“เด็จพี่” ขู่ฟอดฟัน “อภิสิทธิ์-กัลยา” ปมแถลงการณ์ร่วม “นาซา-จิสดา” ไม่ผ่าน ครม.

โฆษกเพื่อไทยได้ที่เอาคืน ปชป. รวบรวมหลักฐานฟัน “คุณหญิงกัลยา-ครม.อภิสิทธิ์” กรณีลงนามแถลงการณ์ร่วมระหว่างจิสด้ากับนาซาไม่ผ่าน ครม. ถือละเว้นหน้าที่ตาม ม.157 ท้าควรประณามใครทำให้ไทยเสียโอกาส ได้ทีด่ากราดผู้ตรวจการฯ โกหกคำโตไม่รับผิดชอบ ทำเป็นแฉตั้งเมียเป็นวุฒิอาสากินเบี้ยประชุม-ค่าเดินทาง อ้างควรตัดนิ้วร้ายทิ้ง

วันนี้ (28 มิ.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซา ยกเลิกการใช้อู่ตะเภา โดยไม่รอคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือการพิจารณาของรัฐสภาไทยว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ที่คนไทยและประเทศไทยต้องเสียโอกาสที่เกิดจากการเล่นเกมของฝ่ายค้านและฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล จนรัฐบาลต้องมีมติส่งเรื่องให้รัฐสภาพิจารณา แล้วนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังโยนบาปมายัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ครม.ว่ารัฐบาลเล่นเกมทำเป็นประเด็นการเมือง ซึ่งตนมองว่าไม่เป็นความจริง เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไม่ได้นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นการเมือง เพราะรัฐบาลชุดนี้เล่นการเมืองไม่เก่ง แต่รัฐบาลชุดนี้เน้นบริหารบ้านเมืองเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ไม่เน้นเล่นเกมการเมืองเพื่อเอาชนะคะคานกัน เหมือนนายอภิสิทธิ์และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า ตนอยากจะย้อนถามนายอภิสิทธิ์ว่าในสมัยเป็นผู้นำรัฐบาลที่ผ่านมานั้น เอกสารการลงนามในแถลงการณ์ร่วมระหว่างสถาบันพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือจิสดา ภายใต้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กับนาซา มีขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน 2553 โดยมีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็นเจ้ากระทรวงในขณะนั้น โครงการนี้ไม่นำเข้าหารือ ครม. อยากถามว่าสิ่งที่ทำ รมต.วิทยาศาสตร์ฯ รู้เห็นด้วยหรือไม่ ถ้าไม่รู้เห็น ทำไมไม่ออกมาคัดค้าน และนายอภิสิทธิ์ทำไมไม่ดำเนินการหรือคัดค้านเหมือนตอนนี้ แสดงให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ใช้ประเด็นนาซาในขณะนี้เป็นเกมการเมืองเพื่อทำลายรัฐบาลเท่านั้น

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ตนและทีมกฎหมายกำลังรวบรวมหลักฐานเอาผิดอดีต รมต.วิทยาศาตร์ฯ และ ครม.ชุดนายอภิสิทธิ์ ที่ไม่ดำเนินการทักท้วง ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 โดยในสัปดาห์หน้าตนจะยื่นฟ้องเอาผิดและตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้เห็นข้อเท็จจริงว่าใครทำให้คนไทยเสียโอกาส เพื่อเป็นคดีตัวอย่าง และไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอย่างนี้อีก

“อยากให้ประชาชน นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ ได้เห็นพฤติกรรมของนายอภิสิทธิ์ และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และควรจะต้องประณาม ที่ทำให้ประเทศไทย และคนไทย 60 กว่าล้านคน เสียโอกาสถึงการได้ประโยชน์จากโครงการนี้ ทำให้นานาชาติขาดความเชื่อมั่นประเทศไทย เพราะการคัดค้านอย่างไม่มีเหตุผล” นายพร้อมพงศ์กล่าว

นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่โฆษกผู้ตรวจการแผ่นดินต้องออกมาชี้แจงแทนนายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่ารู้สึกผิดหวังในการทำหน้าที่ของนายศรีราชาที่ไม่กล้าพูดความจริง ไม่กล้าชี้แจงด้วยตนเอง เมื่อถูกจับโกหกจับได้คาหนังคาเอกสาร การโกหกคำโตต่อสังคมเช่นนี้ยังจะมีหน้ามาปฏิเสธความรับผิดชอบอีก การกระทำของนายศรีราชานอกจากต้องการปกปิดเรื่องไว้เพื่อหาทางเล่นงานนายณัฐวุฒิได้เต็มที่ แต่นายกษิต ภิรมย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่กล้าแตะต้อง เข้าข่ายสองมาตรฐานชัดเจน อยากจะถามนายศรีราชาในฐานะผู้ตรวจสอบทางจริยธรรมของฝ่ายบริหารของนักการเมืองและองค์กรอื่นๆ ต้องมีความรับผิดชอบและมีจริยธรรม วันนี้ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกได้แล้ว

นอกจากนี้ ตนได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่า นายศรีราชาได้ตั้งภรรยาตนเองเป็นวุฒิอาสา ทำหน้าที่เหมือนที่ปรึกษาของตัวเอง ไม่มีเงินเดือน แต่มีเบี้ยประชุม มีค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ จริงหรือไม่ ถ้าจริงถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และนายศรีราชาก็ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบคนอื่น ซึ่งตนจะตรวจสอบต่อไป ว่ามีการใช้จ่ายต่างๆ มากหรือไม่ ตนขอเรียกร้องให้ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะได้ตรวจสอบเรื่องที่สังคมสงสัย และกังขา ไม่เช่นนั้นปลาตัวเดียวจะเน่าไปทั้งข้องจะทำให้องค์กรเสื่อมเสียได้ นิ้วไหนร้ายก็ตัดทิ้งไป