xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” จี้ “ปู” นำนาซาขอใช้อู่ตะเภาเข้าสภาตามมติ ครม. พร้อมให้แจงด้วยตัวเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (แฟ้มภาพ)
“อภิสิทธิ์” เรียกร้อง “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” ดันนาซาขอใช้อู่ตะเภาเข้ารัฐสภาตามมติ ครม. พร้อมแจงและตอบคำถามด้วยตัวเองในฐานะผู้นำรัฐบาล ชี้ปัญหานี้เป็นเรื่องของบ้านเมืองไม่ใช่การเมือง ไม่สน “สุชาติ” ทำนายรัฐบาลอายุสั้น ระบุจะสั้นยาวไม่สำคัญ แต่อยู่แล้วทำอะไรเพื่อประชาชนมากกว่า


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการหลังจากที่ ครม.ไม่อนุมัตให้นาซาใช้สนามบินอู่ตะเภาสำรวจก้อนเมฆในชั้นบรรยากาศว่าจะต้องมีการประสานกับทางาหรัฐอเมริกาว่ายังสนใจที่จะทำโครงการนี้ต่อหรือไม่ อย่างไร ส่วนการนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ตามมาตรา 179 ที่ ครม.มีมตินั้นก็ไม่มีปัญหา แต่เป็นเรื่องธรรมดาที่ประธานสภาจะยังไม่ได้รับการประสาน เนื่องจากมติ ครม.เพิ่งออกไปในวัที่ 26 มิ.ย. 55 อีกทั้งยังต้องรอให้สภาเปิดก่อนด้วย โดยจะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาหรือไม่นั้น เป็นดุลพินิจของรัฐบาล เพราะหากรัฐบาลมีแนวคิดที่อยากจะเจรจาเพื่อทำโครงการนี้ต่อไป อยากจะฟังข้อมูลจากสภาก็สามารถทำได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้ยินว่ารัฐบาลจะไม่นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา แต่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ที่บอกว่าไม่จำเป็นต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมแล้วนั้นก็เป็นความเห็นส่วนตัว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลตัดสินใจที่จะไม่อนุมัตโครงการนี้ก็มีหน้าที่ชี้แจงการตัดสินใจของตัวเอง แต่ในขณะนี้ก็ยังอยู่ในสภาวะเดิมที่รายละเอียดโครงการไม่ได้รับการอธิบาย ไม่ตอบคำถามของสังคม แม้กระทั่งคำถาจากหน่วยงานภายในของรัฐด้านความมั่นคง แต่เป็นความพยายามที่จะสร้างประเด็นการเมืองด้วยการโยนความรับผิดชอบออกจากตัวเอง ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนตัดสินใจ โดยรัฐบาลควรเริ่มต้นชี้แจงเรื่องข้อเท็จจริงโครงการก่อนเป็นอันดับแรก และต้องยอมรับว่าเวลาที่จะมีการเปิดสนามบินอู่ตะเภาให้ต่างประเทศใช้ และการใช้สามารถนำไปสู่ปฏิบัติการที่อาจเกี่ยวข้องกับการทหาร ความมั่นคงได้ ก็เกิดผลกระทบกับความมั่นคง ตนเข้าใจว่าการพิจารณาใน ครม.เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมารัฐบาลก็ทราบดีว่ามีปัญหาด้านความมั่นคง จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจไม่ดำเนินการต่อ เพียงแต่ไม่รับผิดชอบการตัดสินใจของตัวเองจึงพยายามโยนไปเรื่องอื่น

นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่นักวิทยาศาสตร์จะออกมาแสดงความเสียดายที่โครงการไม่ผ่าน แต่ต้องเทียบประโยชน์ด้านวิทยาศาสตร์กับผลกระทบด้านอื่นด้วย เพราะรายละเอียดต่างๆ นั้นนักวิทยาศาสตร์ที่ออกมาแสดงความเห็นก็ไม่ทราบทั้งหมด ดังนั้น ผู้ที่ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลดีด้านวิทยาศาตร์กับผลกระทบด้านความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นหน้าที่ของฝ่ายการเมืองคือรัฐบาลต้องตัดสินใจ เพราะมีโครงการที่มีทั้งข้อดีข้อเสียฝ่ายการเมืองต้องตัดสินใจในเชิงนโยบาย และเมื่อรัฐบาลตัดสินใจอย่างนี้ก็แสดงว่ารัฐบาลเห็นว่าการเดินหน้าต่อไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบและชี้แจงเหตุผลต่อประชาชน

ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมตรี ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยอ้างว่าไม่พูดเรื่องการเมืองนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องการเมือง และคนที่เอาเรื่องนี้มาเป็นการเมืองก็มีแต่คนของรัฐบาลเท่านั้น ทั้งที่เรื่องนาซาเป็นเรื่องของบ้านเมืองที่จะต้องพิจารณาว่าประเทศไทยจะมีจุดยืนนโยบายในแง่ของความมั่นคงในภูมิภาคอย่างไร สนใจในการทำความร่วมมือกับมิตรประเทศอย่างไร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องของบ้านเมืองทั้งสิ้นไม่ใช่เรื่องการเมือง ดังนั้นเมื่อนายกรัฐมนตรีแถลงเองว่าจะเปิดสภาเพื่อให้มีการพิจารณาเรื่องนี้ ก็ต้องมาตอบคำถามและชี้แจงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพราะไม่คิดว่าจะมีรองนายกรัฐมนตรีคนไหนสามารถรับผิดชอบทั้งงานด้านความมั่นคง และวิทยาศาสตร์ได้ อีกทั้งนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาลที่ต้องดูให้ครบทุกมิติ และเป็นผู้ตัดสินใจด้วย

ส่วนกรณีที่นายสุชาติ ธาราธำรงเวช รมว.ศึกษาฯ ระบุว่ารัฐบาลจะอยู่ยากนั้น นายอภิสิทธิ์มองว่าเป็นเรื่องภายในของรัฐบาล แต่สำหรับประชาชนอยากได้ยินเรื่องการแก้ปัญหามากกว่า ไม่ใช่จะอยู่ 12 ปี 20 ปี หรือสิ้นปีนี้ เพราะประชาชนสนใจว่าที่รัฐบาลอยู่ในตำแหน่งจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น