"มาร์ค" เตือนอย่าวางใจพ.ร.บ.ปรองดอง ต้องจับตาวันเปิดสภา 1 ส.ค. แต่มั่นใจรัฐบาลทำไม่สำเร็จ เพราะพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่รับเรื่องที่ไม่ถูกต้องไม่ได้ พร้อมท้าเสื้อแดงฟ้องศาลโลกคดีสลายการชุมนุม ให้พ่วงคดีฆ่าตัดตอนยาเสพติด - ฆ่าตัดตอนภาคใต้ไปด้วย จะได้เกิดความเป็นธรรม
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่สวนศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยบนเวที "เดินหน้า ผ่าความจริง หยุดล้มรัฐธรรมนูญ - ออกฎหมายล้างผิดคนโกง" ว่า ประชาธิปัตย์เดินหน้าทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่มีไปเกเร นายกฯ มาที่ไหนก็ไม่มีคนของพรรคประชาธิปัตย์ - ผู้สนับสนุน ไปทำอะไรนายกรัฐมนตรี สมัยตนไป เกณฑ์คนมา ขึ้นป้ายด่า ปาของ พยายามที่จะทำร้ายด้วยซ้ำ ซึ่งสิ่งนั้นไม่ใช่แนวทางที่พรรคประชาธิปัตย์ทำ
แต่เมื่อคืนนี้ ขนาดเราเป็นฝ่ายค้านจัดงานที่เรียกว่า ราตรีสีฟ้า เป็นงานระดมทุนเล็ก ๆ ที่ทางชาวปทุมฯ เขาก็ร่วมกันจัดกับพรรคประชาธิปัตย์ ปรากฎว่าจัดในโรงเรียน งานก็เดินไปตามปกติ แต่วิทยุของเสื้อแดงก็ออกอากาศตั้งแต่ตอนช่วงเย็น เชิญชวนคนให้มาขับไล่ ให้มาก่อกวน
นี่แหละ คือสิ่งที่บ่งบอกว่า พรรคการเมืองไหนมีจิตใจที่เป็นประชาธิปไตย ถ้าเรามีจิตใจเป็นประชาธิปไตยใครที่เขาคิดต่าง ใครที่เป็นคู่แข่งเราต้องไม่ไปขัดขวาง ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่กันไป
เมื่อวานนี้เขาก็มาส่งเสียงผ่านเครื่องกระจายเสียง ก็พูดซ้ำไปซ้ำมา ตนก็พยายามอธิบายให้เขาฟังว่าเขามาผิดที่ เพราะว่าเขาตะโกน ๆ ฆาตกร ตนก็บอกว่า ฆาตกรอยู่ดูไบ ไม่ได้อยู่ที่ปทุมธานี
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เป็นธรรมดาพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ มีคนชอบ มีคนไม่ชอบ แต่บ้านเมืองไม่จำเป็นต้องทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่รัฐบาลกลับสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง เพราะหยิบเอา 2 เรื่อง ขึ้นมาทำ เรื่องที่ 1 ก็คือแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ รื้อรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แล้วก็มีเป้าหมายคือต้องการที่จะรวบอำนาจให้เป็นของตัวเอง
เรื่องที่ 2 ก็คือกฎหมายปรองดอง แต่โดยเนื้อหาไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับการปรองดอง แต่เป็นการนิรโทษกรรม ล้างผิด 2 เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องจับตาดูต่อไป
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่าเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเรื่องอู่ตะเภา อยู่ในความสนใจเยอะ นั่นก็เกือบจะสร้างปัญหาให้กับประเทศไทย สื่อในประเทศอาจจะไม่ค่อยออกให้ แต่ในหลายประเทศตั้งแต่ จีน รัสเซีย วิพากษ์วิจารณ์รุนแรงมากว่าประเทศไทยกำลังจะให้สหรัฐฯ มาใช้พื้นที่ปฏิบัติการณ์ทางการทหาร สอดแนมหรือไม่ และจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในภูมิภาค แต่ว่าสุดท้ายรัฐบาลเปลี่ยนใจแล้วก็ไม่อนุมัติโครงการนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
แต่รัฐบาลนี้ก็แปลก พอไม่อนุมัติเสร็จ ออกมาบอกว่าโครงการนี้ไม่ผ่าน เสียประโยชน์ไปแล้วคนที่ต้องรับผิดชอบคือฝ่ายค้าน โดยข้อเท็จจริงฝ่ายค้านยังไม่ได้บอกเลยว่าไม่ให้ทำโครงการนี้ แค่ถามไปว่าโครงการนี้ดูรายละเอียดดีแล้วหรือยัง อย่าให้มันสร้างความหวาดระแวง ความเคลือบแคลงใจกับมิตรประเทศของเราในภูมิภาค แต่ถามกี่วัน ถามกี่ครั้ง รัฐบาลไม่เคยตอบ มีแต่เบี่ยงเบนประเด็นบอกว่า โครงการนี้เริ่มสมัยรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งไม่จริง โครงการนี้เขาขอมารัฐบาลที่แล้ว รัฐบาลที่แล้วยังอยู่ในช่วงที่ซักถาม ถามประเด็นที่ตนถามปัจจุบันนี้แหละ ข้อมูลเอาไปทำอะไร ใช้อะไรมาสำรวจ ประเทศเพื่อนบ้านว่าอย่างไร หนังสือที่ออกไปจากรัฐบาล คือกระทรวงการต่างประเทศ 2 วันก่อนเลือกตั้ง ยังถามคำถามอย่างนี้อยู่เลย
ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องศูนย์ภัยพิบัติ ไม่ได้เกี่ยวกับข้อตกลงที่หน่วยงานของไทยไปทำไว้เมื่อปี 53 แต่อย่างใด แต่ว่าสุดท้ายรัฐบาลก็ไม่ชี้แจง ไม่ตอบ ความจริงที่ไม่ผ่านนี้ 1. ไม่ผ่านเพราะรัฐบาลเองก็ไม่แน่ใจเรื่องข้อกฎหมาย ว่าเข้าข่ายขัดมาตรา 190 หรือไม่ 2. ในการประชุมคณะรัฐมนตรี หน่วยงานด้านความมั่นคงเขายังท้วงติงอยู่ เช่นในโครงการนี้เขาจะบินใช้เครื่องบินรุ่นหนึ่ง ซึ่งเป็นเครื่องบินที่เคยใช้ในการสอดแนม เรดาห์จับไม่ได้ เครื่องบินนี้ก็จะเป็นเครื่องบินซึ่งเฉพาะนักบินอเมริกันที่จะขึ้นไปได้ นักวิทยาศาสตร์ไทยขึ้นไม่ได้ ก็ต้องถามว่ามันจำเป็นอย่างไร ถึงจะต้องอยู่ในโครงการนี้
เราเอาแผนที่มาดูครับ ที่เขาบอกว่า เพื่อนบ้านไม่ว่าอะไร และอีก 2 ประเทศมาร่วมคือกัมพูชา กับสิงคโปร์ ปรากฎว่าเส้นทางบินของเขาจะบินเหนือเฉพาะน่านน้ำของกัมพูชา ซึ่งตนไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับที่นาซา กับที่บริษัทเชฟร่อน เขามีความร่วมมือกันแล้วก็อยากจะสำรวจทรัพยากรใต้ทะเลหรือไม่ แต่พอขึ้นฝั่งไปบนฝั่งกัมพูชา กัมพูชาไม่ให้บินเหนือแผ่นดินของเขา สิงคโปร์ซึ่งเขามีอำนาจในการควบคุมน่านฟ้าที่ออกไปจากอ่าวไทย ไปทางทิศของทะเลจีนใต้ อนุญาตให้บินได้หมด แต่พอไปถึงเกาะสิงคโปร์ ห้ามบินเหนือเกาะ แต่มีประเทศเดียวอนุญาตให้บินเหนือแผ่นดินของตัวเองทุกตารางนิ้วตามโครงการนี้ คือประเทศไทย
สุดท้ายรัฐบาลก็เลยบอกว่า ไม่มั่นใจ ถูกท้วงติงในเรื่องความมั่นคง ถูกท้วงติงตรงนี้ ก็ถอย และตนก็ได้ข่าวมาว่า มิตรประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเขาแสดงความไม่พอใจ จนรัฐบาลเองก็ไม่กล้าที่จะผ่านเรื่องนี้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือไม่กล้ารับผิดชอบ อยู่ดี ๆ มาบอกว่าฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบ คนที่มาบอกให้คนอื่นรับผิดชอบ ตัวเองนั่นแหละนั่งอยู่ในที่ประชุม ต้องรับผิดชอบการตัดสินใจของตัวเอง
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า เสื้อแดงจะเอาตนไปขึ้นศาลโลก กรณีสั่งสลายการชุมนุม ถ้าจะเอาตนขึ้นศาลโลก รัฐบาลนี้ประกาศไปเลยศาลโลกมาตัดสินคดีนี้ แต่ขอแถมอีก 2 คดี คือคดีฆ่าตัดตอนยาเสพติด กับฆ่าตัดตอนภาคใต้ จะได้เกิดความเป็นธรรม
ส่วนเรื่องพ.ร.บ.ปรองดอง ตอนนี้ท่านประธานสภา ก็พูดจาดี เริ่มบอกว่าจะไม่พิจารณาเรื่องนี้ ตอนนี้ไปเจรจาคนเสนอกฎหมายว่าจะถอนออกไปได้หรือไม่ แต่พี่น้องอย่าประมาท เพราะสภาเปิดเมื่อไหร่เรื่องนี้ก็ยังค้างอยู่เป็นอันดับที่ 1 ถึงคนเสนอจะขอถอน ก็ถอนออกไปเลยไม่ได้ ตามข้อบังคับต้องประชุมสภาก่อนและต้องให้เสียงข้างมากอนุญาตให้ถอนเรื่องออกไปได้ ฉะนั้นเราต้องจับตาดูจากวันนี้ ถึงวันที่ 1 สิงหาคม ที่สภาจะเปิด พรรคเพื่อไทยจะมีท่าทีที่ชัดเจนแค่ไหนว่าจะถอน หรือไม่ถอนเรื่องนี้เราวางใจไม่ได้
พี่น้องต้องช่วยบอกกันต่อ ๆ ไปให้ทั่วถึง ว่าอันตรายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของรัฐบาลครั้งนี้ มันกำลังงวดเข้ามา กำลังพยายามที่จะปลุกระดมมวลชนเพื่อผ่านกฎหมายล้างผิดพวกตัวเอง กำลังจะเดินเข้าสู่การรื้อรัฐธรรมนูญ เพื่อที่จะทำลายอำนาจตุลาการ อำนาจศาล และอำนาจขององค์กรอิสระ ปูทางให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับมายึดครองประเทศไทยแบบเบ็ดเสร็จ แต่ตนเชื่อในพี่น้องประชาชน เชื่อว่าคนส่วนใหญ่รับเรื่องที่ไม่ถูกต้องไม่ได้ และเชื่อว่าเขาทำไม่สำเร็จ