นายทะเบียนพรรคการเมือง มีคำสั่งให้รวมยุบพรรคไว้เป็น 7 สำนวน ทั้ง พท.- ปชป.และ 6 พรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่คำร้องยุบ พท.เหตุอยู่ภายใต้สั่งการ “แม้ว” ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งโดยจัดทำป้ายหาเสียง “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” จ่อเข้าพิจารณากกต.เร็วๆ นี้
วันนี้ (21 พ.ค.) สำหรับคำร้องที่มีการร้องให้มีการยุบพรรคผ่านนายทะเบียนพรรคการเมือง นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 จนถึงปัจจุบัน มีทั้งหมด 29 เรื่อง ซึ่งนายทะเบียนฯ ได้มีความเห็นเสนอ กกต.และ กกต.มีมติเห็นชอบให้ยกคำร้องไปแล้วจำนวน 15 เรื่อง ยังคงเหลือ 14 เรื่อง ในจำนวนนี้นายทะเบียนมีคำสั่งให้รวมไว้เป็น 7 สำนวน เนื่องจากเป็นคำร้องที่มีลักษณะเดียวกัน จึงให้รวมไว้เป็นสำนวนเดียวกัน ได้แก่ กรณีร้องให้ยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากการดำเนินการของพรรคเพื่อไทยอยู่ภายใต้การสั่งการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรื ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง โดยมีการจัดทำป้ายหาเสียง “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” มีการจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง” โดยผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการไต่สวนที่นายทะเบียนพรรคการเมืองตั้งขึ้นดำเนินการไต่สวนเสร็จสิ้นแล้วอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานเพื่อเสนอนายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาเร็วๆ นี้
ส่วนสำนวนที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการไต่สวนจำนวน 6 สำนวน ประกอบด้วย 1. กรณีคำร้องให้ยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากหัวหน้าพรรคได้รับรองผู้ที่ขาดคุณสมบัติในการลงสมัครรับเลือกตั้ง คือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ลงสมัครรับเลือกตั้ง 2. กรณีเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ร้องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังชล และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เนื่องจากหาเสียงโดยสัญญาว่าจะให้ 3. กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้องขอให้ยบุพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากรับเงินบริจาคน้ำท่วมจากบริษัท อีสต์ วอเตอร์ ที่เข้าข่ายเป็นบริษัทต้องห้ามมิให้พรรคการเมืองรับเงินบริจาค ตามมาตรา 71 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง จำนวน 1 ล้านบาท
4. กรณี นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ร้องให้ยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากหัวหน้าพรรคได้รับรองผู้ที่ขาดคุณสมบัติในการลงสมัครรับเลือกตั้ง คือนายจตุพร พรหมพันธุ์ ลงสมัครรับเลือกตั้ง
5.กรณีนายพิชา วิจิตรศิลป์ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากกระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ โดยการโฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และปลุกระดมให้ประชาชนเกลียดชังรัฐบาล และ 6. พล.ต.จำลอง
ศรีเมือง และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร้องขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคพลังชล และขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ส.ว.และคณะรัฐมนตรี ทั้ง 416 คน ที่เห็นชอบในการแก้ไข
รัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นการกระทำล้มล้างรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
สำหรับกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย อ้างว่า หากพรรคประชาธิปะตย์จะยื่นยุบพรรคเพื่อไทยจากกรณีที่ส่งนายจตุพร ลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ต้องเทียบเคียงกับกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปรับรองนายธานินทร์ ใจสมุทร ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.สตูล นั้น กรณีดังกล่าว กกต.ได้ยกคำร้องไปแล้ว โดยเป็นหนึ่งในจำนวน 15 เรื่องที่ กกต.ยกคำร้อง โดยนายนาวี พรหมทรัพย์ เป็นผู้ร้องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เซ็นรับรองนายธานินทร์ ใจสมุทร ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และต่อมานายธานินทร์ ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง โดย กกต.ยกคำร้อง เพราะเห็นว่าการลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ. กฎหมายไม่ได้กำหนดให้หัวหน้าพรรคต้องรับรองการลงสมัครเหมือนการเลือกตั้งส.ส. อีกทั้งกฎหมายไม่ได้ระบุไว้ว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นต้องสังกัดพรรค