เป็นแต่การมาทำงานเพื่อแผ่นดินโดยจิตอาสาเท่านั้น