“วิรัตน์” เตรียมยื่นคลิป “ค้อนปลอม” ต่อศาล รธน.เพิ่ม-ตีค่า “บิ๊กจิ๋ว” อัลไซเมอร์คิดเพื่อแม้ว

ส.ส.ปชป.ผู้ยื่นคำร้องแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง พอใจศาล รธน.ไต่สวน เตรียมส่งคลิป ปธ.สภาฯ ให้ศาลพิจารณาเพิ่ม อัด “เหลิม” พยายามบอกศาลไม่ต้องยึดกฎหมาย วอนศาลยึดความถูกต้อง ตัดสินกล้าหาญ เย้ย “บิ๊กจิ๋ว” เสนอศาลยุติวินิจฉัย แค่คนอัลไซเมอร์คิดเพื่อทักษิณตลอด


วันนี้ (9 ก.ค.) นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ยื่นคำร้องกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่ แสดงความพอใจการทำหน้าที่ในชั้นไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญตลอด 2 วัน โดยเห็นว่าการให้ถ้อยคำของนายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา พยานของผู้ถูกร้อง ได้ยอมรับกลางศาลว่าโหวตเลือก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะมีความรักนับถือ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ขัดประเพณีการทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรอย่างร้ายแรง อีกทั้งยอมรับด้วยว่าร่างรัฐธรรมนูญที่ ส.ส.ร.จะยกร่างนั้นจะเป็นฉบับใหม่ เท่ากับเป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 50 ทันที

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ทั้ง ส.ส. ส.ว.และรัฐบาลจะยังอยู่ในอำนาจต่อไป เท่ากับว่าคนเหล่านี้ได้อำนาจด้วยการล้มล้างรัฐธรรมนูญฉบับเก่า เป็นการได้มาซึ่งอำนาจด้วยวิธีการนอกรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนคิดว่าประเด็นเหล่านี้ศาลรัฐธรรมนูญย่อมเข้าใจดี รวมทั้งในกรณีของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็รับในสาระสำคัญว่าพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดงเดินคู่ขนานกัน มีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ คนของเสื้อแดง เช่น พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ปราศรัยชัดเจนว่า “ไอ้เหี้ยสั่งฆ่า อีห่าสั่งยิง” และเปลี่ยนเป็น “คุณลุงสั่งฆ่า คุณป้าสั่งยิง” ซึ่งนายใจ อึ๊งภากรณ์ ได้พูดที่สวีเดนว่าไอ้เหี้ยคือใคร ซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นการใส่ร้ายอย่างน่าละอาย รวมถึงกรณีที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า คนไทยปลดรูปที่มีทุกบ้านลงแล้ว เป็นการบ่อนทำลายความเคารพที่ประชาชนมีต่อเบื้องสูง

อีกทั้งก่อนหน้านี้มีความพยายามจะเบี่ยงเบนว่าอำมาตย์คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่มีการใช้คำว่า “เพ็ดทูล” ย่อมไม่ได้หมายความถึง พล.อ.เปรม อย่างแน่นอน นอกจากนี้มีการพูดถึงเรื่องประธานาธิบดี สถาปนารัฐไทยใหม่ ซึ่งทั้งหมดมีคลิปส่งเป็นหลักฐานให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว ดังนั้น สิ่งที่นายยงยุทธยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยเป็นเนื้อเดียวกับคนเสื้อแดง โดยที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่มีกรอบชัดเจนว่าจะ ส.ส.ร.จะยกร่างรัฐธรรมนูญอย่างไร จึงชัดเจนว่ามีความพยายามเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยผ่านการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ ถือว่ามีขบวนการในและนอกสภาเดินคู่กันเพื่อล้มล้างการปกครอง ที่สำคัญคือ พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ที่กระจายอยู่ในมาตราต่างๆ ในรัฐธรรมนูญปี 50 ไม่มีหลักประกันว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากการยกร่างรัฐธรรมนูญของ ส.ส.ร.

สำหรับการให้ถ้อยคำของนายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการกฤษฎีกานั้น นายวิรัตน์กล่าวว่า รัฐสภาไม่สามารถไปล้มล้างรัฐธรรมนูญได้ เหมือนลูกไปฆ่าแม่ไม่ได้ ซึ่งนายอัชพรก็ยอมรับในเรื่องนี้ รวมถึงการตั้งหมวดพิทักษ์รัฐธรรมนูญที่ทำขึ้นมาใหม่ แต่นายอัชพรอ้างว่าแบ่งหมวดเพื่อให้อ่านง่าย ซึ่งถือว่าเป็นการตะแบง ทั้งนี้จะไปรับคำให้การตลอดสองวัน หลังเวลา 16.30 น. และจะยื่นคลิปเสียงนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ต่อศาลเพิ่มเติมด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับแล้วว่าเป็นเสียงของตัวเอง โดยจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญก่อนเวลา 15.00 น. จากนั้นเมื่อได้เอกสารทั้งหมดจะสรุปคำให้การเพื่อแถลงปิดคดียื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 11 ก.ค.นี้ตามที่ศาลกำหนด

ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า ศาลต้องไม่ตัดสินฝืนกระแสความรู้สึกของประชาชนนั้น เท่ากับว่า ร.ต.อ.เฉลิมกำลังบอกศาลไม่ต้องยึดหลักกฎหมาย ให้ยึดจำนวนมือและเท้าแทน ถ้าเป็นจริงบ้านเมืองก็วิบัติ ซึ่งเชื่อว่าคงมีการกดดันศาลเต็มที่ โดยขู่ว่าถ้าไม่พอใจจะเคลื่อนมวลชนเป็นแสน จึงอยากให้ศาลยึดความถูกต้องในการตัดสินคดีด้วยความกล้าหาญ ตรงไปตรงมา ตนเชื่อว่าคนชั่วดำรงอยู่ไม่ได้ตลอด เพราะประเทศไทยศักดิ์สิทธิ์

“ผมยังเชื่อว่าผลคำวินิจฉัยจะออกใน 2 ทาง คือ ตัดสินว่าล้มล้างการปกครองให้ยุบพรรคเพื่อไทย และตัดสิทธิคนที่เห็นชอบในวาระ 1 และ วาระ 2 หรือวินิจฉัยว่ากระบวนการแก้ไขไม่ชอบ ให้ไปทำใหม่ เพราะไม่สามารถยกร่างใหม่ทั้งฉบับได้ แต่ต้องแก้ไขเป็นรายมาตรา ซึ่งก็จะมีผลทั้งทางการเมืองและกฎหมายตามมา แต่ไม่เชื่อว่าจะมีการยกคำร้องในกรณีนี้ อย่างไรก็ตามไม่ว่าผลคำวินิจฉัยจะออกมาในทางใด ผมคิดว่าต้องคำนึงถึงระยะยาวเพราะศาลเป็นองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ความถูกต้อง นิติรัฐ นิติธรรม ถ้าศาลไม่ยืนอยู่ตรงนี้บ้านเมืองอยู่ไม่ได้” นายวิรัตน์กล่าว

นอกกจากนี้ นายวิรัตน์ยังเห็นว่าข้อเสนอของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยุติการวินิจฉัยเรื่องนี้นั้น เป็นเรื่องของคนอัลไซเมอร์ ซึ่งหากจะทำจริงก็คงต้องให้ พล.อ.ชวลิต มาเป็นตุลาการคนเดียวคงจะทำได้ และที่เสนอเช่นนี้ก็เพราะ พล.อ.ชวลิต คิดเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มาโดยตลอด