รายงานการเมือง
“ไอ้เสือถอย” ส่งสัญญาณถอยกันเป็นแถบ.. หลังจากที่ “ค้อนปลอมตราดูไบ” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกมาระบุข้อเสนอให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดอง หรือกฎหมายปรองร้ายประเทศไทยทั้ง 4 ฉบับออกจากการพิจารณาของสภาผู้ราษฎร
ก็เกิดคำถามขึ้นจากหลายฝ่าย ทั้งคนนอกคนในพรรคเพื่อไทยว่ามันคืออะไรกัน!!
ก่อนหน้านี้มีการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดองทั้ง 4 ร่าง ด้วยความคึกคักเอิกเกริก นำโดยร่างหลักของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. ข้อเสนอส่วนใหญ่โดนใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดี และเครือข่ายสมุนลิ่วล้อ มีที่เห็นต่างบ้างในรายละเอียดสำหรับคนเสื้อแดง จึงแทงร่างของตัวเองนำโดย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ประกบเข้ามาแก้เกี้ยว สาระสำคัญคือรักษามวลชนคนเสื้อแดง
ตั้งหน้าตั้งตาลุยแหลกผลักดันเข้าสภา ด้วยคิดว่าคงเดินหน้าเกียร์ 5 ผ่านฉลุย แต่การณ์กลับไม่เป็นดังคาด เจอกระแสต่อต้าน เจอแรงเสียดทานจนลุกเป็นไฟ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกโรงคัดค้านอย่างจริงจังจริงใจ จนในที่สุดก็ต้องชะงัก ชะลอโครงการไว้ก่อน
ท่ามกลางความขุ่นเคืองไม่น้อยจากนายใหญ่ตราดูไบ รวมทั้งผู้ที่เดินเกมผลักดันพ.ร.บ.ปรองดอง อย่าง นายวัฒนา เมืองสุข เพราะหาก พ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านสภาสำเร็จ มลทินที่ติดตัวอย่างคดีรถเรือดับเพลิงก็จะถูกล้างไปด้วย
กระแสคัดค้านเรื่องนี้จากฝ่ายตรงข้ามนับว่าหนาแน่น จุดติด กับข้อหาช่วยเหลือคนคนเดียว ที่แก้ตัวอย่างไรก็แก้ไม่ขึ้น อีกทั้งเรื่องการคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็อ้อมแอ้มพูดกันได้ไม่ชัดเจน ดังนั้นก็คงเข็นเดินหน้าไปลำบาก
ฝ่ายนางสาวลูกหนึ่ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและสมุนลิ่วล้อตึกไทยคู่ฟ้า สุมหัวนึกคิดกันแล้วมองว่า หอบ พ.ร.บ.ฉบับนี้ฝ่ามรสุมไปได้ยาก
หนำซ้ำจะเป็นตัวเหนี่ยวรั้งก้าวเดินของรัฐบาล ดีไม่ดีจะพังพินาศไปก่อนเวลาอันควร ฉะนั้นทางที่ควรเลือกคือต้องชะลอไว้ก่อน หรือถ้าจะดีกว่านั้นก็ถอนออกไปเลยดีกว่า
ดีดลูกคิดคำนวณสถานการณ์การเมืองแล้วไม่ค่อยสู้ดีนัก ลำพังกระแสของรัฐบาลก็ไม่กระเตื้อง มีแต่ทรงๆ ทรุดๆ หากเปิดสภามาแล้วมาเจอปมร้อนๆ อย่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่ยังติดหล่มความขัดแย้งอยู่เข้าไปอีก อาจเป็นชนวนซ้ำเติมสถานภาพรัฐบาลให้หัวทิ่มดิ่งเหวลง
ชั่วโมงนี้ปัจจัยภายนอกก็รุมเร้ารัฐบาล อย่างวิกฤติยูโรโซนก็จ่อกระทบมาถึงประเทศไทย “ยิ่งลักษณ์” ต้องนั่งสุมหัวประชุมทีมเศรษฐกิจไม่เว้นวางแต่ละวัน ส่วนปัจจัยภายในยิ่งหนักหนา โดยเฉพาะเครือข่ายคนเสื้อแดงที่ไปเล่นงานศาลรัฐธรรมนูญ หาเหาใส่หัว หาเรื่องให้รัฐบาลปวดกบาลชัดๆ
เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังคาราคาซัง หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งชะลอลงมติวาระ 3 รอการพิจารณา และไม่ว่าจะตัดสินกันในวันที่ 5-6 ก.ค.นี้หรือไม่ ซึ่งดูแนวโน้มแล้ว ผ่านด่านอรหันต์ยาก หากตัดสินมาเป็นผลลบ รัฐบาลคงไม่กล้าเดินหน้าทำต่อ ตามที่ฝ่ายคนเสื้อแดง และแกนนำบางส่วน ส่งสัญญาณเย้วๆ ให้ลุยไปแบบไม่ต้องสนคำตัดสิน เพราะนั่นเท่ากับเป็นการเอาคอไปพาดเขียงโดยไม่จำเป็น
ความจริงเรื่องเหล่านี้ก็ไม่เห็นรีบร้อน ถ้าไม่ทำเรื่องพวกนี้ รัฐบาลก็ยังเดินหน้าบริหารประเทศไปได้ สบายกว่าด้วยซ้ำ ถ้าไม่เป็นคำขอร้องจากแดนไกล “ยิ่งลักษณ์” ก็คงไม่จำเป็นต้องทำ..
วันนี้เมื่อดูหนทางตีบตัน ประกอบกับเสียงคำรามของตัวน้องสาวที่กำลังดังขึ้น หลังตกเป็นทาสรับใช้พี่ชายมานาน ถึงเวลาขอคืนพื้นที่ตัดสินใจบ้าง คนแดนไกลจึงต้องยอมรามือ โอนอ่อนตามความต้องการของน้องสาว
หลายเรื่องหลายราว ระยะหลัง “ยิ่งลักษณ์” ส่งสัญญาณไปถึงพี่ชายชัด โต้เถียงขึ้นเสียงใส่มากขึ้น เมื่อให้มาบริหารประเทศแล้ว อย่ามาชักใยเป็นหุ่นเชิดเสียทุกเรื่อง ทำแบบนั้นก็ข่มเหงกันเกินไป
“ปู” ก็มีชีวิตจิตใจนะ “พี่แม้ว” !?!
สัญญาณเข้มๆ จากเมืองนอก วันนี้จึงดูทุเลาเบาบางลงไปเยอะ ไม่เว้นแม้กระทั่งอำนาจการปรับครม. ที่ “ยิ่งลักษณ์” ขอมีส่วนร่วมตัดสินใจมากขึ้น เกรงใจพี่ชายน้อยลง ฉะนั้นมันจึงยักแย่ยักยันกันอยู่ ไม่ลงล็อก ไอ้ที่ว่าจะปรับ ครม.กันเร็วๆ เลยต้องเนิ่นช้าออกไป ถ้าไม่ผิดพลาดก็คงจะเป็นช่วงกลางเดือน ก.ค.ถึงเวลาดีเดย์เขย่าติ้ว
แนวโน้มต้องปรับก่อนเปิดสภาฯก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน เพื่อเอารัฐมนตรีที่มีบาดแผลเหวอะหวะออกไป ก่อนที่เลือดจะกระเซ็นมาถึงตัวนายกฯ อันไหนเริ่มบูด เริ่มเน่า ก็ตัดทิ้งไป ตามยุทธศาสตร์สละเบี้ยรักษาขุน!!
การเดินเกมถอยกรูด ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองงวดนี้ คงไม่ใช่การสับขาหลอกอีกต่อไป เพราะหลอกอย่างไรฝ่ายตรงข้ามก็ไม่หลง เนื่องจากเนื้อหามันแจ่มแจ้ง ฟ้องในตัวของมันเองอยู่แล้ว จะเดินเกมเข็นกันต่อไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลเป็นแน่แท้
เพียงแต่ยังมีการยื้อกันภายในว่าจะถอน หรือจะถ่วง
ไอ้ที่จะเดินหน้าต่อ คงไม่แล้ว หากถอนไปเลยก็ใช่ว่าง่าย โดยเฉพาะร่างของคนเสื้อแดง ที่พูดคุยกันภายในยังไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วไหนจะต้องไปดัดจริตบอกมวลชนตัวเอง ยกเมฆอ้างเหตุผลกันปากเปียกปากแฉะ คิดแล้วก็เหนื่อยแทน
ร่างอื่นๆ ที่ยัดกันเข้ามา 3-4 ร่าง จะถอนออกไปหมด มันก็เสียเชิง เสียเหลี่ยมไม่น้อย เหมือนกลายเป็นโจรสิ้นท่าถูกเจ้าของบ้านจับได้
คิดแล้วไม่ถอนไปทันทีดีกว่า รอวัดใจจากกระแสสังคม เล่นเกมถ่วง ยื้อเวลาการพิจารณาออกไปสักระยะ พร้อมเปิดเวทีสานเสวนา เล่นเกมตบตา รอวัดใจอีกครั้ง แล้วค่อยร่างฉบับใหม่แบบเนียนๆ เสียบแทนเข้ามาผสมโรง..ลุยกันอีกรอบ
หรือท้ายที่สุดไม่ได้ต้องไม่ฝืน ค่อยคิดอ่านหาวิธีต่อไป “ยิ่งลักษณ์” เมื่อเข้ามาเล่นการเมืองสักระยะก็ชักมันมือ อยากฝากผลงาน อยากทำอะไรให้เป็นที่จดจำในฐานะนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทยบ้าง ไม่ใช่ถูกตราหน้าว่าเป็น “หุ่นเชิด”เป็น “ร่างทรง”ของพี่ชายที่จับสั่งซ้ายหันขวาหัน ไม่มีตัวตน ไร้ค่า
เกมการเมืองห่ามๆ ห้าว ของพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง จึงดูลดโทนความเกรี้ยวกราดหยาบช้าลงด้วยประการละฉะนี้!!