“มาร์ค” ลุยสำรวจแนวป้องกันน้ำ ติง “รัฐบาลปู” ไร้แผนทำความเข้าใจมวลชน ห่วง ประมูล 3 แสนล้าน ทุจริตอื้อ ย้ำต้องทำให้โปร่งใส ก่อนทิ้งอนุสาวรีย์โกง ทำรัฐเสียค่าโง่ซ้ำซาก จวกปล่อยเวลาครึ่งปีสูญเปล่า อ้างเร่งรัดฟังไม่ขึ้น วอน ป.ป.ช.-สตง.ร่วมตรวจสอบ หลัง ครม.ยกเว้นระเบียบจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด เล็งใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารบีบรัฐบาลเปิดข้อมูล ด้านก๊วนแดงตามราวี “มาร์ค” ระหว่างตรวจความคืบหน้าการซ่อมแซมประตูระบายน้ำบางโฉมศรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมขบวนคาราวานสำรวจแนวทางป้องกันอุทกภัย 2555 เพื่อออกแบบประเทศไทย ร่วมกับศูนย์อาสาฯคนไทย โดยเริ่มกิจกรรมแรกที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในปี 2554 ได้ใช้เป็นศูนย์พักพิงฯ
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปัญหาเรื่องการจัดระบบอพยพ ศูนย์พักพิง ถือเป็นการบ้านของรัฐบาลตั้งแต่ปีที่แล้วเพราะมีความสับสนค่อนข้างมาก และปัญหาประตูระบายน้ำรวมถึงการกำหนดพื้นที่รับน้ำ รวมทั้งการดูแลนิคมอุตสาหกรรม เพราะการสร้างเขื่อนเป็นเพียงแค่การป้องกันทรัพย์สินไม่ให้เสียหายเท่านั้น แต่ถ้าเกิดน้ำท่วมจริงโรงงานก็ไม่สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว และยังมีปัญหาเรื่องการสนับสนุนงบประมาณและผลกระทบที่จะเกิดกับชุมชนนอกนิคมด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นโจทย์หลักที่รัฐบาลต้องมีคำตอบ แต่หากไม่มีความเปลี่ยนแปลงจากเดิมก็ยังมีความเสี่ยง
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ขณะนี้หากน้ำไม่ท่วมก็ไม่ได้หมายความว่ามีการบริหารจัดการที่ดีขึ้นเพราะยังไม่เห็นว่ารัฐบาลจัดการแตกต่างไปจากเดิม นอกจากว่าปริมาณน้ำน้อยลงกว่าปีที่แล้ว 20% ในขณะที่ยังไม่เห็นรูปธรรมของการบริหารจัดการ แต่รัฐบาลมุ่งให้ความสำคัญกับโครงการขนาดใหญ่ การประมูลงานสามแสนล้านกับเอกชน แต่เจ้าของเงินคือประชาชนไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“พรรคประชาธิปัตย์กำลังติดตามการที่รัฐบาลเปิดให้ภาคเอกชนเข้าไปประมูลเพราะคิดว่าจะมีช่องโหว่ให้เกิดการรั่วไหลนำไปสู่การทุจริตอย่างมาก ถ้ารัฐบาลยกเว้นระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดและไม่มีคนทราบรายละเอียดเลยก็เป็นปัญหาแน่ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันตรวจสอบทั้ง ป.ป.ช.และ สตง. เพื่อเป็นการป้องกันก่อนที่จะเกิดความเสียหายประเทศชาติ หากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดก็อาจจำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารเพื่อขอให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลด้วย รัฐบาลควรทบทวนเพราะโอกาสที่จะรั่วไหล ทุจริตมีสูงมาก จะอ้างเรื่องความล่าช้าไม่ได้ เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่มาก หากเริ่มต้นไม่โปร่งใสก็จะไม่จบลงที่ความสำเร็จ แต่เรามีอนุสาวรีย์โครงการขนส่งมวลชน มีโคงการที่ต้องไปฟ้องร้องเสียค่าโง่ ดังนั้นจึงควรทำให้โปร่งใสเพื่อให้เกิดประโยชน์สุงสุดกับประชาชน ที่ผ่านมารัฐบาลมีเวลามาครึ่งปีเป็นอย่างน้อย แต่ไม่ได้มีการวางระบบเลย กลายเป็นว่ามายกเว้นระเบียบ พื้นที่รับน้ำยังไม่ชัดเจนแล้วจะมาเร่งรัดคงไม่ได้”
ส่วนที่มีข่าวว่าญาติของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ได้งานประมูลในโครงการบริหารจัดการน้ำครั้งที่ผ่านมา อาจจะมีการเอื้อประโยชน์ในการประมูลงานรอบใหม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในที่สุดต้องมีการตรวจสอบทั้งหมด และยังมีปัญหาบริษัทต่างประเทศด้วย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เคยไปเคลื่อนไหวในเรื่องเหล่านี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์เดินทางไปติดตามความคืบหน้าการซ่อมแซมประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ที่ จ.สิงห์บุรี ปรากฏว่ามีชายวัยกลางคนสวมเสื้อความจริงวันนี้ เดินเข้ามาในเต็นท์ที่ตัวแทนจากกรมชลประทานกำลังบรรยายสรุปให้นายอภิสิทธิ์และคณะรับฟังถึงความคืบหน้าในการดำเนินการบูรณะประตูระบายน้ำ โดยอยู่ในระยะห่างจากนายอภิสิทธิ์ที่นั่งอยู่ด้านหน้าไม่ถึง 2 เมตร แต่ตำรวจไม่ได้ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ยังมีคนเสื้อแดงอีกประมาณ 5 คนตะโกนจากฝั่งตรงข้ามขับไล่นายอภิสิทธิ์ โดยชายวัยกลางคนที่อยู่ในเต็นท์ตะโกนว่าฆาตกร พร้อมกับเรียกพรรคพวกฝั่งตรงข้ามให้เข้ามาสมทบ จนกระทั่งคนเสื้อแดงที่อยู่อีกฟากหนึ่งเดินมาสมทบ ตำรวจจึงเริ่มขยับเข้าไปกันบริเวณคนเสื้อแดงเอาไว้ ในขณะที่นายอภิสิทธิ์และคณะยังคงปฏิบัติภารกิจรับฟังการบรรยายถึงความคืบหน้าในการซ่อมแซมประตูระบายน้ำบางโฉมศรีต่อโดยไม่ได้สนใจต่อพฤติกรรมของคนเสื้อแดงที่ตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำที่พยาบคายตลอดเวลา
หลังเสร็จภารกิจ นายอภิสิทธิ์พร้อมคณะเดินทางออกจากพื้นที่ดังกล่าว โดยมีประชาชนที่ร่วมมากับคาราวานบางคนแสดงความไม่พอใจ และอยากให้ร่วมกันแสดงออกเพื่อต่อต้านคนเสื้อแดง แต่ก็มีการห้ามปรามกันไว้เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุเผชิญหน้าจนอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งกัน
