xs
xsm
sm
md
lg

“ไอ้เต้น” ซัดผู้ตรวจการฯ อ้าง “ปู” ตั้งเป็นอำมาตย์ไม่ต่าง “กษิต” แต่ยกคำร้อง-จี้ลาออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อำมาตย์แดงได้ทีซัด “ศรีราชา” ทำเป็นลืมลงนามยกคำร้อง “อภิสิทธิ์” แต่งตั้ง “กษิต” สมัยเป็นเลขาฯ อ้างไม่มีอะไรแตกต่างแต่จงใจเล่นงาน โยนความผิดข้าราชการผู้น้อย ได้ทีจับโยงโจมตีเป็น ส.ส.ร.จากคณะปฏิวัติ เสนอให้นายกฯ ไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง ซัดพวกทำลายบ้านเมือง จี้ควรลาออกรับผิดชอบ ปัดยื่นถอดถอนอ้างไม่อยากเป็นภาระ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง"นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ให้สัมภาษณ์" 

วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้าราชการกรณีความผิดพลาดเรื่องการตรวจสอบเอกสารที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยกคำร้องการแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับตน กรณีดังกล่าวมีความชัดเจนว่านายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซี่งขณะนั้นเป็นเลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ลงนามในหนังสือยกคำร้องเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2553 ตนอยากถามนายศรีราชาว่าสมัยเป็นผู้ตรวจในปี 2555 กับในฐานะเลขาธิการฯ ในปี 2553 ทำไมจึงพูดกันคนละอย่าง ถือเป็นการพูดเท็จเพราะกรณีนายกษิตได้ออกคำวินิจฉัยมาแล้ว

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ในหนังสือคำวินิจฉัยยกคำร้องกรณีนายกษิต แม้เป็นบุคคลที่ขึ้นเวทีปราศรัย แต่มองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงออกทางการเมือง ซึ่งมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นได้ ตามบทบบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 45 หาทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีไม่ ดังนั้น กรณีที่นายอภิสิทธิ์แต่งตั้งนายกษิตจึงไม่ใช่การขัดต่อบทบัญญัติหรือประมวลจริยธรรม เรื่องนี้นายศรีราชาเป็นผู้ลงนามเอง โดยเรื่องนี้เป็นกรณีเดียวที่สำนักงานฯ ได้ดำเนินการ นายศรีราชาจะจำไม่ได้เชียวหรือ ถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงแล้วเอาข้อผิดพลาดไปยัดเยียดให้ข้าราชการชั้นผู้น้อย ผู้ที่รู้เรื่องนี้ดีและน่าจะรู้ก่อนใครควรเป็นนายศรีราชา จึงอยากให้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ทบทวน อย่าใช้อำนาจไปรังแกผู้น้อย แล้วควรหันไปเอาความจริงกับนายศรีราชาจะดีกว่าว่าปกปิดเรื่องนี้ทำไม การอ้างว่ากรณีนายกษิตกับตนต่างกันเพราะศาลแพ่งมีคำสั่งว่าการชุมนุมขัดต่อกฎหมาย กรณีนายกษิตศาลแพ่งก็เคยมีคำสั่งออกมาในลักษณะเดียวกัน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 39 เรื่องสิทธิในกระบวนการยุติธรรมถือว่าขณะนี้ทั้งตนแลนายกษิตซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ด้วยกันทั้งคู่

“ยิ่งชัดเจนว่ากระบวนการแต่งตั้งรัฐมนตรีโดยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่มีอะไรแตกต่างกัน แต่การปฏิบัติของผู้ตรวจการแผ่นดินแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว มันเลยเกิดปัญหา เพราะองค์กรตรวจสอบไม่ทำหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ ตรงไปตรงมา บิดเบือน ใช้อำนาจมากกว่าที่กฎหมายรองรับไว้เพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้าม ที่มาของนายศรีราชาก็เคยเป็นอดีต ส.ส.ร.50 โดยการแต่งตั้งของคณะปฏิวัติ และเป็นคนที่เคยเสนอประเด็นว่านายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงตัวตนของบางคนที่ไปทำลายความจริง ทำลายกฎเกณฑ์ของบ้านเมือง ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับองค์กรหรือบุคคลอื่น แต่ยอมรับคนที่แฝงตัวตนไว้กับองค์กรเหล่านี้ไม่ได้ ขอเรียกร้องให้ผู้ตรวจฯ แสดงความรับผิดชอบ อย่าให้ต้องพูดว่าควรพิจารณาตัวเองอย่างไร เพราะสังคมสามารถวินิจฉัยได้ อย่าเอาตัวเองมาทำให้องค์กรมัวหมอง ปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวตนแต่อยู่ที่องค์กร ขอให้กำลังใจข้าราชการผู้น้อยที่เป็นแพะรับบาป ถ้าต้องการความเป็นธรรมก็ขอให้เปิดเผยความจริงออกมา อย่าก้มหัวให้ผู้ใหญ่ที่ขาดความเป็นธรรม อย่าก้มหัวให้ความมีโมหะและอคติ” นายณัฐวุฒิกล่าว

เมื่อถามว่าจะยื่นถอดถอนนายศรีราชาหรือไม่ในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่รอบคอบ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า คงต้องขอเปลี่ยนคำถาม เรื่องนี้ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่โดยไม่รอบคอบ แต่ถือเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซี่งตนจะไม่ลงชื่อถอดถอนเพราะไม่ควรเป็นภาระให้กับประชาชน ขอให้ผู้ตรวจฯ พิจารณาตัวเองจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ตรวจการอีก 2 คนหากไม่มีคำอธิบายที่ดีแก่สังคมก็อาจถูกมองว่ามีส่วนรู้เห็นด้วย ดังนั้นจึงควรมีคำอธิบายที่ดี ที่ผ่านมาผู้ตรวจการฯ พูดได้หลายเรื่อง ดังนั้นเรื่องนี้ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวเอง ควรชี้แจงให้สังคมรับทราบ สังคมจะรับได้หรือไม่ได้สังคมจะพิจารณาเอง ตนจะรอดูว่าคนที่เรียกร้องจริยธรรมของคนอื่น พอถึงคราวตัวเองจะมีท่าทีอย่างไร ตนไม่ได้มาชวนทะเลาะ แต่เห็นว่าไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรม ดังนั้นจะปล่อยผ่านเลยไปไม่ได้ เมื่อถามว่าผู้ตรวจการฯ ควรมีอยู่ต่อไปหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของตัวบุคคล ถ้าเป็นผู้อยุติธรรมก็ไม่สมควรอยู่ ควรรักษาองค์กรเอาไว้ แล้วแสดงความรับผิดชอบตัวเองจะดีกว่า เพราะวันนี้ก็เห็นชัดเจนแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนชี้เป้า ให้องค์กรตรวจสอบกระโดดเข้าขย้ำ กรณีนาซาขอตั้งสถานีตรวจอากาศก็เห็นแล้วว่าทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไปไม่ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น