00...ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ย้ายด่วนเจ้าของรหัส น.1 พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็น เวลา 30 วัน พร้อมกับมีคำสั่งให้ “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ต.คํารณวิทย์ ธูปกระจ่าง มารักษาราชการ ผบช.น. ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา
โดยข้อวิพากษ์ที่ถือว่าตรงกัน คือ “วินัย” ถูกโทษฐานไม่ทำตามคำสั่ง “นายใหญ่” ที่ต้องการให้สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อเปิดทางให้ ส.ส.เพื่อแม้ว เข้าสภาพิจารณา พ.ร.บ.ปรองดอง (เพื่อกู) และอีกข้อสันนิษฐานหนึ่ง คือ เพื่อเซฟตัวไม่ให้ถูกดำเนินคดีหากมีเหตุการณ์รุนแรงเกี่ยวกับการสลายการชุมนุมที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหลัง
หากถามว่าทำไม “นายใหญ่” จึงคิดและกระทำการเช่นนั้น...
เขามั่นใจได้อย่างไรว่า “คํารณวิทย์ ธูปกระจ่าง” จะทำตามคำสั่งเขาทุกประการ โดยไม่ขัดใจทำให้อารมณ์เสียอย่าง “วินัย ทองสอง” อีก!
สำหรับ “คำรณวิทย์” นายตำรวจผู้นี้ ว่ากันว่าเขาคือตำรวจในคาถาของ “เฉลิม อยู่บำรุง” เขาทำได้ทุกอย่างหากนายสั่ง และเขาได้ประโยชน์ โดยเห็นได้จากผลงานอันป่าเถื่อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนใต้ สมัยเข้าไปคุมทัพในเก้าอี้ผู้การฯ นราธิวาส โดยผลงานฆ่าตัดตอนในครั้งนั้น ได้ถูกบันทึกไว้หน้าหนึ่งของ “คนสุมไฟใต้” แม้ผลการกระทำครั้งนั้นในภายหลังเขาจะถูกย้ายพ้นพื้นที่ไปนั่งผู้การฯ ตราด แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นการลงโทษแต่ประการใด เพราะผู้การฯ ตราด ใครๆ ก็อยากเป็น
การเข้ามาคุมทัพนครบาลในช่วงการเมืองร้อนแรง ด้วยมาตรการหักดิบ แหกด่าน ตัวบทกฎหมายของ “นักโทษชายหนีคดี” ถือว่าอันตรายอย่างยิ่ง และอาจพูดได้ว่า นั่นคือ “ใบสั่งตาย” ที่ “คำรณวิทย์” รับมาจาก “นายใหญ่” โดยผลแห่งคำสั่งดังว่าสามารถออกได้สองทางคือ... “ประชาชนตาย!
หรือ คำรณวิทย์ตาย!”
00...มาถึง “วินัย ทองสอง” ที่หลายคนแปลกใจว่าเป็นเครือญาติกับนายใหญ่แท้ๆ แต่ทำไมจึงทำกับวินัยได้ เหตุการณ์ครั้งนี้สอนให้รู้ว่า ใครก็ตามที่ขัดคำสั่งนายใหญ่ มันผู้นั้น จะต้องถูกลงโทษ!
ใช่! บุคคลอื่นที่ไม่ใช่เครือญาติ เมื่อถูกลงโทษอาจจะไม่สามารถร่วมสังฆกรรมกันได้อีก บางรายถูกขับออกจากกลุ่ม แต่สำหรับ “วินัย สองทอง” ไม่เป็นเช่นนั้น...
ส่วนท่าทีไม่เด็ดขาดของ “วินัย สองทอง” จะเกิดจากความรู้สึกส่วนตัวของท่านหรือเปล่าไม่ทราบ เพราะหากจำกันได้ ครั้งแรกๆ ของการเข้ารับตำแหน่ง น.1 เขาเคยพูดให้นักข่าวฟังว่า ใจจริงของเขาไม่อยากมานั่งเก้าอีกตัวนี้ เพราะกลัวปัญหาเรื่องม็อบ เพราะหากทำอะไรผิดพลาดลงไป นั่นหมายถึงอนาคตจบทันที
วันนี้สำหรับเส้นทางชีวิตสีกากีของ “วินัย ทองสอง” คนวงในฟันธงตรงกันว่า “เขาไปไม่กลับ” กล่าวคือเขาจะไม่หวนกลับมานั่งตำแหน่ง ผบช.น.อีกแน่นอน แต่เขาจะไปอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น หรือดีขึ้นกว่าเดิม หากหวย(การเมืองเถื่อน)ไปออกที่ “นายใหญ่” เป็นฝ่ายชนะ
00...ต่อกันที่ “รองแต้ม” พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ถูกคำสั่งให้ย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงาน ผบ.ตร.เป็นเวลา 30 วันเช่นกัน
โดยในส่วนของ “วิชัย สังข์ประไพ” เป็นที่รู้ๆ กันว่า เขามีสายสัมพันธ์ที่ดีกับแกนนำเสื้อแดง และเป็นนายตำรวจที่ประนีประนอมสูง แต่บทบาทการควบคุมม็อบพันธมิตรฯ นายใหญ่ เห็นว่า “หน่อมแน้มไปหน่อย” จึงถูกหางเลขโยกย้าย เพื่อให้ดูว่าหากย้าย “วินัย” แล้ว แต่ “รองแต้ม” ยังอยู่ที่เดิมก็อาจจะไม่สมจริงสมจังเท่าใดนัก!
ดังนั้น จากคำสั่งเปลี่ยนบทบาทของตำรวจมะเขือเทศข้างต้น หากวิเคราะห์แบบชั้นเดียวเชิงเดียว และสามารถทำให้ประชาชน เราๆ ท่านๆ เข้าใจแบบง่ายๆ ก็คือ...มันก็แค่ละครฉากหนึ่งในการโยกย้ายตำรวจระบอบทักษิณเท่านั้นเอง...!!!