xs
xsm
sm
md
lg

นับถอยหลังบรรยากาศอึดอัด แต่ “แม้ว” เครียดกว่า!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

หากนับถึงวันนี้ (12 กรกฎาคม) ก็เหลือเวลาเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมงดีนักก็จะรู้แล้วว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดีล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขว่าจะออกมาในรูปแบบใด

เวลานี้หลายฝ่ายต่างก็มีการวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์กันออกมาต่างๆ นานาทั้งทางลบนั่นคือออกมาว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อนำไปสู่การยกร่างใหม่ทั้งฉบับมีเจตนาเพื่อล้มล้างการปกครองฯ เป็นความผิดสำเร็จแล้ว

ขณะที่อีกฝ่ายยังอ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้อง เพราะกฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้ไว้ อีกทั้งยังเห็นว่าการแก้ไขมาตรา 291 เพียงมาตราเดียว ไม่ใช่เป็นการแก้ไขทั้งฉบับ จึงไม่มีความผิด

ส่วนอีกฝ่ายกลับเชื่อว่าผลคำพิพากษาจะอออกมากลางๆ นั่นคือ แม้ว่าการแก้ไขดังกล่าวส่อเจตนาร่างใหม่ทั้งฉบับ แต่ก็ถือว่าความผิดยังไม่เสร็จสมบูรณ์เนื่องจากยังไม่มีการลงมติในวาระสาม หากจะมีการแก้ไขก็ต้องมีการแก้ไขทีละมาตรา และให้ประชาชนรับรู้ก่อนว่ามีประเด็นใดบ้าง และมีเหตุผลอะไร เหมือนกับให้กลับไปเริ่มต้นใหม่ หรืออาจจะให้ลงมติถามประชาชนเสียก่อน

เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมา ซึ่งก็เป็นไปได้ทุกทาง หรือไม่ก็อาจออกไปในทางอื่น นั่นคือผิดทั้งหมดดังกล่าวมาก็ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลที่ทุกฝ่ายต้องเคารพ ไม่ว่าจะพอใจหรือไม่ก็ตาม

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากสถานการณ์ที่กำลังเข้าสู่วันสุกดิบ บรรยากาศเริ่มตึงเครียด อันเนื่องจากแต่ละฝ่ายกำลังลุ้นได้เสีย อยากให้ผลของคำพิพากษาออกมาเป็นบวกกับตัวเองมากที่สุด

แต่แน่นอนว่า นาทีนี้คนที่น่าจะเคร่งเครียดมากกว่าใคร ก็คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่รับรู้กันว่าอยู่เบื้องหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว ซึ่งนับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเขาก็ถือว่าทุกอย่างได้อยู่เหนือการควบคุมไปแล้ว ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าพลิกผันเพียงแค่ชั่วข้ามคืนเท่านั้น

ขณะเดียวกัน หากคำพิพากษาออกมานอกเหนือจากว่าการแก้ไขไม่ใช่การล้มล้างฯ ถือว่าเป็นผลลบกับเขา รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าจะเกิดแรงสั่นสะเทือนมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง

เพราะว่าถ้าออกมาว่า ผิด เป็นการล้มล้างการปกครอง รับรองว่าเป็นเรื่องใหญ่ จะโดนกันเป็นลูกโซ่ ทั้งพรรคเพื่อไทย ทั้งสมาชิกรัฐสภากว่าสี่ร้อยคนที่ร่วมโหวตให้แก้ไขตั้งแต่วาระที่หนึ่งมาถึงวาระที่สอง นี่ถือว่าโทษหนักสุด

แต่ถึงแม้ว่าจะออกกลางๆ ว่าความผิดยังไม่สำเร็จให้ “ล้างไพ่” ให้กลับไปเริ่มต้นกันใหม่แบบรายมาตรา และต้องบอกเหตุผลด้วยว่าจะแก้ไขมาตราใด และจำเป็นอย่างไร แม้ว่าจะออกประตูนี้เจ็บตัวน้อยที่สุด แต่สำหรับ ทักษิณ ก็ถือว่าเสียหาย เสียเวลา เพราะที่ผ่านมาได้ลงทุนไปมากแล้ว และที่สำคัญหากจะให้เริ่มต้นใหม่สถานการณ์มันก็ไม่เหมือนเดิม โอกาสที่ตัวเองคุมเกมสั่งการนั้นไม่สามารถทำได้เหมือนเดิมอีกแล้ว เนื่องจากนับจากนี้ไปทุกอย่างเริ่มมีความเสี่ยง นั่นคือผลงานของรัฐบาลเริ่มห่างเป้าไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤติเศรษฐกิจจากภายนอกคือยูโรโซนที่จะกระหน่ำเข้ามา ปัญหา “ปากท้อง” ที่ว่าหนักอยู่แล้วจะยิ่งสาหัสกว่าเดิม ซึ่งนี่แหละเรื่องใหญ่ ภาพความเป็นเทวดาจะค่อยๆ เลือนหายไป

จนเหมือนกับคำพูดที่ว่าบางครั้งการขึ้นสู่อำนาจ ได้อำนาจรัฐนั้นอาจจะยาก แต่ที่ยากยิ่งกว่าก็คือการรักษาอำนาจดังกล่าวนั้นไว้ให้นานๆ แต่ในเมื่อบรรยากาศมันไม่เป็นใจ ตรงกันข้ามกับในยุคปี 2544 ที่เขาเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังจากพ้นวิกฤต “ต้มยำกุ้ง” เศรษฐกิจกลับมาเฟื่องฟูตามวงรอบ อีกทั้งคนรู้ทันหูตาสว่างมากขึ้น วันนี้คิดจะกินรวบแบบม้วนเดียวจบ ถ้าพลาดเที่ยวนี้อีกรับรองว่าน่าจะหมดโอกาสแล้ว

ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำพิพากษาบรรยากาศจะตึงเครียด เขม็งเกลียว เพราะทุกฝ่ายกำลังจดจ่อว่าผลจะออกมาแบบไหน แต่เชื่อเถอะคนที่เครียดที่สุดก็ต้องเป็น ทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากนับจากนี้เป็นต้นไปเขาจะสูญเสียการควบคุมไปเรื่อยๆ ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!!
กำลังโหลดความคิดเห็น