xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” ชี้หลัง 13 ก.ค. ประเทศไร้ความสงบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ปานเทพ” ชี้ไม่ว่าศาล รธน.จะตัดสินอย่างไร หลัง 13 ก.ค. ประเทศไร้ความสงบ เพราะหากยกคำร้อง เพื่อไทยจะยิ่งลุแก่อำนาจ นำมาซึ่งแรงต้านจากภาคประชาชน หรือหากตัดสินว่าผิด เสื้อแดงก็จะป่วน เรียกร้องทุกฝ่ายเสียสละ ยอมรับกระบวนการยุติธรรม ด้าน “พิชาย” มั่นใจศาลวินิจฉัยตามความถูกต้อง ไม่หวั่นไหวตามข่าวลือ


 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว" 

วันที่ 10 ก.ค. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

นายปานเทพกล่าวว่า วันศุกร์นี้คงยังไม่มีเหตุรุนแรงทันที แต่หลัง 13 ก.ค.เป็นต้นไป ประเทศไม่สามารถอยู่ในสถานการณ์ความสงบได้เลย ถ้ายกคำร้อง เพื่อไทยก็จะลุแก่อำนาจมากขึ้น ยิ่งกระชับอำนาจมากขึ้น ทำให้เกิดแรงต่อต้านจากภาคประชาชน ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรง ถ้าศาลตัดสินว่าผิดมาตรา 68 โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่ 3 เป็นต้นไป และมีผลถึงขั้นยุบพรรค ก็จะมีคนยื่นตีความว่าถ้ายุบพรรคแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกฯ ซึ่งต้องมาจากการเลือกตั้ง เมื่อพรรคถูกยุบแล้ว ส.ส. สามารถดำรงตำแหน่งในนามของพรรคที่ถูกยุบหรือไม่ หรือเป็นตำแหน่งเฉพาะตน อีกอันที่พันธมิตรฯยื่นไปแล้วที่ป.ป.ช. ก็จะนำไปสู่การดำเนินคดีอาญาในศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แรงกระเพื่อมจึงเกิดขึ้นแน่หลัง 13 ก.ค. จะช้าหรือเร็วเท่านั้น แล้วขึ้นอยู่กับว่าจะมีใครเสียสละหรือไม่

อีกทั้ง นายโภคิน พลกุล ย้ำว่าต้องเลิกมาตรา 309 ซึ่งมันเป็นการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อรองรับ พ.ร.บ.ปรองดองในอนาคตเพื่อไม่ให้ขัดกับรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นเป็นหมากบังคับว่าพันธมิตรฯ ต้องชุมนุม หาก พ.ต.ท.ทักษิณไม่เสียสละเข้าสู่การยอมรับอำนาจศาล

แต่คนมักจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ ด้วยการคิดว่าไม่ใช่ธุระของตัวเองในยุคตัวเองจะปลอดภัยที่สุด ยิ่งไม่ทำหน้าที่ในยุคของตัวเองให้เด็ดขาด สถานการณ์จะเลวร้ายกว่าเดิม หยั่งรากฝังลึกยิ่งกว่าเดิม ถ้าปล่อยต่อให้ยืดเยื้อ ประเทศจะไม่สงบยาวนานอาจเป็นสิบๆ ปี หากไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจัดการให้ถึงขั้นเด็ดขาด และยุติปัญหานี้เสียที ตนเรียกร้องเสมอว่าทุกฝ่ายต้องรู้จักเสียสละ ถ้าผู้นำไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม ประเทศจะไม่มีวันสงบ ต้องรบราฆ่าฟันกันอย่างเดียว

นายปานเทพกล่าวต่อว่า ไม่ว่าผลตัดสินจะออกมาอย่างไร ทุกกลุ่มต้องเคารพศาล ถ้าศาลตัดสินใจเดินหน้าประเทศด้วยความถูกต้อง ประเทศก็จะเรียบร้อยได้ จะแก้ปัญหาระยะยาวได้ แต่ถ้าตัดสินแบบห่วงตัวเอง ก็เสียดายโอกาสในการผ่าตัดประเทศครั้งใหญ่ ซึ่งต่อให้มีข่าวลือ 5 พันล้านบาท ผลเป็นอย่างไร พันธมิตรฯก็จะเคารพ ดังนั้นอนาคตประเทศไทยอยู่ในมือท่านแล้ว ตัดสินอย่างไรประเทศก็เดินไปอย่างนั้น

ด้าน รศ.ดร.พิชายกล่าวว่า การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ มันจะเป็นชนวนความขัดแย้งรอบใหม่ ถ้ายกคำร้อง เสื้อแดงก็จะเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ ช่วงแรกอาจยังไม่มีปัญหา แต่เมื่อมี ส.ส.ร. และกระทบต่อมาตรา 309 ก็จะมีการออกมาประท้วงและนำไปสู่ความรุนแรงได้ แต่ถ้าศาลตัดสินว่าผิดมาตรา 68 เสื้อแดงก็จะเคลื่อนไหวแบบรอจังหวะ คือถ้าเพื่อไทยสามารถรักษาอำนาจรัฐไว้ได้ ก็อาจเคลื่อนไหวไม่รุนแรง ตนคาดว่าเสื้อแดงไม่กล้าออกมาเคลื่อนไหวเร็ว เพราะจะทำรัฐบาลจบเร็วไปด้วย แต่คงยืดเวลาออกไป ให้สามารถเตรียมแผนต่างๆ เพื่อรักษาอำนาจต่อไปในอนาคตได้ก่อน

รศ.ดร.พิชายยังกล่าวว่า ตนเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะทำหน้าที่อย่างกล้าหาญ ยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรรม อย่างมั่นคง ข่าวลือไม่สามารถสร้างความหวั่นไหวให้ศาลได้ และเราต้องให้กำลังใจศาลด้วย





กำลังโหลดความคิดเห็น